เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่เห็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยประสบความสำเร็จในเวทีระดับโลกได้อย่าง “Kan Vela Craft Chocolate” แบรนด์ช็อกโกแลตไทยแบรนด์แรกที่ไปคว้ารางวัลจากต่างประเทศมาถึง 11 รางวัลเลยทีเดียว หลายๆ คนคงอยากรู้แล้วว่าเขาทำได้อย่างไร วันนี้ทาง SME THAILAND ONLINE จะพาไปล้วงความลับจาก ธนา คุณารักษ์วงศ์ เจ้าของแบรนด์ “Kan Vela Craft Chocolate” กันว่าเขาทำยังไงถึงคว้ารางวัลมาได้เยอะขนาดนี้
ก่อนที่จะไปล้วงความลับเรามาดูกันก่อนว่า “Kan Vela” คว้ารางวัลอะไรมาบ้าง
ปี 2020 ได้มา 2 รางวัล คือ เหรียญทองแดง ประเภทช็อกโกแลตสอดไส้ รสฝรั่งพริกเกลือ และประเภทช็อกโกแลตบาร์ ดาร์กช็อกโกแลต ในเวที INTERNATIONNAL CHOCOLATE AWARDS
ปี 2021 ได้มา 9 รางวัล คือ 4 เหรียญเงิน และ 4 เหรียญทองแดง และอีกหนึ่งรางวัลใหญ่ คือ International Rising Star Award ประเภทช็อกโกแลตบาร์ ช็อกโกแลตสอดไส้ ในเวที Academy of Chocolate ที่ประเทศอังกฤษ
อะไรที่ทำให้ช็อกโกแลตของกานเวลาเข้าตากรรมการ
1. ช็อกโกแลตมีคุณภาพ Kan Vela ดึงรสชาติจากวัตถุดิบอย่างโกโก้ออกมาโดยผ่านการปรุงแต่งน้อยที่สุด ซึ่งช็อกโกแลตส่วนมากในตลาดที่เราทานกันจะเติมกลิ่นวนิลาลงไปเพิ่ม นั่นเป็นเพราะว่าวนิลากับช็อกโกแลตเป็นของที่เข้ากันดีอยู่แล้ว แต่โดยปกติถ้าวัตถุดิบช็อกโกแลตมันดีและมีคุณภาพอยู่แล้ว ก็จะไม่ใช้วนิลาเติมเข้าไป เพราะว่าวนิลาจะไปแย่งลักษณะเด่นของกลิ่นช็อกโกแลต
2. มีความคิดสร้างสรรค์ Kan Vela ผสมผสานวัฒนธรรมการกินของไทยเข้าไปในช็อกโกแลตให้ได้มากที่สุด ซึ่งในมุมกานเวลามองว่าช็อกโกแลต คือความเป็นสากลที่เป็นตัวเชื่อมคนทั้งโลกเข้าด้วยกัน ดังนั้นจึงพยายามหยิบจับวัตถุดิบของไทยหรือวัฒนธรรมความเป็นไทยมาประยุกต์เข้าไป ทำให้ช็อกโกแลตของโดดเด่นขึ้น และนอกจากช็อกโกแลตของเราจะมีความอร่อยแล้ว ยังสร้างความน่าตื่นเต้นเวลาทานให้กับลูกค้าและได้สนุกไปกับมันด้วย ตัวอย่างช็อกโกแลตที่ได้รางวัล รสฝรั่งพริกเกลือ สังขยาใบเตยมะพร้าวคั่ว ตะโก้เผือก
และนอกจากนี้ Kan Vela ยังเป็น 1 ใน 4 จากเอเชียที่ได้ไปจำหน่ายช็อกโกแลตในงาน Felissimo ที่ประเทศญี่ปุ่นในเทศกาลวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนญี่ปุ่นและผู้มาร่วมงาน
สิ่งที่ได้เรียนรู้
ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างเลย อย่างเช่น ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องกฎระเบียบในเรื่องของการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายที่ญี่ปุ่น ซึ่งผมต้องยอมรับว่าที่ญี่ปุ่นมีมาตรฐานสูงมาในเรื่องนี้ และมันก็เป็นเรื่องที่ภาคภูมิใจที่แบรนด์เราสามารถเข้าไปถึงตรงนั้นได้ ผมได้ร่วมทำงานกับทีมงานที่ญี่ปุ่น ซึ่งมีความเป็นมืออาชีพมาก และสิ่งสุดท้ายคือการได้เรียนรู้กับปัญหาที่เจอ อย่างเช่น สินค้าที่ส่งไปบางส่วนได้รับความเสียหาย คือมีการแตก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เราไม่เคยมีประสบการณ์ในการส่งช็อกโกแลตเดินทางไปไกลๆ ก่อน สิ่งนี้ทำให้ได้รู้ว่าครั้งต่อไปต้องมีการปรับตัวยังไง เพื่อให้สินค้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ใกล้เคียงกับที่ส่งออกจากโรงงานเราให้มากที่สุด
“อยากให้เอสเอ็มอีไทยกล้าที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ คุณจะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่พบเจอระหว่างทางที่คุณกำลังเดินอยู่”
และสุดท้ายนี้ ธนา ยังบอกกับ SME THAILAND ONLINE ว่า ความสุขของการทำธุรกิจ คือ การที่เราสามารถสร้างประโยชน์ให้กับคนบางกลุ่มในสังคมได้ ไม่ว่าจะเป็น
- สามารถทำให้พนักงานทุกคนคุณภาพชีวิตที่ดีได้มีอนาคตได้
- สามารถทำให้เกษตรกรที่ปลูกโกโก้ให้เราเขามีรายได้ที่มั่นคงในชีวิต และมันจะทำให้เขามีความสนุกที่จะพัฒนาสินค้าไปร่วมกับเรา
ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งถ้าเราทำธุรกิจที่สามารถเป็นประโยชน์ให้กับสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ มันคือความสุขที่สุดของผมล่ะ
การทำงานอย่างมีความสุขก็อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Kan Vela Craft Chocolate เป็นที่ยอมรับในเวทีระดับโลก
TEXT : Momo
PHOTO : Kan Vela Craft Chocolate
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี