ทำไมวัตถุดิบอาหารญี่ปุ่นเหล่านี้ ราคาขายถึงสูงตลอดกาล

TEXT: วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์

Main Idea

  • หากพูดถึงผลิตผลทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ หรืออาหารทะเล สินค้าจากญี่ปุ่นต่างก็ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค
  • ไม่ว่าวัตถุดิบเหล่านั้นจะมีราคาสูงแค่ไหน แต่ผู้บริโภคก็ไม่หวั่นแถมยังเป็นที่ต้องการของตลาดโลก
  • ไปดูกันว่า 8 วัตถุดิบอาหารจากญี่ปุ่นที่ราคาไม่เคยแผ่วมีอะไรบ้าง และเพราะเหตุใดจึงตรึงราคาได้ดีอยู่เสมอ

 

       วาซาบิ เป็นที่ทราบกันดีว่าวสซาบิเป็นพืชที่เพาะปลูกในเชิงพาณิชย์ได้ยากที่สุด จึงทำให้วาซาบิที่ขึ้นเองและเติบโตตามธรรมชาติมีราคาสูง การจะได้มาซึ่งวาซาบิแท้จากป่ามีข้อจำกัดหลายอย่าง เป็นต้นว่าวาซาบิจะขึ้นตามพื้นที่ริมธารบนภูเขาภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ อุณหภูมิ ความชื้น และแร่ธาตุในดินที่เหมาะสม นอกจากนั้น ยังต้องมีน้ำแร่ไหลผ่านตลอด อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเติบโตของพืชชนิดนี้อยู่ระหว่าง 8-20 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นพืชที่เปราะบางและปลูกยากแต่ก็มีการปลูกเชิงพาณิชย์เช่นกันโดยใช้เวลาในการปลูกราว 18 เดือนจึงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้วาซาบิเป็นวัตถุดิบที่มีราคาแพง ข้อมูลจากเว็บไซต์มารุมูระระบุผลสำรวจพบมีเพียง 5% ของร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วโลกที่เสิร์ฟวาซาบิของแท้ ส่วนอีก 95% ที่เหลือจะเป็นพืชจำพวกมัสตาดที่มีรสคล้ายวาซาบิเท่านั้น

      อุนางิ หรือปลาไหลญี่ปุ่น เป็นปลาสองน้ำ ปกติอาศัยอยู่ในน้ำจืด แต่เมื่อถึงวัยขยายพันธุ์ ปลาไหลจะว่ายไปวางไข่ในเขตน้ำเค็ม ปลาไหลเป็นอาหารเลิศรสที่ชาวญี่ปุ่นบริโภคกันมานานหลายพันปี แต่การทำการประมงที่เกินขีดจำกัดทำให้จำนวนปลาไหลลดลง ส่งผลให้ราคาสูงขึ้น ว่ากันว่าบางช่วงปลาไหลญี่ปุ่นอาจมีราคาสูงกว่าปลาทูน่าครีบน้ำเงินเสียอีก แม้จะเป็นปลาไหลที่เลี้ยงในฟาร์ม ราคาก็ไม่ถูกเพราะเป็นปลาที่ดูแลยาก ขั้นตอนการเลี้ยงคือเกษตรกรต้องนำลูกปลาไหลตัวอ่อน (glass eels) จากธรรมชาติมาเลี้ยงในฟาร์ม ซึ่งลูกปลาไหลตัวอ่อนนั้นมีราคาสูงถึง 35,000 ดอลลาร์สหรัฐฯหรือราว 1.25 ล้านบาทต่อกิโลกรัม ในการเพาะเลี้ยงปลาไหล เกษตรกรต้องเฝ้าดูแลตลอดเวลาเพราะหากมีปลาติดโรคก็จะตายยกฟาร์ม การให้อาหารปลา 2-3 ครั้งต่อวันเป็นต้นทุนที่สูง อาหารปลาเป็นอาหารผสมระหว่างอาหารปลากับข้าวสาลี ถั่วเหลือง และน้ำมันปลา ใช้เวลาเลี้ยง 6-12 เดือนจึงสามารถจับขายได้  

      องุ่นทับทิมแห่งโรมัน (Ruby Roman grapes) เป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งจากญี่ปุ่นที่มีราคาสูง ราคาต่อพวงอยู่ระหว่าง 3,200-16,000 บาท เป็นองุ่นจากจังหวัดอิชิกาวะ ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาล เกษตรกรใช้เวลาพัฒนาสายพันธุ์นาน 14 ปี เป็นองุ่นที่ปลูกในเรือนกระจกเพื่อควบคุมคุณภาพและขนาด ลักษณะโดดเด่นคือลูกโต เปลือกสีแดงสด หนึ่งพวงมี 30 ลูก น้ำหนักเฉลี่ยลูกละ 20 กรัม จะออกผลปีละแค่ 2,400 พวง/ปี ช่วงที่องุ่นพันธุ์นี้จำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 2008 ราคาสูงถึงพวงละแสนเยนหรือประมาณ 25,000 บาท

       อูนิ หรือไข่หอยเม่นทะเล (ความจริงคืออัณฑะ กับ รังไข่ของหอยเม่น) เป็นวัตถุดิบชั้นเลิศซึ่งนักชิมทั่วโลกชมชอบในเรื่องของรสชาติที่ว่ากันว่าเหมือนกลืนความเป็นทะเลเข้าปาก คุณภาพของอูนิขึ้นอยู่กับแหล่งอาศัยของหอยเม่น หากบริเวณนั้นมีสาหร่ายหนาแน่น อูนิที่ได้จะคุณภาพดี ในการเก็บหอยเม่น จะต้องใช้คนดำลงไปงมทีละตัว ความที่เป็นอาหารหายากและการเพาะเลี้ยงหอยเม่นในฟาร์มยังไม่ได้ผลดีนักจึงทำให้อูนิมีราคาแพง ส่วนใหญ่ขายเป็นถาด หนึ่งถาดน้ำหนัก 200 กรัมราคาสูงถึง 3,500 บาท หรือบางถาดอาจแพงกว่านี้ 5 เท่าก็มี

      ฟูกุ หรือปลาปักเป้าญี่ปุ่นเป็นของขึ้นชื่อในหมู่ชาวญี่ปุ่นในฐานะอาหารชั้นสูงนิยมนำไปทำซาชิมิ สายพันธุ์ที่มีราคาแพงสุดและมีพิษมากสุดคือ “โทระฟุกุ” หรือปลาปักเป้าเสือ สารพิษในปลาปักเป้าที่เรียกว่าเทโทรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) มีความรุนแรงมากกว่าไซยาไนด์และทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจึงกำหนดให้พ่อครัวที่จะปรุงอาหารจากปลาปักเป้าต้องได้รับการฝึกการหั่นเตรียมปลาปักเป้าและขึ้นทะเบียนโดยรัฐบาล นอกจากนี้ ร้านอาหารในญี่ปุ่นที่จะเสิร์ฟเมนูปลาปักเป้าได้ต้องเป็นร้านที่มีใบอนุญาตการประกอบอาหารจากปลาปักเป้าเท่านั้น

      เมลอน ผลไม้ขึ้นชื่อของญี่ปุ่น โดยมากปลูกทางภาคกลาง แต่เมื่อ 3 ปีก่อน ที่ฮอกไกโดทางเหนือสามารถปลูกเมลอนได้และนำออกประมูลได้ราคาสูงถึงลูกละ 1.6 ล้านบาท การปลูกเมลอนใช้เวลาประมาณ 100 วันจึงสามารถเก็บเกี่ยวได้ ระหว่างปลูกต้องใส่ใจดูแลใกล้ชิดเพราะลักษณะผลและความหวานจะเป็นสิ่งคัดเกรดของเมลอน เมลอนจะปลูกบนแปลงยกจากพื้นดิน มีการควบคุมอุณหภูมิและปริมาณน้ำ ทำให้เมลอนสามารถปลูกได้ทั้งปี แม้จะเป็นผลไม้ที่มีราคาสูง แต่ก็เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก ถือเป็นผลไม้หรูที่ผู้คนนิยมซื้อเป็นของขวัญของฝากแก่กัน

      ไทโย โน ทามาโกะ หรือมะม่วงไข่พระอาทิตย์ เป็นมะม่วงที่มีราคาแพงสุดในโลก ผลผลิตจากจังหวัดมิยาซากิ เคยมีการประมูลมะม่วงไทโย โน ทามาโกะ 1 คู่ในราคา 500,000 เยนหรือราว 1.43 แสนบาท ความพิเศษอยู่ที่เทคนิคการปลูกที่ใช้แสงแดดเยอะเพื่อทำให้ผลอวบอ้วนและมีผิวสีแดงจัดสม่ำเสมอทั้งลูกโดยไม่มีสีเขียวแทรกเลย นอกจากนั้น ยังมีการควบคุมคุณภาพอย่างเคร่งครัด มะม่วงแต่ละลูกต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 350 กรัม และความหวาน 15 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป

      เห็ดมัตสึตาเกะ หรือเห็ดสน เป็นเห็ดที่ขึ้นได้ดีบริเวณใต้ผิวดินใกล้รากของต้นสนแดง เก็บได้ปีละครั้งและค่อนข้างหายากเพราะเห็ดจะกลมกลืนไปกับพื้นดิน ความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสมคือปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพของเห็ด หากปีไหนมีเห็ดน้อยเนื่องจากความแห้งแล้ง อุณหภูมิขึ้นสูง หรือเสียหายจากแมลง ราคาเห็ดมัตสึตาเกะอาจสูงเกือบ 20,000 บาทต่อกิโลกรัม ความต้องการเห็ดมัตสึตาเกะมีมากทำให้ปัจจุบัน ญี่ปุ่นต้องนำเข้าเห็ดชนิดนี้จากบางประเทศ เช่น จีน และเกาหลีใต้

ที่มา

https://www.scmp.com/lifestyle/food-drink/article/3198960/can-cost-more-bluefin-tuna-how-japans-most-expensive-foods-wasabi-pufferfish-mangoes-are-produced?module=perpetual_scroll_0&pgtype=article&campaign=3198960

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

จับตาผลกระทบการค้าชายแดนไทย เส้นทางธุรกิจแม่สอดเปลี่ยนเป็นสนามรบ

กับสถานการณ์การสู้รบในเมียนมาใกล้ชายแดนไทยยังคงร้อนระอุนับตั้งแต่กองกำลังกะเหรี่ยง KNU และกองกำลังปกป้องประชาชน PDF “เข้ายึดฐานปฏิบัติการ 275 ในเมียวดี” ส่งผลต่อกระทบเส้นทาง “แนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor-EWEC)” ของไทย

ทำธุรกิจซัก-รีด ยังไงให้มีรายได้สาขาละแสน ล้วงความลับกับเจ้าของแบรนด์ ตั้งใจซัก

หนึ่งในธุรกิจที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “เสือนอนกิน” นั้นต้องมีธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญติดในลิสต์เป็นอันดับต้นๆ ทำให้ธุรกิจนี้เติบโตเป็นพิเศษโดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการที่สนใจเปิดธุรกิจนี้มากมาย แต่ถึงแม้จะเป็นธุรกิจเสือนอนกิน ใช่ว่าทุกคนจะเป็นเสือที่ได้กินธุรกิจนี้ง่ายๆ

Erabica Coffee ผู้ปักหมุด กาแฟน่าน ให้เป็นที่รู้จักระดับประเทศ

นี่คือสองสามีภรรยา ที่อยากมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่น่าน คิดสร้างแบรนด์กาแฟของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Erabica (เอราบิก้า) กลายเป็นการยกระดับกาแฟน่านเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น