
Main Idea
- ไม่ว่าใครก็ต้องเคยผ่านเรื่องแย่ๆ มาแล้วทั้งนั้น แต่จะมีสักกี่คนที่โชคดีเจอจุดเปลี่ยนชีวิต จนพลิกมาสู่ทางรอดและทางเลือกใหม่ในโลกธุรกิจได้ เช่นเดียวกับ “พิเชษฐ โตนิติวงศ์” ผู้ค้นพบแนวทางใหม่ในการทำธุรกิจเพราะบวชเรียน
- ถ้าต้องมาสืบทอดธุรกิจครอบครัวโดยที่ไม่ได้บวชเรียนมาก่อน เขาก็คงจะเหมือนกับคนทั่วไปที่ใช้กิเลสเป็นตัวนำธุรกิจ คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ได้กำไรสูงสุด ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ตัวเองร่ำรวยขึ้น
- แต่เมื่อได้ก้าวสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์จึงค้นพบคำตอบว่า “ธรรมะ” และ “ธุรกิจ” สามารถไปด้วยกันได้ เมื่อใช้หลักธรรมมานำธุรกิจ เพื่อจะได้ปฏิบัติธรรมในทุกขณะจิตแม้ไม่ได้ห่มผ้าเหลือง

ไม่ว่าใครก็ต้องเคยผ่านเรื่องแย่ๆ และหนักหนามาแล้วทั้งนั้น แต่จะมีสักกี่คนที่โชคดีเจอจุดเปลี่ยนชีวิต จนพลิกมาสู่ทางรอดและทางเลือกใหม่ในโลกธุรกิจได้

หนึ่งในคนที่ว่ามีชื่อของ “พิเชษฐ โตนิติวงศ์” แห่ง “ธรรมธุรกิจ วิสาหกิจเพื่อสังคม” ผู้ใช้หลักความพอเพียงมาสร้างระบบธุรกิจที่ทำให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่รวมอยู่ด้วย
ถามว่าชีวิตวัยหนุ่มเขาเป็นคนยังไง พิเชษฐ เป็นทายาทเจ้าของโรงสี ที่ใช้ชีวิตเฮฮากินเหล้า เที่ยวกลางคืน ไม่ได้สนใจพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด แถมยังเคยเป็นซึมเศร้าและคิดฆ่าตัวตายมาแล้ว เพราะเครียดหนักกับเรื่องเรียน ความรัก เพื่อน และสังคม
ถ้าต้องมาสืบทอดธุรกิจครอบครัวโดยที่ไม่ได้บวชเรียนมาก่อน เขาก็คงจะเหมือนกับคนทั่วๆ ไป ที่ใช้กิเลสเป็นตัวนำธุรกิจ คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ได้กำไรสูงสุด ทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้ตัวเองร่ำรวยขึ้น
แต่ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเสเพล เป็นซึมเศร้า และเคยอยากตาย จะพลิกชีวิตได้หลังเดินเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์
การได้บวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ที่วัดป่านาคำน้อย เป็นศิษย์หลวงพ่ออินทร์ถวายสายหลวงตามหาบัว นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของชีวิต ถึงขนาดที่เขาบอกว่า
“บวชแล้วไม่อยากสึกเพราะชีวิตในผ้าเหลืองแสนจะมีความสุข สงบ ความสุขอื่นใดยิ่งกว่าความสงบเป็นไม่มี”
ท่ามกลางบรรยากาศสงบเงียบของวัดป่านาคำน้อย กุฏิแต่ละหลังตั้งโดดเดี่ยวห่างกันโดยสิ้นเชิง เอื้อต่อการปฏิบัติภาวนาของพระสงฆ์แต่ละรูป โดยมีพระอาจารย์คอยให้คำชี้แนะ พิเชษฐทำตัวเป็นเจ้าหนูจำไมถามทุกสิ่งที่ตัวเองพบเจอ จนเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในเรื่องกรรมและผลของกรรม ภพชาติ การเวียนว่ายตายเกิด ได้รู้ว่าวิชาทางโลกไม่มีสิ้นสุดยังต้องสงสัยต่อไปเรื่อยๆ แต่วิชาทางธรรมมีทางสิ้นสุดที่นิพพาน ซึ่งการจะไปให้ถึงจุดนั้นต้องฝึกจิตภาวนาจนเกิดเป็นมหาสติ มหาปัญญา ดังที่หลวงตามหาบัวเคยบอกไว้
จากที่ก่อนบวชเคยคิดฆ่าตัวตาย หลังจากบวชเขาได้ทบทวน และพบคำตอบว่าศาสนาพุทธสอนให้เชื่อในเรื่อง “กรรมและผลของกรรม” เชื่อในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดหากยังไม่หมดกิเลส และนั่นคือเหตุผลที่การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออก
ในตอนนั้นพิเชษฐอยากครองผ้าเหลืองไปตลอดชีวิต แต่เมื่อรู้ตัวว่าอย่างไรก็ต้องออกมาสานต่อธุรกิจของครอบครัว เขาจึงต้องหาคำตอบให้ได้ว่า หากสึกออกไปแล้วจะทำอะไร? และทำอย่างไร?
คำตอบสุดท้ายของการคิดใคร่ครวญในครั้งนั้นตกผลึกว่าต้องใช้ “ธรรมะไปทำธุรกิจ” เพื่อจะได้ปฏิบัติธรรมในทุกขณะจิตแม้ไม่ได้ห่มผ้าเหลือง เพื่อสั่งสมบารมีให้เหลือชาติภพที่กลับมาเกิดน้อยที่สุด
นั่นเองที่เป็นที่มาของ “บริษัท ธรรมธุรกิจ วิสาหกิจเพื่อสังคม” หลังจากนั้น

สิ่งที่คนมีธรรมะใส่เติมลงไปในธุรกิจ คือการใช้หลักธรรมมายึดเหนี่ยวในการทำงาน ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง พอใจกับทุกสิ่งที่ทำ แต่ก่อนจะทำต้องใช้สติ สมาธิ ปัญญา ต้องทำจิตให้นิ่งก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป และมีธรรมมากกว่ากิเลสนำไปสู่การตัดสินใจ เพื่อให้เกิดปัญหาตามมาน้อยที่สุด ซึ่งเป็นวิธีคิดของการทำธุรกิจในแบบเขา
ถึงแม้ทุกวันนี้จะยังปฏิบัติธรรมอยู่ทุกขณะจิต แต่พิเชษฐก็ตั้งใจว่าสักวันจะวางมือจากธุรกิจแล้วกลับไปอยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง เพียงรอให้ถึงวันหนึ่งที่มีคนมาสานต่อธุรกิจ โดยไม่จำเป็นต้องทำเป็นธุรกิจครอบครัว แต่สืบทอดโดยคนที่มีแนวคิดเดียวกัน และมีความมุ่งมั่นเดียวกัน แล้ววันนั้นเขาก็จะไปตามหาความสงบสุขของชีวิตที่เคยตั้งใจไว้อีกครั้ง
ทุกธุรกิจมีเรื่องราวและเบื้องหลัง และจุดเปลี่ยนบางอย่างในชีวิตก็สร้างธุรกิจที่ดีขึ้นได้ในวันนี้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี