ไอเดียล้ำ! หนุ่มไทยเปลี่ยนขยะเป็นหุ่นยักษ์ ต่างชาติรุมออร์เดอร์

Text: Yuwadi.s
Photo: โจ้เก้าอี้ถังน้ำมัน




Main Idea
  • เมื่อขยะล้นโลกขึ้นทุกวัน คงจะดีไม่น้อยหากใครสักคนมีไอเดียนำขยะมาสร้างสิ่งใหม่ที่ใช้งานต่อได้ ลดขยะให้โลกใบนี้และหนึ่งในนั้นคือผู้ประกอบการไทยที่ได้นำยางรถยนต์เก่ามาสร้างหุ่นยักษ์ เพิ่มมูลค่าได้แตะหลักแสนบาท!
 
  • เขาคนนี้คือประสิทธิ์ สว่างพันธุ์ เจ้าของ โจ้เก้าอี้ถังน้ำมันที่เริ่มต้นด้วยการเอาถังน้ำมันมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์และต่อยอดมาเป็นหุ่นยักษ์จากยางรถยนต์


     โลกเราทุกวันนี้เกิดปัญหาการ Over Consume หรือการบริโภคเกินความจำเป็นทำให้เกิดของเหลือใช้เป็นจำนวนมาก หลายสิ่งใช้เวลาเป็น 100 ปีกว่าที่จะย่อยสลายได้หมด ด้วยความที่ขยะรอบตัวของเราเยอะเกินไป ถ้าเราสามารถเปลี่ยนขยะเหล่านี้กลายเป็นสิ่งใหม่ได้ ก็น่าจะดีต่อโลกใบนี้มากขึ้น!

     หนึ่งในคนที่มองเห็นคุณค่าของขยะและอยากจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ของเหล่านี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งคือ ‘ประสิทธิ์ สว่างพันธุ์’ เจ้าของ โจ้เก้าอี้ถังน้ำมันที่เริ่มแนวคิดการนำของเหลือมาเพิ่มมูลค่าตั้งแต่ 9 ปีที่แล้ว โดยการนำเอาถังน้ำมันเก่ามาสร้างสรรค์ใหม่ให้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์จนล่าสุดที่ได้ต่อยอดกลายเป็นหุ่นยักษ์จากยางรถยนต์เก่า เพิ่มมูลค่าจนแตะหลักแสนบาท
 


 
     มองเห็นโอกาสจากขยะใกล้ตัว

     
ประสิทธิ์ได้เล่าว่าธุรกิจที่บ้านเป็นโรงงานหุ่นและของที่ระลึกจากไฟเบอร์กลาส ทำให้เขาคลุกคลีกับการทำงานช่างมาตั้งแต่เด็ก จนเมื่อเขาโตขึ้น ก็ได้มองเห็นว่าที่บ้านมีถังน้ำมันและถังไฟเบอร์กลาสที่เหลือจากการใช้งานเยอะพร้อมกับมีที่รุ่นพี่เคารพนับถือซึ่งเป็นอาจารย์คณะศิลปกรรม จุฬาฯ ได้มาจุดประกายไอเดียว่าของเหล่านี้น่าจะทำเป็นสิ่งใหม่ได้ ประสิทธิ์จึงลองนำเอาถังน้ำมันเก่าๆ มาทำเป็นเก้าอี้
 
 

      “ตอนเริ่มทำถังน้ำมัน เราก็ตัดมั่วๆ ทิ้งเป็น 10-20 ใบ ใช้ไม่ได้เลย รุ่นพี่ก็บอกว่าให้คิดใหม่ ทำใหม่ ลองทำไปเรื่อยๆ ทำเยอะๆ จนกว่าจะดี เราก็ทดลองทำมาจนพอเสร็จก็ลองเอามานั่งเล่น สังสรรค์กับเพื่อน เพื่อนก็บอกว่า ทำไมไม่ทำขายเลยล่ะ ยังไม่มีใครทำ ผมก็ลองไปค้นหาข้อมูล เออ..มันยังไม่มีใครทำจริงๆ ก็เริ่มต้นทำมาตั้งแต่ตอนนั้นจน 2-3 ปีก็เริ่มติดตลาดมีออเดอร์เข้ามาตลอด”
 
 


      เฟอร์นิเจอร์จากถังน้ำมันของประสิทธิ์จะเน้นรับออเดอร์แบบตามใจลูกค้า ซึ่งกลายเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกชื่นชอบเพราะได้สินค้าแบบที่ตัวเองต้องการจริงๆ
 

     ต่อยอดไอเดีย! จากยางรถยนต์เก่าสู่หุ่นยักษ์ 
 
 

     หลังจากที่เฟอร์นิเจอร์ถังน้ำมันอยู่ตัวแล้ว ประสิทธิ์ก็ได้อีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจมาก นั่นคือการนำยางรถยนต์เก่ามาทำเป็นหุ่นยักษ์ ซึ่งได้รุ่นพี่คนเดิมเพิ่มเติมคือไอเดียใหม่ที่มาจุดประกายประสิทธิ์อีกรอบ


     “รุ่นพี่ผมได้ไปดูงานที่ต่างประเทศแล้วเห็นชิ้นงานเล็กๆ ที่ทำจากยางเป็นรูปเสือ พอกลับมาก็ลองคุยกันว่า ทำดูไหม เมืองไทยเราเศษยางเยอะ น่าจะทำได้ ผมเลยไปขอซื้อยางจากร้านซ่อมรถ พวกนี้เขาไม่ขายนะ เขาให้เลย เพราะขยะเขาจะไม่เก็บอยู่แล้ว เราก็มาลองวัดสเกล ลองทำดู แรกๆ หุ่นก็ผอมไป สเกลไม่ได้ ต้องแกะโครง เชื่อมใหม่ ไล่ทำใหม่ ตัว สองตัวแรก ไม่สวยเลย ขายไม่ได้ ผมก็ลองทำมาเรื่อยๆ”


     ในที่สุดหุ่นยักษ์จากยางรถเก่าก็เป็นรูปร่างสวยงาม ที่สำคัญยังเหมือนจริง เก็บครบทุกรายละเอียด โดยประสิทธิ์ได้บอกว่าสิ่งสำคัญในการทำงานนี้คือทักษะงานช่างและงานศิลปะผสมผสานเข้าด้วยกัน


     “การสร้างงานอะไรแบบนี้ขึ้นมาเหมือนเป็นการรวมงานช่างหลายศาสตร์เอาไว้ ถ้าเกิดมีทักษะงานช่างอย่างเดียวก็ทำได้ แต่จากทำสิงโตอาจจะกลายเป็นไฮยีน่าได้เลย ตลกเลย หรือถ้ามีทักษะด้านศิลปะอย่างเดียวก็ทำไม่ได้เหมือนกัน มันต้องควบคู่กันไป อย่างเวลาที่เราได้ยางมาเส้นหนึ่ง จะต้องกรีดขอบยางออกก่อนเพราะว่ามันแข็ง ใช้หน้ายางอย่างเดียว เราจะคัดดอกยางว่าดอกยางแบบนี้ต้องอยู่ตรงไหน เช่น เราทำคิงคอง ดอกไม่เรียบจะไว้ตรงหน้าผาก คิ้ว ส่วนที่เรียบๆ จะไว้ที่แก้ม อย่างเราทำส่วนขนต้องกรีดเป็นเส้น ต้องดูริ้วซ้ายริ้วขวา ถ้าไปทางเดียวกันหมดจะดูตลก มันถึงจำเป็นต้องใช้ทักษะศิลปะเข้ามาช่วย”
 




     หุ่นยักษ์แต่ละตัวของประสิทธิ์จะราคาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบ ประสิทธิ์ยกตัวอย่างหุ่นคิงคอง ขนาด 2.5 เมตร ราคา 85,000 บาท ส่วนหุ่นช้างแมมมอส สูง 2.5 เมตร ยาว 3-4 เมตร ราคา 120,000 บาท โดยหุ่นแต่ละตัวจะมีน้ำหนักหลายร้อยกิโลกรัม เนื่องจากเป็นโครงเหล็กบวกกับตัวยางก็มีน้ำหนักเช่นกัน การขนย้ายจึงต้องใช้รถ 6 ล้อหรือใช้ตู้คอนเทนเนอร์ส่งทางเรือไปต่างประเทศ

     กลุ่มลูกค้าหลักของหุ่นยางเป็นชาวต่างชาติ 80% และชาวไทย 20% ประสิทธิ์ได้เล่าว่าชาวต่างชาติจะชื่นชอบสินค้าที่เพิ่มมูลค่าให้กับของเหลือใช้

      “ลูกค้าเจ้าแรกของเราคือคนรัสเซีย ผมทำสินค้าเสร็จก็จะเอาไปแปะตามเว็บไซต์ทั้งไทยและต่างประเทศ ทีนี้ก็มีคนรัสเซียติดต่อมา สั่งเป็น 10 ตัวเลย หลังจากนั้นก็มีคนรู้จักเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างประเทศเวลาเราทำงานพวกนี้ที่จะสร้างมูลค่าได้ต้องทำชิ้นใหญ่ ขนาดใหญ่เลย เพราะสิ่งที่เรานำมาทำคือเศษยางเก่า เราจึงต้องทำให้ใหญ่อลังการ คนจะได้มองเห็นคุณค่ามันว่า มันเจ๋งนะ”

     โดยประสิทธิ์ได้กล่าวปิดท้ายว่าหัวใจสำคัญที่สุดของธุรกิจนี้คือการสร้างสรรค์สิ่งใหม่อยู่เสมอเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอีกทั้งยังต้องตรวจสอบทุกรายละเอียดของเนื้องานให้ดีที่สุด ที่สำคัญคือการทำงานตามใจลูกค้า อะไรที่ลูกค้าชอบ ประสิทธิ์จัดให้ได้ทุกรูปแบบ


     และนี่ก็คือหนึ่งธุรกิจที่เกิดจากการทดลองจนเชี่ยวชาญ ในที่สุดยางรถยนต์เก่าๆ ที่ดูไร้ค่ากลับสร้างคุณค่าได้หลายเท่าตัว
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​