“Giving Plants” ต้นไม้ติดแบรนด์ ธุรกิจของสาวนักปลูก ที่เริ่มจากความชอบ ทำให้การปลูกต้นไม้เป็นเรื่องที่ใครก็ทำได้

TEXT :   นิตยา สุเรียมมา

PHOTO : Giving Plants Thailand
 

 
             


     ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา รวมถึงค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ทำให้ทุกวันนี้เทรนด์การปลูกต้นไม้เติบโตเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะต้นไม้ฟอกอากาศที่สามารถปลูกได้ง่ายตามคอนโด ออฟฟิศ ห้องพักต่างๆ ซึ่งนอกจากช่วยสร้างความสดชื่นและบรรยากาศร่มรื่นให้กับพื้นที่แล้ว ยังสามารถนำมาใช้เป็นสินค้าตกแต่งบ้านที่บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้ปลูกได้ด้วย แต่ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่และทักษะความรู้ที่แตกต่าง จึงอาจทำให้หลายคนคิดไปว่าการปลูกต้นไม้เป็นเรื่องยาก ซื้อมาปลูกไว้ได้ไม่นานเท่าไหร่ก็ตาย
             

     สิ่งนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ วรัสสวรรณ พุทธเจริญ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งร้านขายต้นไม้ “Giving Plants Thailand” คิดที่จะเริ่มต้นธุรกิจขึ้นมา และทำให้การปลูกต้นไม้เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน
             


Cr : Daidai


     “เราเป็นคนชอบปลูกต้นไม้ จากเริ่มทดลองซื้อมาปลูก ก็เริ่มหัดเพาะพันธุ์เอง จนมีปริมาณเยอะขึ้น จึงเริ่มทำเป็นธุรกิจ เพราะอยากทำในสิ่งที่รักไปด้วย โดยเริ่มจากขายส่งให้กับร้านค้าต่างๆ ก่อน ภายหลังจึงเริ่มลงขายในออนไลน์ จนวันหนึ่งมีห้างสรรพสินค้าติดต่อเข้ามาเราจึงเริ่มสร้างแบรนด์ขึ้นมา ซึ่งสิ่งหนึ่งที่มักได้ยินจากลูกค้าบ่อยๆ ก็คือ หลายคนมักมีความเชื่อว่าการจะปลูกต้นไม้ได้ต้องเป็นคนมือเย็น คนมือร้อนปลูกไม่ขึ้น หรือการจะปลูกต้นไม้ได้ต้องดูที่วันเกิดก่อน ไปจนถึงการดูแลต้นไม้ที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจ เช่น ถามว่าต้นไม้นี้กี่วันถึงต้องรดน้ำครั้งหนึ่ง ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่สามารถกำหนดออกมาได้ชัดเจนขนาดนั้น เพราะมีปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง เช่น สภาพห้องที่ปลูก ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ แต่ให้สังเกตดูที่หน้าดินว่าแห้งไหม ถ้าแห้งก็ให้รดได้ จากสิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ เพื่ออยากสื่อสารออกไปถึงผู้บริโภคว่าจริงๆ แล้วการปลูกต้นไม้ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ไม่ว่าใครก็สามารถปลูกได้ หากมีความรู้และเข้าใจที่ถูกต้อง”
             

     จากแรงบันดาลใจดังกล่าว จึงทำให้วรัสสวรรณพยายามหาวิธีสื่อสารออกไปให้กับผู้บริโภคได้เข้าใจ โดยช่วงแรกนอกจากการให้ความรู้ด้วยตนเองแล้ว ต้นไม้ทุกต้นของแบรนด์จะมีการ์ดเพื่อบอกถึงสภาพแสงและปริมาณน้ำที่เหมาะสมในการเลี้ยง ซึ่งเมื่อลูกค้าเริ่มมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นภายหลังจึงได้มีการปรับเป็นการ์ดสำหรับเขียนข้อความอวยพร เพื่อใช้มอบเป็นของขวัญให้แก่กันเพิ่มเติมเข้ามาเป็นทางเลือกที่เพิ่มขึ้นให้กับผู้บริโภค
             





     โดยนอกจากความตั้งใจที่พยายามอยากให้ทุกคนสามารถดูแลต้นไม้ด้วยวิธีที่ถูกต้องได้ด้วยตนเองแล้ว ต้นไม้ของ Giving Plants Thailand ยังมีลักษณะโดดเด่นที่แตกต่างออกไปด้วย ซึ่งไม่ได้ให้แค่ความสดชื่นแก่ผู้ปลูกเท่านั้น แต่ยังขายไปถึงรสนิยม ไลฟ์สไตล์ เป็นเหมือนงานดีไซน์และสินค้าตกแต่งบ้านชิ้นหนึ่งด้วย ไม่ต่างจากการสร้างแบรนด์ในธุรกิจอื่นๆ เลย
             

     “ถึงเราจะขายต้นไม้ แต่เราไม่ได้อยากขายแค่ต้นไม้เท่านั้น แต่ขายรสนิยม ไลฟ์สไตล์ ความชื่นชอบให้แก่ผู้บริโภคด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นอีกจุดเด่นของแบรนด์เราเลย”
             





     โดยวรัสสวรรณอธิบายเพิ่มเติมว่าต้นไม้ทุกต้นของ Giving Plants Thailand ก่อนที่จะถูกนำออกมาวางจำหน่ายให้กับลูกค้าจะต้องผ่านการคิวซีเพื่อคัดเลือกต้นที่สมบูรณ์และรูปทรงสวยงามออกมาก่อน จากนั้นจึงนำมาบรรจุลงในกระถางรูปทรงต่างๆ ในสไตล์แบบมินิมอล ทำให้ไม่ว่าเห็นที่ไหนก็สามารถจดจำได้
             

