​Based On Toastory สเปรดแคลอรี่ต่ำ อิ่มได้ไม่กลัวอ้วน!





 

     ความอร่อยกับความอ้วน สองสิ่งที่อยู่เคียงข้างกันมาเนิ่นนาน จะหาของอร่อยที่ไม่อ้วนก็ยากแสนยาก อะไรที่เพื่อสุขภาพ รสชาติก็ไม่ค่อยจะถูกปากกันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าวันหนึ่งมีของที่อร่อยแถมยังกินได้โดยไม่อ้วนล่ะ คุณว่ามันจะดีสักแค่ไหน!? 
 

     Based On Toastory สเปรดทาขนมปังในรูปแบบใหม่ที่ดีต่อใจแถมยังดีต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับคนที่ชอบความอร่อยและยังกลัวอ้วน เพราะ Base On Toastory นั้นแคลอรี่ต่ำเว่อ โดยป้อง - ธเนศ อุดมสิริวัฒน์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์นี้ได้เล่าว่าแต่เดิมเป็นคนชอบทานแยมกับขนมปังอยู่แล้ว แต่เมื่อทานไปนานๆ แยมที่มีในท้องตลาดส่วนใหญ่ก็แคลอรี่สูง กินแล้วไม่สบายพุง ไม่สบายใจเท่าไหร่แถมยังมีตัวเลือกน้อย จึงทำให้เขาเริ่มคิดว่ามันน่าจะมีอะไรที่ไปต่อได้ในตลาดนี้
   

        
    
     “ที่บ้านของผมเขาชอบทานพวกขนมปังกับแยมอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่แยมในท้องตลาดก็แคลอรี่ค่อนข้างสูง มีแต่ช็อกโกแลต นูเทลล่าหรือพวกแยมผลไม้ แต่บางทีเราก็อยากกินที่มันรสชาตินู้น รสชาตินี้ที่มันแตกต่างแต่ก็หาไม่ได้ เลยทดลองทำกันขึ้นมาเอง แล้วรู้สึกว่ามันน่าจะไปต่อได้ เลยพัฒนาสูตรแล้วก็ต่อยอดมาถึงตอนนี้”
               

     จากนั้นป้องก็ได้ทดลองทำสเปรดเพื่อสุขภาพแบบ Home Made เน้นการใช้วัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ใช่น้ำตาลแต่เปลี่ยนเป็นสารให้ความหวานที่แคลรี่ต่ำกว่าเท่าตัว ไม่มีไขมันทรานส์ ที่สำคัญยังมีให้เลือกถึง 7 รสชาติ 7 สไตล์ทั้งคาวและหวานเลยทีเดียว
               

     “รสชาติที่เราออกมาตอนแรกมี 3 รสชาติคือชาไทย ชาเขียวและโอวัลติน ซึ่งก็ยังเป็นรสชาติที่เราขายดีอยู่ จุดเด่นของเราคือเรามีหลายรสชาติ ต่างจากในตลาดที่มีแค่ไม่กี่อย่าง นอกจากนี้เราก็มีรสที่เป็นผลไม้ แต่เราคิดว่าถ้าทำแค่ผลไม้เฉยๆ ก็จะไม่ต่างจากที่ในตลาดมี เราเลยเอาผลไม้ 2 อย่างผสมกันเพื่อให้ได้รสชาติที่แตกต่างออกไปคือ ส้มกับแอปเปิ้ลและสตรอเบอร์รี่กับเลม่อน ผลตอบรับคือดีมากเลยเพราะนอกจากอร่อยแล้วแคลอรี่ยังต่ำมาก ต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไปประมาณ 2 เท่า คือเราจะมีการคำนวณคร่าวๆ ตอนผลิตว่ามันน่าจะแคลอรี่เท่าไหร่ หลังจากนั้นก็จะส่งไปตรวจที่แลปเพื่อได้แคลอรี่ที่ตรงมากขึ้น เป็นการซื่อสัตย์กับลูกค้าด้วย”
 

            

     สำหรับช่องทางการขายในตอนนี้ ป้องยังเน้นการขายออนไลน์และขายตาม Healthy Store ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ โดยสินค้าอยู่ในกระบวนการขออย. ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะได้เห็น Based On Toastory ตามโมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้าแน่นอน
               

     นอกจากนี้ป้องยังเล่าให้ฟังถึงการพัฒนาสินค้าจาก Pain Point ที่ได้เจอนั่นคือเรื่องของอายุสินค้าที่ค่อนข้างสั้นและเป็นปัญหาใหญ่สำหรับธุรกิจในช่วงแรก จนได้ปรับเปลี่ยนวิธีการบรรจุสินค้าเพื่อไม่ให้มีเชื้อโรคปนเปื้อนระหว่างการบรรจุ ในที่สุดก็สามารถยืดระยะเวลาสินค้าได้เป็น 1 เดือนในตู้เย็นและกำลังวิจัยเรื่องของอายุสินค้ากับมหาวิทยาลัยหนึ่ง เมื่อเสร็จสิ้นการวิจัย สินค้าของ Base On Taostory จะอยู่นอกตู้เย็นได้ 1 ปีเลยทีเดียว หลังจากนั้นก็จะสามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ง่ายขึ้น
     

          

     ป้องได้ปิดท้ายว่าในตอนนี้ เทรนด์ของสินค้าสุขภาพกำลังมาแรงมาก ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคเองที่ใส่ใจการดูตัวเองมากขึ้น ต้องการสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้น อีกทั้งยังมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทำให้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับคนที่สนใจทำธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ
               

     “จากที่ผมศึกษาเทรนด์สุขภาพ ผมคิดว่ามันจะไปได้อีกไกล ผู้คนหันมาสนใจการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทั้งการออกกำลังกายแบบใหม่ๆ ต่อยมวย ฟิตเนส ปั่นจักรยาน ผู้บริโภคเขามีความรู้ด้านสินค้ามากขึ้น เวลาไปซื้อสินค้าจะไม่ใช่แค่หยิบของแล้วแต่เขาจะมีการพลิกดูฉลาก ใส่อะไรบ้าง แคลอรี่เท่าไหร่ คนสนใจเรื่องเหล่านี้มากขึ้น คำแนะนำสำหรับคนที่อยากทำธุรกิจเพื่อสุขภาพคือความจริงใจ อย่าหลอกลวงผู้บริโภคเพราะสุดท้ายแล้วมันจะไม่ดีต่อตัวคุณเองในระยะยาว”



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ทิ้งเก้าอี้ผู้บริหารบริษัทระดับโลก มาปั้นแบรนด์บะหมี่ขาย เดือนละ 60 ตู้คอนเทนเนอร์!

ได้ขึ้นแท่นตำแหน่งสูง งานดี เงินดี น้อยคนนักที่จะคิดอยากลงมาเริ่มต้นใหม่ แต่อาจไม่ใช่กับ ยัง ชาง หนุ่มไต้หวันที่ตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง เพื่อออกมาเป็นผู้ประกอบการปั้นแบรนด์บะหมี่ของตัวเองขาย

ส่งไม้ต่อจากรุ่นสู่รุ่น “ไชยแสง” โมเดิร์นเทรดตำนานเมืองสิงห์ ทำอย่างไรจึงยืนหยัดนานกว่า 30 ปี

เมื่อทายาทรุ่นใหม่เข้ามาสานต่อกิจการ ไม่ได้เพียงรับช่วงต่อ แต่ยังรับเอาหัวใจของธุรกิจ คือความเข้าใจผู้คนในท้องถิ่น และกล้าที่จะปรับเปลี่ยน จึงทำให้ธุรกิจไม่เพียงอยู่รอด แต่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ “ห้างไชยแสง” สิงห์บุรี

SME ต้องรู้!!! 5 เทรนด์ Up Coming ปี 2026 รู้ก่อน เท่ากับ โอกาส

ปี 2026 สิ่งที่ SME ไทยต้องโฟกัสคือการนำเทรนด์ใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องวิ่งตามทุกอย่าง แต่ต้องเลือกสิ่งที่เหมาะกับปัญหาและเป้าหมาย และเทรนด์ทั้ง 5 นี้ คือ “เข็มทิศ” ที่จะช่วยให้ SME ไทยเตรียมรับมือและพลิกเกมธุรกิจได้อย่างชาญฉลาดในปี 2026