TEXT : Neung Cch.
PHOTO : สุนันท์ ล้อสมทรัพย์
Main Idea
- เจตนาที่ต้องการช่วยเกษตรขายข้าวได้กิโลกรัมละไม่กี่บาท กลายเป็นการจุดประกายให้ ณภัทร อินทรเสน และ ฐิตารีย์ ทวาสินฐิติทัช สองสามีภรรยาหันมาทำธุรกิจเดลิเวอรี
- ผ่านไปเพียงสองปี กิจการที่คิดว่าทำฆ่าเวลา สามารถทำรายได้ถึงเป้า 5 แสนติดกันสามเดือน สู่การเปิดหน้าร้านที่เมืองทองธานีที่ยังคงไปได้ดี ทั้งคู่จึงเดินหน้าต่อไปด้วยเป้าหมายใหม่ใหญ่กว่าเดิมคือ การเปิดสาขาในต่างประเทศ
ไม่รู้ว่าจะเรียกเป็นการพักร้อนดีหรือไม่
เมื่อหนึ่งหนุ่มทำธุรกิจรับเหมากับหนึ่งสาวทำธุรกิจเสื้อผ้า ต้องพากันหนีโควิดกลับไปบ้านเกิดภรรยาที่ จ. ยโสธร เผอิญไปเห็นคุณยายท่านหนึ่งกำลังนำข้าวมาตากแดด เพื่อรอให้คนมารับซื้อในราคากิโลกรัมละ 7 บาท กลายเป็นภาพจำ ทำให้ทั้ง ณภัทร กับ ฐิตารีย์ ปรึกษากันว่าน่าจะทำอะไรเพื่อช่วยเกษตรกรเหล่านั้นได้บ้าง ประจวบเหมาะกับช่วงนั้นทั้งคู่ต้องหยุดกิจการของตัวเองจึงตัดสินรับซื้อข้าวและผักจากเกษตรกรมาเพื่อทำเป็นอาหารขายผ่านแอปเดลิเวอรี
จากที่ต้องการหารายได้เสริมและช่วยเกษตรกร แต่ผ่านไปสองปีธุรกิจกลับไปได้ดีมียอดขายเป็นไปตามเป้าคือ ทำรายได้ 1.5 แสนบาท ติดต่อกัน 3 เดือน ปรากฏว่ายอดขายของเดือนตุลาคม-ธันวาคม ปี 2021 สามารถทำขายยอดได้ตามเป้า เดือน มกราคมปี 2022 ทั้งคู่จึงเดินหน้าเปิดร้าน อีสแอน ISAN ส้มตำคาเฟ่ เมืองทองธานี ผ่านไปหนึ่งปีร้านแห่งนี้ก็มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยถึงครึ่งล้านบาท
ณภัทร เล่าว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้การทำเดลิเวอรี่ของเขาประสบความสำเร็จมาจากการนำประสบการณ์สมัยเรียนปริญญาโทออสเตรเลียได้ไปทำงานที่ร้านอาหารมาปรับใช้ บวกับการเรียนรู้และพัฒนาด้วยตัวเอง นี่คือสูตรความสำเร็จของ อีสแอน ISAN ส้มตำคาเฟ่ เมืองทองธานี
สะอาดแบบไร้ฝุ่น
ทันทีที่เปิดประตูร้านเข้าไปเพื่อพูดคุยกับเจ้าของร้านก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เป็นระเบียบ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เจ้าของร้านอย่าง ณภัทร บอกว่าการทำอาหารของเขาจะเน้นเรื่องความสะอาดเป็นหลัก เพราะว่าอาหารมันคือสิ่งที่ต้องเข้าไปในร่างกายคน ทุกคนก็อยากทานของอร่อยที่สะอาด ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นโต๊ะอาหาร จาน ชาม หรือแม้แต่ในครัวจะต้องสะอาด โดยเขาท้าว่าถ้าใครอยากไปเช็กที่ในครัวเขาก็ยินดีเสมอ
“เป็นประสบการณ์มาจากการทำร้านอาหารที่ออสเตรเลียคือ จะมีภาครัฐเข้ามาตรวจในครัว ถ้าเขารูดนิ้วไปเจอฝุ่นร้านนั้นจะถูกปิด 1 สัปดาห์ สิ่งนี้เกิดขึ้น 10 ปีที่แล้วและผมก็ซึมซับมาปรับใช้กับร้าน”
วางระบบให้ร้านไม่สะดุด
นอกจากความสะอาดแล้วณภัทร บอกว่าเขายังเป็นคนที่ค่อนข้างเป๊ะมีความละเอียดในการทำงาน ซึ่งติดตัวมาตั้งแต่ตอนทำอาชีพรับเหมาที่งานทุกอย่างต้องลงรายละเอียดเพื่อป้องกันการผิดพลาด ทำให้เขาได้ตรงนี้มาใช้กับการทำธุรกิจอาหาร คือจะลงรายละเอียดตั้งแต่อาหารหนึ่งจานมีต้นทุนเท่าไหร่ ใช้เวลาในการทำอาหารแต่ละเมนูกี่นาที ฯลฯ
