Pynpy’ นวัตกรรมกางเกงในอนามัยแบรนด์แรกของไทย ช่วยเซฟผ้าอนามัยได้มากกว่า 300 แผ่นต่อปี

 

 

      ว่ากันว่าผู้หญิงเท่านั้นที่จะเข้าใจกันได้ อย่างเรื่องการมีประจำเดือน เป็นต้น ถ้าไม่ได้ลองมาเป็นด้วยตัวเอง ก็ยากที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ถึงความกังวล ความไม่สบายตัวที่เกิดขึ้น ฟังดูเหมือนจะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ แต่จริงๆ แล้วกลับส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จนถึงความสัมพันธ์ของคนรอบข้างได้เลยทีเดียวในช่วงวันนั้นของเดือน

     สิ่งนี้เองที่ทำให้ อรกานต์ สายะตานันท์ - กานต์ นักออกแบบสาวผู้ผลิตสินค้าข้าวของเครื่องใช้ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเจ้าของแบรนด์ PARA และแฟนหนุ่ม Tomas Prochazka เจ้าของธุรกิจโยคะออนไลน์ ณ เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก ผู้ประสบปัญหาและผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง จึงพยายามคิดหาหนทางแก้ไข ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง แต่ยังเพื่อผู้หญิงไทย ผู้หญิงเอเชีย รวมไปถึงเพื่อโลกใบนี้ด้วย ด้วยการคิดค้นสิ่งเทียมผ้าอนามัยขึ้นมาในรูปแบบของกางเกงในอนามัย ภายใต้แบรนด์ Pynpy’ โดยสามารถใช้รองรับประจำเดือนเพื่อทดแทนผ้าอนามัยได้ ขณะเดียวกันก็ให้ความสบายเหมือนกับการใส่กางเกงชั้นในทั่วไป โดยไม่ต้องมีอะไรมาทำให้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งความน่าสนใจของ Pynpy’ ไม่ใช่แค่ความว้าว! ในการเป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ แต่ยังมีกระบวการแนวคิดในการทำธุรกิจที่น่าสนใจ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ทันท่วงทีอีกด้วย

เหตุเกิดจากวันนั้นของเดือน

      “ต้องเท้าความให้ฟังก่อนว่าจริงๆ แล้วเราทั้งคู่มีความสนใจเรื่องการขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คน และสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว โดยกานต์มีสกิลด้านการออกแบบ ส่วนโทมัสมีสกิลด้านการตลาด เราทั้งสองคนเลยคิดว่าน่าจะลองหาอะไรทำร่วมกันสักอย่างที่สามารถช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีขึ้น และสิ่งแวดล้อมก็ดีขึ้นด้วยได้ จนมีเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนและที่มาของการเริ่มต้นธุรกิจ คือ ตอนนั้นเราไปเที่ยวเชียงใหม่กัน ซึ่งเราก็รู้ว่าเป็นช่วงที่ประจำเดือนจะมาพอดี ก็เตรียมผ้าอนามัยสำรองไป 7 - 8 แผ่น แต่ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าประจำเดือนจะมาวันไหนกันแน่ เราก็ใส่รอไว้ จนกระทั่งผ้าอนามัยหมดแล้ว แต่ประจำเดือนดันมาในตอนกลางคืน จำได้ว่าคืนนั้นเครียดกันมาก เพราะจะออกไปซื้อก็ดึกแล้ว โทมัสเขาก็เป็นกังวลไปด้วย ทำให้เราเห็นว่า นี่คือ ปัญหาหนึ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องเผชิญอยู่ทุกเดือน ทั้งเรื่องความกังวลใจและไม่สบายตัว ใส่แล้วหลุดบ้าง เลอะบ้าง แถมยังส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างได้ด้วย

     “จากเหตุการณ์นั้นก็เลยลองคุยกันว่ามีอะไรที่น่าจะช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ได้บ้าง รวมไปถึงสามารถเชื่อมโยงเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ยังไง ซึ่งเราก็จะเจอพวกผ้าอนามัยออร์แกนิก ผ้าอนามัยซักได้ ผ้าอนามัยย่อยสลายได้ ถ้วยอนามัย ฯลฯ ก็เลยลองมาคิดว่าจะเป็นไปได้ไหมที่เราจะทำให้ไม่มีส่วนเกินใดๆ มาทำให้รู้สึกอึดอัด และทำให้การมีประจำเดือนเป็นวันธรรมดาๆ วันหนึ่งไม่ต่างจากวันอื่น จนในที่สุดเราก็คิดถึงกางเกงในอนามัยขึ้นมา ซึ่งจากที่มีในท้องตลาด ณ ตอนนั้นเป็นของแบรนด์นอกไม่เหมาะกับสรีระคนไทย ผ้าที่ใช้ก็เหมาะกับเมืองหนาวมากกว่า เราจึงอยากทำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนไทยออกมาให้คนไทยได้ใช้จริงๆ ” กานต์เล่าที่มาให้ฟัง


มาตรฐานปลอดภัยยุโรป ใส่สบายแบบไทย

     หลังจากได้ข้อสรุปแล้วว่าจะทำสินค้าอะไรออกมาดี กานต์และโทมัสก็เริ่มวางแผนในการผลิตสินค้าขึ้นมา โดยอธิบายว่าเนื่องจากเป็นสินค้าที่ต้องนำมาใช้ในจุดซ่อนเร้นของร่างกาย จึงให้ความสำคัญกับ 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1. ประสิทธิภาพในการรองรับประจำเดือน 2.ความปลอดภัยมาตรฐานระดับสากล โดยใช้นวัตกรรมสิ่งทอในการผลิตขึ้นมา โดยแบ่งทีมออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ทีมวิศวกรสิ่งทอและสูตินารีแพทย์ในไทย เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสรีระของผู้หญิงไทย และทีม R & D จากห้องแลปที่ยุโรป เพื่อให้ได้มาตรฐานระดับสากล โดยใช้เวลาพัฒนาอยู่ราว 2 ปี จึงได้เป็นโมเดลตัวแรกออกมาวางจำหน่ายในปี 2563 ชื่อรุ่น Classic Cut ราคา 1,190 บาท ซึ่งผลตอบรับก็ดีเกินคาด ถึงแม้จะเป็นสินค้าใหม่ แต่ก็สามารถจำหน่ายได้หมด 300 ตัวภายในระยะเวลาแค่เดือนเดียว เหตุผลน่าจะมาจากการที่แบรนด์มีการสร้างคอมมูนิตี้ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และการเป็นพื้นที่พูดคุยแลกเปลี่ยนปัญหาเรื่องประจำเดือน

     “Pynpy’ เป็นกางเกงในอนามัยแบรนด์แรกในไทย เราจึงต้องทำงานหนักมาก เพื่อให้ความรู้ว่าสินค้า คือ อะไร มีข้อดียังไง อีกอย่าง คือ เราอยากสนับสนุนให้ทุกคนมาพูดคุยเรื่องประจำเดือนกันให้เป็นปกติ เพราะจริงๆ แล้ว นี่คือ เรื่องธรรมชาติเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ เราจึงอยากให้ทุกคนเปิดกว้าง ซึ่งสุดท้ายก็ส่งผลดีกลับมาสู่แบรนด์ เป็นพื้นที่ให้เราได้ทำความรู้จักกับลูกค้าได้มากขึ้น อย่างช่วงเปิดตัวแรกๆ เราจะมีไซส์ให้เลือกแค่ S – 3XL แต่พอเราได้ลองพูดคุยกับลูกค้าก็ทำให้รู้ความต้องการที่แท้จริงของเขา เราจึงปรับเพิ่มไซส์ตั้งแต่ 3XS – 5XL รวม 11 ไซส์ เรียกว่าครอบคลุมทุกสรีระผู้หญิงไทยได้หมด จากนั้นเราก็ได้เพิ่มรุ่นใหม่ขึ้นมาอีกรุ่นชื่อว่า Seamless เป็นแบบไร้ขอบ เว้าสูงเหมาะสำหรับใส่ออกกำลังกาย ราคา 1,290 บาท ซึ่งตรงนี้ก็ได้มาจากคอมเมนต์ของลูกค้าเช่นกัน”

1 ตัว ใช้แทนผ้าอนามัยได้ 3 – 4 แผ่นต่อวัน

      กานต์อธิบายคุณสมบัติของกางเกงอนามัย Pynpy’ ทั้งสองรุ่น คือ ใส่สบายเหมือนกับกางเกงชั้นในทั่วไป แต่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถซึบซับของเหลวได้ดี และไม่ไหลย้อนกลับเหมือนกับผ้าอนามัย โดยใช้เส้นใยมาตรฐานของยุโรป OEKO-TEX มาถักทอเป็นโครงสร้างพิเศษ จึงสามารถรองรับประจำเดือนได้ ซึ่งลูกค้าบางคนก็นำมาใช้เพื่อป้องกันการปัสสาวะเล็ด โดยตัวหนึ่งสามารถใส่ได้นาน 8 – 12 ชั่วโมง เทียบเท่ากับการใช้ผ้าอนามัย 3 – 4 แผ่นต่อวันได้เลย และหากเปรียบเทียบความคุ้มค่าของการใช้กางเกงในอนามัย Pynpy’ กับการใช้ผ้าอนามัยทั่วไปแล้วพบว่าในปีๆ หนึ่งสามารถลดปริมาณขยะจากผ้าอนามัยได้มากถึง 300 - 400 ชิ้นต่อปีทีเดียว จึงเรียกว่าประหยัดได้มากกว่า และยังเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อความสบายด้วย โดยมีอายุการใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพประมาณ 2 ปี สำหรับการดูแลนั้นก็ง่าย เพียงแค่นำไปล้างน้ำเปล่าก่อน 1 ครั้ง จากนั้นบิดหมาดๆ ก็สามารถนำไปซักได้เหมือนกับการซักผ้าตามปกติทั่วไปได้เลย

รถสปอร์ตแห่งการซึมซับดีเยี่ยม

     สุดท้ายเมื่อให้ลองเปรียบเทียบการใช้กางเกงในอนามัย Pynpy’ กับการใช้ผ้าอนามัย หรือสิ่งเทียมผ้าอนามัยอื่นๆ ที่ผ่านมาว่ามีความพิเศษแตกต่างอย่างไร กานต์และโทมัสเปรียบเปรยสั้นๆ ให้ฟังว่า

     “ผ้าอนามัยหรือสิ่งเทียมผ้าอนามัยทุกอย่าง จริงๆ แล้วทำหน้าที่เดียวกัน คือ เพื่อช่วยซึบซับประจำเดือน โดย Pynpy’ เราสนับสนุนทุกทางเลือกที่ช่วยให้ผู้หญิงรู้สึกสะดวกสบายได้มากขึ้น ซึ่งแต่ละคนสามารถเลือกใช้ได้ความเหมาะสมและความต้องการใช้งานของตัวเอง เปรียบเหมือนการเลือกซื้อรถยนต์ทุกคันวิ่งได้เหมือนกันหมด อยู่ที่ว่าใครจะชอบใช้แบบไหน ซึ่งถ้าเปรียบเป็นรถ Pynpy’ ก็เปรียบเหมือนรถสปอร์ตที่ขับขี่ได้สบายกว่า นิ่มกว่า คือ รองรับประจำเดือนได้เหมือนกัน แต่ใส่แล้วสบายกว่า เป็นตัวของตัวเองได้มากกว่า เพราะเราอยากทำให้วันนั้นของเดือนของผู้หญิงทุกคน เป็นเหมือนวันธรรมดาๆ วันหนึ่งที่เราสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติอย่างมีความสุข โดยไม่ต้องรู้สึกเป็นกังวล หรือมีอะไรมาทำให้ต้องสะดุด และสุดท้ายก็กลับมาช่วยโลกได้ด้วย เพราะ Pynpy’ เราเป็นผลิตภัณฑ์ Zero Wast ไม่ก่อให้เกิดขยะ ซึ่งหากเราเลือกทำธุรกิจที่มีประโยชน์ ช่วยแก้ปัญหาให้ผู้บริโภคได้แบบนี้เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ รวมถึงรับฟังฟีดแบ็กจากลูกค้า คุณภาพชีวิต และสังคมของเราก็จะดีขึ้น รวมถึงโลกใบนี้ด้วย” ทั้งคู่กล่าวทิ้งท้าย

     ไม่แน่ว่าในอนาคต ในวันนั้นของเดือนของผู้หญิงทุกคน การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับประจำเดือนในแต่ละครั้ง อาจไม่ใช่แค่ผ้าอนามัย แต่อาจเป็นถ้วยอนามัย ผ้าอนามัยซักได้ กางเกงในอนามัย หรือนวัตกรรมอื่นๆ ผสมปนเปกันไปให้เลือกใช้อย่างเหมาะสมตามความต้องการของแต่ละวันก็เป็นได้

 

TEXT : Nittaya Su.

PHOTO : Pynpy’

ข้อมูลติดต่อ

https://www.pynpy.com/th/

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

Nyana Nyana Eco Fashion อดีตสถาปนิกนักสู้มะเร็ง สู่เจ้าของแบรนด์แฟชั่นออร์แกนิก เป็นมิตรต่อผู้สวมใส่ และสิ่งแวดล้อม

Nyana Nyana Eco Fashion แบรนด์แฟชั่นของอดีตสถาปนิกหญิงสิงคโปร์ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้พบว่าป่วยเป็นมะเร็ง แต่ “Clara Simanjuntak” กลับใช้เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำสิ่งดีๆ รวมถึงการสร้างแบรนด์เสื้อผ้าจากผ้าออร์แกนิก

บ้านโอบอุ่น ธุรกิจเล็กๆ ของนักศึกษาพยาบาล ที่ทำให้คนแปลกหน้ากลายเป็นเพื่อนกัน

พาไปรู้จักบ้านโอบอุ่น ธุรกิจโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ปลูกขึ้นกลางทุ่ง ของ อั้ม-พัชราภา อ่ำปั้นนักศึกษาพยาบาล ที่นั่งรถไฟจากพิษณุโลกไปเชียงดาวทุกสัปดาห์เพื่อมาทำโฮมสเตย์เล็กๆ ที่เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นเพื่อนกัน