     “จริงๆ ต้นไม้ของเราก็เหมือนกับต้นไม้ทั่วไป เพียงแต่สิ่งที่แตกต่าง คือ ก่อนจะนำออกมาจากสวนเพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าภายใต้แบรนด์ของเรา เราจะมีการคิวซีเพื่อคัดเลือกต้นที่สมบูรณ์ และจัดแต่งฟอร์มให้สวยก่อนที่จะนำมาขายให้กับลูกค้าด้วย รวมไปถึงการคัดเลือกกระถางก็ใช้เป็นโทนสีเรียบๆ ได้แก่ ขาว เทา ดำ ซึ่งหากใครชอบสไตล์นี้ เขาก็มาซื้อไป ซึ่งมันช่วยสะท้อนไปถึงรสนิยมของผู้ปลูกด้วย นอกจากนี้เรายังมีบริการหลังการขาย โดยพร้อมและยินดีให้คำปรึกษาแก่ลูกค้าที่ซื้อไปปลูกด้วย สิ่งนี้จึงทำให้เราแตกต่างและเป็นที่จดจำแก่ลูกค้าได้”
             




     โดยลักษณะต้นไม้ส่วนใหญ่ที่ขายภายใต้แบรนด์ Giving Plants Thailand นั้นจะเป็นลักษณะของไม้ใบเพื่อใช้ประดับตกแต่งและเป็นต้นไม้ฟอกอากาศสามารถปลูกอยู่ในพื้นที่ร่มได้ ซึ่งเหมาะสำหรับคนเมืองที่ไม่ต้องมีพื้นที่เยอะก็สามารถปลูกได้ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 49 – 500 บาท โดยทุกวันนี้นอกจากจะขายประจำอยู่ในห้างสรรพสินค้าต่างๆ แล้ว ได้แก่ สยามดิสคัฟเวอรี่, เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ ท่าพระ, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ยังมีการออกบูธตามงานแสดงสินค้าต่างๆ ด้วย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เธอได้พบปะกับลูกค้าด้วยตัวเองมากขึ้น และทำให้อยากพัฒนาต้นไม้ของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
             

     “การได้ออกงานแต่ละครั้ง ทำให้เราได้เห็นความต้องการของลูกค้า ได้เห็นสิ่งที่เขาคิด ได้รู้ถึงปัญหา และมีความเข้าใจลูกค้ามากขึ้น เป็นโจทย์ทำให้เราได้นำมาคิดพัฒนาปรับปรุงสินค้าและแบรนด์ของตัวเองอยู่เสมอๆ ซึ่งความตั้งใจที่แท้จริงของการทำแบรนด์ขึ้นมาของเรา ก็คือ เราอยากให้ทุกคนหันมาปลูกต้นไม้มากขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นสิ่งจำเป็นกับชีวิตของเรา เพราะความร่มเย็น ความสดชื่นต่างๆ ในโลกก็ล้วนมาจากต้นไม้ทั้งนั้น ซึ่งถ้าทุกคนหันมาช่วยกันไม่ได้เป็นผลดีกับตัวเราแค่นั้น แต่ยังได้เผื่อไปถึงคนรอบๆ ตัวด้วย






     “ส่วนเหตุผลที่ตั้งชื่อว่า Giving Plants หมายถึงการให้ เพราะเราอยากให้ทุกอย่างกับลูกค้า ตั้งแต่ต้นไม้ที่ดี ไลฟ์สไตล์ที่ดี ไปจนถึงคำปรึกษาที่ดีในการปลูกต้นไม้ เราอยากให้ลูกค้าได้รับกลับไปมากที่สุดเท่าที่เราจะให้ได้ ซึ่งเรามองว่าการที่ทำให้เขาสามารถเลี้ยงต้นไม้รอดได้ สุดท้ายก็คือโอกาสที่จะทำให้เขาได้กลับมาเป็นลูกค้าเราอีกนั่นเอง” วรัสสวรรณกล่าวทิ้งท้าย
 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ทำธุรกิจซัก-รีด ยังไงให้มีรายได้สาขาละแสน ล้วงความลับกับเจ้าของแบรนด์ ตั้งใจซัก

หนึ่งในธุรกิจที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เสือนอนกิน” นั้นต้องมีธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญติดในลิสต์เป็นอันดับต้นๆ ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่สนใจเปิดธุรกิจนี้มากมาย แต่ถึงแม้จะเป็นธุรกิจเสือนอนกิน ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเสือที่ได้กินธุรกิจนี้ง่ายๆ

Erabica Coffee ผู้ปักหมุด กาแฟน่าน ให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศ

นี่คือสองสามีภรรยา ที่อยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่น่าน คิดสร้างแบรนด์กาแฟของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Erabica (เอราบิก้า) กลายเป็นการยกระดับกาแฟน่านเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น

HEH ร้านอาหารย่านภูเก็ต เชฟใช้เวลาในครัวให้เหมือนอยู่ในสนามแข่ง ไม่อยากเป็นแค่ Just Another Restaurant

“HEH (เห)” ร้านอาหารสไตล์  Australian Contemporary กลางเมืองภูเก็ต สร้างเมนูอาหารให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะไม่อยากเป็นเพียง แค่ร้านอาหารร้านหนึ่ง