TEXT : กองบรรณาธิการ
แม้จะเป็นประเทศแรกๆ ที่ต้องเจอกับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่จีนก็ได้แสดงให้ทั่วโลกได้เห็นถึงมาตรการรับมือและแก้วิกฤตได้อย่างเข้มข้น ชัดเจน และรวดเร็ว จึงทำให้กลายเป็นประเทศที่ถูกจับตาว่ามีศักยภาพสูง และอาจมีอิทธิพลสำคัญต่อการค้าโลกต่อไปในอนาคต โดยมีการคาดการณ์กันว่าในปี 2573 เศรษฐกิจของจีนอาจแซงหน้าสหรัฐอเมริกาก็เป็นได้ ดังนั้นผู้ประกอบการ SME ท่านใดที่คิดอยากไปเปิดตลาดในประเทศจีน ควรเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ จาก 9 ข้อต้องรู้ดังต่อไปนี้
สรุปมาจาก “กิจกรรมบ่มเพาะผู้ประกอบการแบรนด์ไทยสู่ตลาดจีน” (Over the Great Wall : Now Normal Era จัดขึ้นโดยสำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า (DITP) ร่วมกับศูนย์สร้างโอกาสธุรกิจไทยสู่จีน Thailand Smart Trade Center (TSTC)
- เน้นการพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศ วางเป้าหมายเป็นผู้นำพลังงานสะอาด
ตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จีนมีพัฒนาการในการควบคุมและบริหารจัดการค่อนข้างดี ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศจึงสามารถเติบโตขึ้นได้ท่ามกลางวิกฤตการณ์ แม้จนถึงทุกวันนี้การแพร่ระบาดยังไม่จบลง แต่ก็ยังคงดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องและเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นต่างจากประเทศอื่นๆ ในโลก จึงมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนอาจแซงสหรัฐอเมริกาได้ภายในปี 2573 ด้วยการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) เน้นการพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศ และวางเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาด
- นโยบายลูกคนเดียว เร่งการค้าออนไลน์โต
โดยกลุ่มเป้าหมายของผู้บริโภคจีนที่น่าศึกษา ก็คือ กลุ่มที่เติบโตมาจากนโยบายลูกคนเดียว เพราะเป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมซื้อสินค้าออนไลน์เป็นช่องทางหลัก รองลงมา คือ กลุ่มผู้สูงอายุที่ค่อนข้างมีกำลังซื้อสูง
- ประชากรมีความหลากหลายค่อนข้างมาก
ด้วยขณะพื้นที่ของประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาล พฤติกรรมของผู้บริโภคชาวจีนจึงมีความหลากหลายค่อนข้างสูงตามแต่ละภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างทางวัฒนธรรม เพศ อายุ ฉะนั้นผู้ประกอบการต้องศึกษาให้ดีว่าต้องการเข้าไปบุกตลาดในพื้นที่ใด และพฤติกรรมของผู้บริโภคในพื้นที่นั้นๆ มีอะไรบ้างที่น่าสนใจ ส่งผลต่อธุรกิจได้
- จดเครื่องหมายการค้า เพื่อป้องกันการเสียเปรียบ
อีกสิ่งสำคัญที่จะละเลยไม่ได้ของการเข้าไปทำการค้าในจีน ก็คือ การจดเครื่องหมายการค้า (Trade Mark) ให้เรียบร้อยก่อน เพื่อป้องกันการเสียเปรียบทางธุรกิจ
- Young Customer คือ ผู้ซื้อสำคัญในอนาคต
นับตั้งแต่เกิดโควิด-19 ตลาดอี-คอมเมิร์ซในจีนก็เติบโตขึ้นมากถึง 37 เปอร์เซ็นต์ เพราะสามารถทำได้ง่ายและสะดวกกว่าการซื้อออฟไลน์ โดยในแอปพลิเคชั่น Taobao ที่มีผู้ใช้ 874 ล้านคนนั้น 60 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็นผู้ซื้ออายุต่ำกว่า 30 ปี จึงนับเป็นอีกกลุ่มผู้บริโภคสำคัญที่น่าจับตามองหากคิดจะเข้าไปทำการค้าขายในจีน
- สินค้าสุขภาพและความงาม ยังครองแชมป์เบอร์หนึ่ง
มีสถิติออกมาว่าในช่วงเทศกาลช้อปปิ้ง 6.18 ซึ่งเป็นเทศกาลออนไลน์กลางปีครั้งยิ่งใหญ่อีกงานหนึ่งของจีน ในปีนี้ได้สร้างสถิติสูงสุดมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยสินค้าที่ขายดีและมาแรง ยังคงเป็นสินค้าสุขภาพความงาม และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องสุขภาพ
- เลือกใช้เครื่องมือออนไลน์ที่มีศักยภาพ
ในสถานการณ์แพร่ระบาดที่ยังไม่สงบลง การเลือกใช้เครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชั่น เว็บไซต์ หรือ โซเชียลมีเดีย นับว่ามีความสำคัญยิ่ง เพราะสามารถเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มได้
- Tik Tok คือ ช่องทางโซเชียลยอดนิยม
โซเชียลแพลตฟอร์มที่กำลังเป็นที่นิยมในจีน คือ Douyin แอปพลิเคชั่นวิดีโอสั้นที่ทั่วโลกรู้จักกันดีในชื่อ “Tik Tok” ซึ่งนับเป็นช่องทางที่ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้นในจีน ซึ่งหากเจ้าของธุรกิจสามารถสร้างสรรค์คอนเท้นต์ที่ทำให้เห็นถึง ความคุ้มค่าที่จะซื้อได้มากเท่าไร ก็ย่อมได้เปรียบเท่านั้น เพราะมีข้อมูลกล่าวไว้ว่า 64 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคจีนนั้นยินดีที่จะลองสินค้าใหม่มากเลยทีเดียว
- WeChat สำคัญ จำเป็นต้องมี
ถ้าพูดถึงอีกช่องทางโซเชียลมีเดียที่นิยมนำมาใช้ในการทำการติดต่อสื่อสารกับลูกค้ามากเป็นอันดับต้นๆ ของจีน ก็คือ WeChat Official Account โดยผู้ประกอบการที่จดทะเบียนในประเทศจีนแล้ว สามารถสร้างบัญชีผู้ใช้เองได้ หรือจะให้บริษัทที่เชี่ยวชาญมาดูแลให้ก็ได้ เพื่อสร้างคอนเทนต์ และบริหารงานแอคเคาต์ให้มีการเติบโต เพิ่มจำนวนผู้ติดตามเพื่อสร้างยอดขายให้สูงเพิ่มขึ้นได้ต่อไป
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี