“น้ำพริกน้ำย้อย” ธุรกิจจากความผิดพลาดของทายาทนิธิฟู้ดส์

TEXT : กองบรรณาธิการ
PHOTO : กิจจา อภิชนรจเรข





Main Idea
 
 
  • หลายธุรกิจเกิดจากความตั้งใจที่อยากสร้างสรรค์อะไรบางอย่างออกมาในตลาด แต่ก็มีธุรกิจอีกจำนวนไม่น้อยที่เกิดจาก “ความผิดพลาด”
 
  • เช่นเดียวกับ”น้ำพริกน้ำย้อย” หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของบริษัท นิธิฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องเทศอุตสาหกรรม ที่เกิดจากการทำสินค้าให้ลูกค้าผิดสเปค ต้องสูญเสียกันไปนับล้านบาท จนต้องหาวิธีดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังทำเงินสู่ธุรกิจได้



     ทุกคนมีโอกาสผิดพลาด แต่เชื่อไหมว่าแม้แต่ “ความผิดพลาด” ก็อาจเกิดเป็นโอกาสธุรกิจได้!
               

       เช่นเดียวกับที่มาของแบรนด์ “ย้อย” น้ำพริกน้ำย้อยสูตรเมืองแพร่ ผลิตภัณฑ์น้องใหม่ของนิธิฟู้ดส์ ผู้ผลิตเครื่องเทศอุตสาหกรรมที่หลายคนคุ้นชื่อดี     
               




       เบื้องหลังของไอเดีย มาจาก “สมิต ทวีเลิศนิธิ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิธิฟู้ดส์ จำกัด ทายาทรุ่นสองที่เข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัว เขาเป็นอีกหนึ่งนักคิดนักพัฒนา ที่มักจะหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจครอบครัวอยู่เสมอ แม้แต่ขณะที่เกิดเหตุการณ์ผิดพลาดครั้งใหญ่ ที่สร้างความเสียหายให้ธุรกิจอยู่มาน้อย
               

        เริ่มจากการที่โรงงานนิธิฟู้ดส์  ได้เร่งผลิตหอมทอดกระเทียมทอดเพื่อส่งให้กับลูกค้าที่อเมริกา โดยทอดกันโครมๆ เพราะหอมแดงต้องแข่งกับฤดูกาล หากทอดช้าไปหอมแดงจะหมดจนไม่มีของส่ง ทุกคนเลยต้องทำงานอยู่บนความรีบเร่ง เพื่อผลิตให้ได้ตามเป้า
               

         โจทย์ของการทอดคือห้ามทอดไม่สุก เพราะราจะขึ้น ฉะนั้นหนทางป้องกันคือทอดให้สุกไว้ก่อน กรอบหน่อยแต่ยังพอทำอะไรต่อได้ ปรากฏการเข้าใกล้คำว่าสุกมากไปนิด ทำให้สีของหอมกับกระเทียมเข้มเกินไปจนลูกค้าตกอกตกใจ แม้จะยังกินได้แต่เข้มเกินสเปค ถามว่าทำเกินสเปคไปเท่าไร เบาะๆ เบาๆ แค่ 12 ตัน คิดเป็นค่าเสียหายที่กว่า 2 ล้านบาท!
               





     ถ้าเป็นคนอื่นแก้ปัญหาอาจตัดขายให้ลูกค้าในราคาถูกๆ ไป แต่กับสมิต เขาตัดสินใจคืนเงินมัดจำลูกค้า และรับสินค้าทั้งหมดมาค้างเติ่งอยู่ในโรงงาน เขาบอกว่า ชื่อเสียงของนิธิฟู้ดส์มันสำคัญมากกว่าแค่เงินมัดจำ สิ่งที่เขาต้องทำ ก็คือหาวิธีแก้ไขเพื่อผ่านเหตการณ์นี้ไปให้ได้
               

     เขาตัดสินใจผลิตสินค้าล็อตใหม่ส่งให้กับลูกค้า เสร็จแล้วก็มานับศพทหาร พบว่า มีหอมแดงทอดสีเข้มอยู่ 12 ตัน กองอยู่ในโรงงาน ซึ่งขายทิ้งก็ไม่ได้ เพราะไม่มีใครเอา จะขายถูกก็ไม่กล้าเพราะเสียดาย เลยคิดจะไปขายให้โรงงานทำน้ำพริกเผา พอลูกค้าถามกลับมาว่ามีของเท่าไร ก็บอกไป 12 ตัน เลยได้คำตอบกลับมาว่า ถ้ามีเยอะขนาดนั้นทำไมไม่ทำน้ำพริกขายเองเสียเลยล่ะ
               

     สมิตกลับมาปรึกษากับทีม R&D ว่ามีน้ำพริกอะไรบ้างที่ใช้หอมแดงเยอะๆ  โดยที่สีเข้มก็ไม่เป็นปัญหา สุดท้ายเลยมาลงตัวที่น้ำพริกน้ำย้อย ซึ่งเป็นน้ำพริกขึ้นชื่อของจังหวัดแพร่  โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า “ย้อย” เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำและนึกถึงชนิดของน้ำพริกได้แจ่มชัด ซึ่งปัจจุบันสามารถหาทานได้แล้วในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น
               





     นี่เป็นตัวอย่างของคำว่า Fail Forward หรือการล้มไปข้างหน้า ที่อาจเริ่มต้นจากความไม่ตั้งใจ แต่สิ่งที่ได้กลับมาไม่เพียงการแก้ปัญหาที่อยู่ตรงหน้าได้ แต่ทว่ายังก่อเกิดเป็นโอกาสธุรกิจใหม่ ซึ่งสร้างรายได้อย่างงดงามให้กับพวกเขาอยู่ในวันนี้
               

     ความผิดพลาดอาจไม่ใช่คำที่สวยหรู หรือใครอยากพบเจออยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อต้องเจอกับความผิดพลาด ถ้ารู้จักพลิกมุมมอง รับมือกับปัญหาด้วยสติ คุณก็อาจสร้างสรรค์ธุรกิจดีๆ ขึ้นมาได้ เหมือนที่แบรนด์ย้อยพิสูจน์ให้เห็นแล้วในวันนี้
 



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ชวพล ลีพิพัฒน์ไพบูลย์ อดีตวิศวกรผู้หมดไฟ สู่เจ้าของ Shindo Ramen ร้านราเมนเล็กๆ ที่ได้ไปยืนอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่ญี่ปุ่น

โจ-ชวพล ลีพิพัฒน์ไพบูลย์ อดีตวิศวกรที่ผันตัวเองจากภาวะ Burnout ในชีวิตการทำงาน มุ่งหน้าสู่ญี่ปุ่น ใครจะคิดว่าจากการตัดสินใจในวันนั้นจะนำพาเขาเข้าสู่โลกของราเมน อาหารต้นตำรับของญี่ปุ่น ที่ได้สร้างโอกาสให้กับชีวิตมากมาย

Nori เตารีดไอน้ำมินิมอล ธุรกิจที่เริ่มจากความหงุดหงิด แต่สร้างรายได้ 20 ล้านดอลลาร์

เพราะความหงุดหงิด กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจ Nori เตารีดไอน้ำมินิมอล ที่สร้างรายได้กว่า 20 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 4 ปี

“เบบี้แอนด์มัม”  จาก pain point คนมีลูกยาก  สู่แบรนด์ที่ทำรายได้กว่า 783 ล้านบาท

จากความเจ็บปวดสู่ธุรกิจพันล้าน เมื่อผู้ก่อตั้งเผชิญภาวะมีบุตรยากด้วยตัวเอง กลับพลิก Pain Point ให้เป็นโอกาสด้วย กลยุทธ์ Education-driven จนสร้างรายได้กว่า 783 ล้านบาท นี่คือเรื่องราวของ “เบบี้แอนด์มัม”