“แต่มันยังมีปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่อง turn over ของพนักงาน ซึ่งเป็นปัญหาหลักๆ ของร้านอาหาร พอพนักงานลาออกกระทบกับงาน เป็นประสบการณ์สอนเราว่า ต้องทำทุกอย่างให้เป็นระบบ เราก็อาศัยปรึกษาเพื่อนๆ ว่าร้านอาหารใหญ่ๆ เขาทำครัวกันยังไง เพื่อนแนะนำว่าให้ทำ ready to cook เมื่อมีออร์เดอร์ใช้เวลาในการทำสั้น ลูกค้าไม่ต้องรอนาน เราก็ปรับเมนูที่สามารถทำ ready to cook ได้ พร้อมกับเปลี่ยนกระบวนการทำงานใหม่หมด เตรียมของให้พร้อมเช่น หั่นหมูสับ แบ่งใส่ถุงชั่งน้ำหนักเท่ากันเป็นมาตรฐาน วิธีการจัดวางใบตอง ต้องใช้ผักกี่ชิ้น ทำทุกอย่างให้เป็นมาตรฐานใครก็ทำได้ พยายามทำให้ human error น้อยสุด”
ณภัทร บอกว่าแม้จะวางระบบยังดีแต่ก็ยังมีปัญหาระหว่างทางอื่นๆ ให้เรียนรู้ เช่น เรื่องบรรจุภัณฑ์ตอนแรกพยายามใช้กล่องกระดาษใส่ส้มตำแต่โดนคอมเม้นต์ว่าหกเลอะเทอะ สุดท้ายต้องใส่ถุงพลาสติกแต่ทุกอย่างต้องเรียนรู้และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไป
มี Top เมนูคนไทยชอบทาน
อีกหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ทางร้านขายดีคือ การเลือกเมนู โดยในช่วงที่ทำเดลิเวอรี่ทางร้านจะมีรายการอาหารประมาณ 40 เมนู แต่เมนูที่จะขาดไม่ได้คือ อาหารยอดนิยมที่คนไทยสั่งออนไลน์มากที่สุด อันดับหนึ่งคือ ส้มตำ จากสถิติปีที่แล้วคนไทยสั่งส้มตำประมาณ 7 ล้านจาน อันดับสองเป็นกะเพรา สามผัดไท และสี่ก๋วยเตี๋ยว รวมทั้งมีเครื่องดื่มกาแฟที่เป็นเครื่องดื่มยอดฮิตอีกด้วย
“ผมว่าเทรนด์ของอาหารมาแล้วไป อย่างทุกวันนี้คนนิยม หมาล่าเป็นหม้อ แต่ผมเชื่อว่าอาหารแบบนี้ไม่ได้อยู่นานเป็นสิบยี่สิบปี สุดท้ายคนก็กลับมากิน เมนูยอดนิยมเดิมๆ ถึงจะไม่หวือหวาแต่มันคือความยั่งยืน”
ต้องใช้กระสุนไห้เป็น
อีกหนึ่งวิธีที่ทำให้อีสแอน ISAN ส้มตำคาเฟ่ เติบโตมาได้ก็คือ เข้าใจช่องทางการตลาด เมื่ออยู่ในโหมดเดลิเวอรี่ก็ต้องพึ่งแพลตฟอร์ม ดังนั้นจะทำให้ร้านเป็นที่รู้จักได้ก็ต้องร่วมจอยกับแพลตฟอร์มเหล่านั้น
“ผมเคยลองแล้วถ้าเราไม่จอยกับแพลตฟอร์ม ลูกค้าหาร้านไม่เจอ แม้จะอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันก็ไม่เห็น แต่ถ้าเราจอยแล้วจะขึ้นหน้าแรกเลย”
หรือเมื่อมาเปิดหน้าร้านก็ต้องเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า ณ ภัทรบอกว่าในช่วงเปิดร้าน 3 เดือนแรกเขากับภรรยาจะไปนั่งคุยกับลูกค้าแทบทุกโต๊ะเพื่อดูว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร อยากให้ปรับปรุงตรงไหน และก็จะนำสิ่งเหล่านั้นมาปรับปรุงเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้า
“ตอนเปิดร้านช่วงแรกทำแบบ fast food ให้ลูกค้าไปสั่งที่เคาน์เตอร์ แต่ไม่มีใครสั่ง เราก็ต้องปรับมารับออร์เดอร์ หรือเรื่องรสชาติที่ตอนแรกเราทำรสจัด ก็ต้องปรับมาเป็นกลางๆ เพื่อให้ทุกคนทานได้”
มาถึงวันนี้นอกจากจะมีหน้าร้านแล้ว ณภัทร กำลังทำ Cloud kitchen ขายแฟรนไชส์ และหากไปได้ดีเขาก็จะ ขยายร้านไปเป็น Stand alone และขยายสาขา ก่อนที่จะไปถึงเป้าหมายต่อไปคือการมีสาขาที่ต่างประเทศ
“มันก็ยังไม่ถือเป็น Success model แต่อย่างน้อยก็สร้างความภูมิใจที่เราได้ช่วยเกษตรให้มีรายได้มากขึ้น จากที่เขาขายข้าวได้กิโลกรัมละ 7 บาทเรารับซื้อมากิโลกรัมละ 25 บาท”
ผู้ประกอบการจากกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้แข่งขันได้ในยุค Next Normal ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
|
อีสแอน ISAN ส้มตำคาเฟ่ เมืองทองธานี https://www.facebook.com/isansomtumcafe โทร.02 000 2437 |
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
