น้ำตาวันนี้เพื่อความเข้มแข็ง ข้อความสุดท้ายก่อนปิดตำนาน “สยามฟรุทส์” ร้านผลไม้ขวัญใจเด็กสยาม 40 ปี

TEXT : กองบรรณาธิการ



               
          ชั่วโมงนี้ถ้าพูดถึงร้านผลไม้ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโลกออนไลน์ คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากร้าน “สยามฟรุทส์” ร้านผลไม้ในตำนานของวัยรุ่นไทยย่านสยามสแควร์ซอย 3 ที่ได้ออกมาโพสต์คลิปขอบคุณลูกค้าที่สนับสนุนมาตลอด 40 กว่าปีผ่านหน้าเฟซบุ๊กเพจของร้าน หลังประกาศปิดร้านจากผลกระทบโควิด-19 พร้อมระบุข้อความว่า “น้ำตาวันนี้เพื่อความเข้มแข็ง ปิดสยามฟรุทส์ สยามสแควร์ซอย 3” โดยเปิดทำการวันสุดท้ายในวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา



          ทำเอาลูกค้าเก่าแก่ รวมถึงหลายคนที่เคยแวะเวียนผ่านไปมาต่างใจหาย และนึกเสียดายไปตามๆ กัน จนออกมาโพสต์ให้กำลังใจอยู่บนโลกโซเชียลเกิดเป็นกระแสถูกพูดถึงกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแม้วันนี้สยามฟรุทส์จะต้องปิดตัวไปอีกธุรกิจหนึ่ง  แต่เราก็สามารถเรียนรู้เรื่องราวธุรกิจของร้านได้ว่า เพราะเหตุใดร้านขายผลไม้เล็กๆ แห่งนี้ที่อยู่รายล้อมด้วยแฟชั่นและความทันสมัยจึงอยู่ในใจเด็กสยามและลูกค้าที่มาอุดหนุนได้ยาวนานกว่า 40 ปีมาได้





ตำนานนี้เกิดจากลูกกตัญญู

 

          พีรณัฏฐ์ ตติยากิตติ หรือ เฮียเดย์ เจ้าของร้านสยามฟรุทส์ เคยให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเชฟข้างถนนไว้ว่า ก่อนหน้าที่จะมาเป็นสยามฟรุทส์ร้านผลไม้ขวัญเด็กสยามนั้น ตนเองได้ช่วยพ่อแม่เข็นรถขายผลไม้อยู่ในย่านสยามสแควร์มาก่อนตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งเก็บหอมรอบริบได้จึงขยับขยายมาเช่าที่เปิดร้านขายผลไม้ตั้งอยู่ที่สยามสแควร์ซอย 3 โดยใช้ชื่อว่า “สยามฟรุทส์” มานานกว่า 20 ปี ซึ่งภายหลังได้แต่งงานมีครอบครัวประกอบกับพ่อแม่อายุเยอะขึ้น จึงได้ยกหน้าที่ดูแลกิจการให้กับตนเองบริหารจัดการร้านมาโดยตลอด โดยนับอายุธุรกิจตั้งแต่เริ่มขายผลไม้รถเข็น กระทั่งมีร้านอยู่ในสยามสแควร์ก็ร่วม 40 ปีด้วยกัน


ถึงขายผลไม้ แต่ดัดแปลงเป็นเมนูหลากหลาย

 

          หากใครเคยผ่านไปหน้าร้านสยามฟรุทส์จะเห็นได้เลยว่ามีผลไม้ใส่ถุงไว้วางตั้งอยู่เรียงรายอยู่หน้าร้านแบบเลือกไม่ถูกกันทีเดียว ซึ่งเฮียเดย์เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่ามีมากกว่า 20 - 30 ชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นมะม่วง ฝรั่ง มะละกอ ชมพู่ มะยม ตะลิงปลิง ส้มเช้ง ฯลฯ เรียกว่าฤดูกาลไหนมีผลไม้อะไร ที่นี่ก็แทบจะนำมาขายด้วย
โดยนอกจากเป็นผลไม้สดปอกหั่นพร้อมรับประทานใส่ถุงสำเร็จไว้เรียบร้อยแล้ว ทางร้านยังมีการดัดแปลงทำเป็นเมนูต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้มากขึ้นด้วย เช่น  เมนูยำต่างๆ ได้แก่ ยำผลไม้รวม, ยำมะม่วง+หมูยอ+ปลากรอบ กระท้อนทรงเครื่อง รวมถึน้ำผลไม้ปั่นสดๆ ด้วย
 

          นอกจากการดัดแปลงเป็นเมนูต่างๆ สำหรับผลไม้สดแล้ว ร้านสยามฟรุทส์ยังมีการแปรรูปผลไม้แบบไม่ให้เสียคุณค่าของวัตถุดิบที่ใช้ไปเลยทีเดียว โดยมีการนำมาแปรรูปทำเป็นผลไม้ดองในโหลแก้ว ผลไม้แช่อิ่ม ผลไม้อบแห้ง สร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นมาให้ธุรกิจอีกทางหนึ่งด้วย





ราคาย่อมเยา แม้อยู่ในทำเลทอง

 
               
          แน่นอนว่าจากการตั้งอยู่ในทำเลทอง ค่าเช่าแพงย่อมแพงหูฉี่แน่นอน แต่ราคาขายผลไม้ของร้านสยามฟรุทส์กลับไม่ได้แตกต่างจากร้านขายผลไม้รถเข็นทั่วไปสักเท่าไหร่เลย ซึ่งสำหรับผลไม้สดทั่วไปเริ่มต้นที่ถุงละ 25 บาท หากเป็นเมนูยำผลไม้ต่างๆ จะเริ่มต้นที่ชุดละ 50 บาท จึงไม่แปลกว่าทำไมจึงสามารถครองใจเด็กสยามและลูกค้าคนอื่นๆ ให้แวะเวียนมาอุดหนุนรุ่นแล้วรุ่นเล่า

 
         
          ถึงหน้าร้านที่สยามฯ จะปิดไป แต่ตอนนี้สยามฟรุทส์ ก็เปิดขายเป็นโต๊ะขายผลไม้เล็กๆ ที่แฟลตดินแดง (แฟลต 8 ชั้น) ใครที่คิดถึงก็สามารถไปอุดหนุนกันได้ หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร. 08 - 5936 - 2656 เปิดขายเวลา 16.00น - 20.00 น. 
 





พระเอกเบอร์ 1 คือ มะม่วง

 
                โดยหากจะถามว่าเมนูใดที่ขายดีที่สุด ก็คงเป็นมะม่วง ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายพันธุ์ หลากหลายรสชาติ และรสสัมผัสสามารถเลือกได้ว่าอยากกินแบบกรอบๆ หรือแบบนิ่มๆ สุกหน่อย ชอบเปรี้ยวหรือมันก็เลือกกันได้เลย จากการเป็นเมนูขายดีนี่เอง มะม่วงน้ำปลาหวาน หรือมะม่วงกะปิหวานของร้านสยามฟรุทส์ จึงกลายเป็นอีกไอเทมที่หากใครเคยได้ลิ้มลองและมีโอกาสผ่านเป็นต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับมาด้วยเป็นประจำ




          รู้ไหม สยามฟรุทส์มีร้านบนแพลตฟอร์มออนไลน์ด้วยนะ! โดยใน Lazada จะใช้ชื่อว่า “Siam Fruit” ส่วน Shopee ใช้ว่า “สยาม​ฟรุ๊ทส์” ขายเป็นผลไม้อบแห้งต่างๆ ได้แก่ มะม่วงมาเลย์, มะละกออบบ๊วย, มะนาวอบ, ฝรั่งอบ, มะม่วงอบ ราคาถุงละ 50 บาท


 

ไม่ต้องล้ำสมัย ก็ขายได้ ขอแค่มีคุณภาพ

 
               
          จากมุมมองของหลายคนแล้ว การเดินทางมาสยามสแควร์นอกจากมาเรียนพิเศษ หลายคนอาจมาเพื่อมองหาเสื้อผ้าแฟชั่นสุดเท่ หรือเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยใหม่ แต่สยามฟรุทส์กลับทวนกระแสแม้จะไม่ใช่สินค้าที่อยู่ในเป้าหมายของการมาเดินสยามสแควร์ แต่การเลือกจับกลุ่มสินค้าธรรมดาที่แม้อาจไม่ได้ราคาสูงมาก แต่ทุกคนต้องกินต้องใช้และเน้นคุณภาพ อย่างเด็กมาเดินเหนื่อยๆ อยากกินผลไม้ให้ชื่นใจ ด้วยราคาที่ไม่แพงก็สามารถซื้อได้ จึงไม่แปลกว่าทำไมถึงจะขายอยู่ที่ราคาแค่หลักสิบ แต่สยามฟรุทส์สามารถยื่นหยัดมาได้กว่า 40 ปี





เป็นตัวแทนความทรงจำในวันวาน

 
                ข้อสุดท้ายอีกสิ่งที่เรามองว่าทำให้หลายคนนึกเสียดายสยามฟรุทส์ ก็คือ ไม่ว่าสยามฯ จะเปลี่ยนไปกี่ยุคสมัย ร้านสยามฟรุทส์ก็ยังอยู่เหมือนเช่นเดิม บางคนอาจอุดหนุนตั้งแต่ตอนเป็นนักเรียน จนกระทั่งโตขึ้นทำงานหรือมีครอบครัวแล้วกลับไปร้านก็ยังอยู่เหมือนเดิมกลับมาซื้อทีไร ก็มีความทรงจำดีๆ เสมอ จึงไม่แปลกที่หลายคนจะผูกพันเหมือนกับหลายๆ ร้านในสยามฯ ที่อยู่มานานแต่ต้องล้มหายตายจากไปเช่นกัน อย่างร้านโบพี่เบ๊นซ์ เป็นต้น
               

 


 
www.smethailanclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

เพราะคิดถึงรสชาติความหนึบของขนม  หนุ่มไต้หวันสร้างแบรนด์แพนเค้กโมจิ KiuKiu ที่ทำเงิน 100,000 ดอลลาร์ในเดือนแรก

ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เริ่มจากไอเดียเล็กๆ แต่ลงมือทำอย่างจริงจัง ทดลองสูตรกว่า 80 ครั้ง จนทำให้ KiuKiu แบรนด์แพนเค้กและวาฟเฟิลสไตล์โมจิ เติบโตเร็วแบบชวนทึ่ง ทำรายได้แตะ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในเดือนแรกของการเปิดขาย

จาก Home School สู่ธุรกิจ Event เงินล้าน เจาะความคิด CEO วัย 19 ที่ทำให้ลูกค้ายอมไว้ใจ Gen Z

ทิ้งมหาลัย เพื่อออกมาเปิดบริษัท! นี่คือการเดิมพันครั้งใหญ่ของ CEO วัย 19 ที่พิสูจน์แล้วว่า 'ประสบการณ์' สร้างรายได้ถึง 'เงินล้าน' ได้จริง

MATCHAZUKI จากความหลงใหลสู่แบรนด์มัทฉะไทยกว่า 11 ปี ที่ “ใส่ใจ” ลูกค้าในทุกย่างก้าวของการเติบโต

แม้วันนี้มัทฉะจะฟีเว่อร์ แต่ไม่ใช่ 11 ปีก่อน เมื่อการหามัทฉะคุณภาพดีในไทยไม่ใช่เรื่องง่าย จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้ทีมเล็กๆ ก่อกำเนิด MATCHAZUKI แบรนด์ไทยที่หลงใหลในมัทฉะไม่แพ้ใคร พร้อมเปิดประตูชวนผู้คนให้ก้าวเข้าสู่โลกสีเขียวใบนี้ไปด้วยกัน