ถอดกรณีศึกษา “แฟ้บ” แบรนด์ที่กลายเป็นชื่อเรียกผงซักฟอกของคนไทยจนวันนี้

TEXT : นิตยา สุเรียมมา

 

 
 
Main Idea
 
 
  • “แฟ้บ” แบรนด์ผงซักฟอกจากสหรัฐอเมริกา ที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเมื่อกว่า 70 ปีก่อน จนกลายเป็นที่นิยม และชื่อถูกเรียกแทนคำว่า “ผงซักฟอก” ของคนไทยมาจนถึงทุกวันนี้
 
  • เรื่องราวของผงซักฟอกแฟ้บมีความเป็นมาอย่างไร และอยู่ดีๆ ทำไมถึงกลายมาเป็นชื่อเรียกฮิตติดปากของคนไทยไปได้ มาติดตามไปพร้อมๆ กัน
 
  
               
     เคยได้ยินมาว่าหากอยากสร้างชื่อจารึกให้เป็นที่จดจำของลูกค้า เราต้องเป็นเบอร์ 1 หรือเป็นคนแรกที่ผลิตสินค้านั้นๆ ขึ้นมา ในกรณีนี้ “แฟ้บ” แบรนด์ผงซักฟอกจากสหรัฐอเมริกาที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเมื่อกว่า 70 ปีก่อนน่าจะเป็นเครื่องช่วยยืนยันได้ดี
               




     โดย แฟ้บ ผลิตขึ้นครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อประมาณปี 2493 ชื่อเต็มๆ ของ “FAB” ก็คือ Faster and Better แปลว่า ซักเร็ว ซักได้ดีกว่า โดยแม้จะไม่ใช่ผงซักฟอกยี่ห้อแรกของโลก แต่ด้วยคุณสมบัติที่พิเศษดังกล่าวทำให้ได้รับความนิยมในเวลาอันรวดเร็ว
               

     ก่อนหน้าที่แฟ้บจะเข้ามาทำตลาดในไทย ในประเทศไทยเองได้มีการผลิตผงซักฟอกขึ้นมาใช้ก่อนแล้วในชื่อแบรนด์ว่า “พรรณอร” ผลิตขึ้นเมื่อประมาณปี 2475 และมักขายพ่วงไปกับรถเร่ขายยาตามชุมชนหมู่บ้านต่างๆ แต่ด้วยความที่หาซื้อใช้ได้ยาก อีกทั้งวิธีการใช้งานก็ไม่สะดวก เวลาใช้ต้องนำมาละลายในน้ำเดือดก่อน เพื่อให้ผงซักฟอกละลาย แล้วจึงค่อยนำไปซักผ้า จึงทำให้ไม่ได้รับความนิยมเท่าไรนัก
               




     โดยก่อนที่จะมีการนำผงซักฟอกเข้ามาใช้ทำความสะอาดเสื้อผ้าในเมืองไทย คนไทยเองนิยมใช้สบู่เพื่อซักผ้ามาก่อน รวมถึงอาบน้ำ และล้างจานด้วย จึงมีขนาดก้อนใหญ่กว่าสบู่ที่ใช้ในปัจจุบันมาก โดยเริ่มมีการนำสบู่เข้ามาใช้ในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อประมาณปี 2470 สบู่ยุคแรกๆ ที่ใช้กัน คือ ตราซันไลต์ ตราธง และตราเป็ด
               




     ซึ่งจากการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ว่าเป็นผงซักฟอกที่ซักสะอาดกว่าเพราะฟองมาก ด้วยการซักผ้าในสมัยก่อนที่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นการซักด้วยมือ การตีฟองให้ขึ้นฟูจนทั่วกะละมังจึงช่วยทำให้ผู้บริโภครู้สึกเกิดความมั่นใจในความสะอาด แฟ้บจึงเป็นยี่ห้อผงซักฟอกที่ยืนหนึ่งอยู่ในใจคนไทยตลอดมา จนถึงขั้นนำมาใช้เรียกติดปากแทนการซื้อผงซักฟอกยี่ห้อต่างๆ เช่น “ซื้อแฟ้บกล่องหนึ่ง” “เอาแฟ้บยี่ห้อ...นี้มากล่องหนึ่ง” เป็นต้น


     กระทั่งเมื่อยุคสมัยเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เริ่มมีการประดิษฐ์เครื่องซักผ้าขึ้นมาใช้ จากจุดเด่นของการเป็นผงซักฟอกที่มีฟองมาก ก็กลายเป็นจุดด้อย เพราะการซักผ้าด้วยเครื่องส่วนใหญ่ต้องการใช้น้ำน้อย เพื่อลดการสิ้นเปลืองน้ำ และเพื่อล้างออกได้ง่ายกว่า





     จากจุดเปลี่ยนดังกล่าวจึงทำให้แฟ้บต้องเสียแชมป์ให้กับผงซักฟอกรุ่นน้องที่เน้นชูจุดแข็งของการเป็นผงซักฟอกรุ่นใหม่ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อเครื่องซักผ้าโดยเฉพาะ โดยมีมากมายหลายยี่ห้อให้เลือกในปัจจุบัน ทั้งที่ความจริงแล้วหากวัดกันด้วยคุณสมบัติอาจทำความสะอาดได้ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ถ้าไม่นับรวมเรื่องฟอง เพียงแต่มีการสื่อสารที่แตกต่างกันออกไปเท่านั้น


     แฟ้บ ในตลาดผงซักฟอกของเมืองไทยในวันนี้ จึงอาจไม่ได้หวือหวาเหมือนกับในสมัยก่อน แต่ถึงอย่างไรเสียสิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่ก็คือ แฟ้บ ยังคงเป็นคำใช้เรียกชื่อผงซักฟอกเกือบทุกยี่ห้อแบบสั้นๆ ง่ายๆ ของคนไทยมาจวบจนถึงทุกวันนี้นั่นเอง
 




     การทำธุรกิจในบางครั้งอาจต้องมีความเสี่ยงในการลงทุน เสี่ยงที่จะเลือกวางจุดยืน และเลือกว่าจะมีตัวตนเป็นแบบไหน ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดที่วันหนึ่งเมื่อเวลาเปลี่ยน ปัจจัยแวดล้อมภายนอกเปลี่ยน แล้วจะให้ผลลัพธ์กลับมาไม่เหมือนเดิม ขอเพียงแค่เราทำวันนี้ให้ดีที่สุด อะไรที่อยู่เหนือการควบคุมบางครั้งก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของวันหน้าไป เพราะการลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

สวนเฮียโอ ทำน้อย ได้มาก  สูตรคิด พลิกชีวิตด้วยทุเรียนเทศ

ใครจะคิดว่า “ทุเรียนเทศ” ผลไม้พื้นบ้านที่ร่วงหล่นไร้ค่า จะถูกพลิกให้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจทำเงิน และไม่แค่ขายผลสด แต่ยังต่อยอดสู่น้ำทุเรียนเทศ และ ไอศกรีมเสริมโปรตีนจากไข่ผำ ที่อร่อยและดีต่อสุขภาพอีกด้วย

เพลินชิปส์ พลิกวัตถุดิบบุรีรัมย์สู่ขนมพรีเมียม ใช้ Storytelling เจาะใจเจนใหม่ ยอดขายพุ่งเท่าตัว

พลิกกล้วย มัน เผือก ขนุนบุรีรัมย์ที่เคยถูกทิ้ง สู่ขนมพรีเมียมทันสมัย ที่ไม่เพียงอร่อยแต่ยังเล่าเรื่องราวของชุมชนและผืนดินภูเขาไฟ ได้อย่างมีเสน่ห์ จนยอดขายพุ่งเท่าตัว และวางขายในร้านกาแฟพันธุ์ไทยกว่า 50 สาขา

โดมตะวัน มะพร้าวน้ำหอมครบวงจร ธุรกิจที่เน้นการเติบโตแบบยั่งยืน

จากสวนกว่า 50 ไร่ โดมตะวันผลิตมะพร้าวน้ำหอมสู่ตลาดด้วยคุณภาพคู่คุณธรรมใช้ทุกส่วนของมะพร้าวเต็มที่ ไม่มีขยะเหลือทิ้ง (Zero Waste) และพัฒนานวัตกรรมที่ทันสมัยทำให้สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ได้อย่างไร?