จับตาคราฟท์แอลกอฮอล์ ว่าที่ธุรกิจดาวรุ่ง กับปัจจัยที่มีผลต่อเทรนด์ตลาดน้ำเมาในปัจจุบัน

TEXT: วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์

Main Idea

  • กลายเป็นกระแสร้อนแรงอย่างมากเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำเองที่มีลักษณะเป็นงานฝีมือ (คราฟท์)

 

  • หลัง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลไปออกรายการทีวีแล้วเมนชั่นถึงบรรดาแบรนด์สุราพื้นบ้านที่ผลิตในจังหวัดต่างๆ จนทำให้แฮชแท็ก #สุราก้าวหน้า ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไปหลายวัน

 

  • ผู้คนแห่อุดหนุนเหล้าพื้นบ้านแต่ละแบรนด์จนหมดเกลี้ยงและโรงกลั่นแต่ละที่ผลิตไม่ทันเลยทีเดียว

 

     สุราก้าวหน้าเป็นหนึ่งในนโยบายที่เกิดจากความพยายามของพรรคก้าวไกลในการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ขึ้นมา เพื่อไปแก้ไขเพิ่มเติมฉบับเดิมที่มีอยู่ โดยเพิ่มเงื่อนไขเพื่อปลดล็อกให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถขออนุญาตผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ จุดประสงค์เป็นการกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อย และเปลี่ยนสินค้า “โภคภัณฑ์” ประเภท อ้อย ข้าว ธัญพืชและผลไม้ให้เป็น “ผลิตภัณฑ์” ที่มีมูลค่าเพิ่ม

ญี่ปุ่นได้รับแรงบันดาลใจจากไทยในการผลิตสุรากลั่น

     เท่าที่ทราบมา ในหลายประเทศทั้งฝั่งอเมริกา ยุโรปและเอเชียก็เคยมีกฎหมายควบคุมการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ภายหลังมีการทยอยคลายกูฏเหล็กทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ได้เสรีขึ้น ยกตัวอย่างที่เห็นชัดสุดคือญี่ปุ่น ไทยกับญี่ปุ่นมีตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใกล้เคียงกันคือ 400,000 แสนล้านบาท/ปี แต่หลังญี่ปุ่นปลดล็อคภาษีเหล้าเบียร์เมื่อปี 1994 จำนวนผู้ผลิตสาเกและเบียร์รายย่อยแบบ sme เพิ่มขึ้นรวมแล้วกว่า 20,000 ราย มากกว่าจำนวนผู้ผลิตในไทยเป็นพันเท่าเลยก็ว่าได้

     หลายวันก่อน ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเที่ยมชมพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านญี่ปุ่นที่อยุธยา ข้อมูลตอนหนึ่งระบุว่าญี่ปุ่นได้รับแรงบันดาลใจจากไทยในการผลิตสุรากลั่น โดยพบหลักฐานจากเครื่องปั้นดินเผาจากอยุธยาที่ใช้บรรจุเหล้าจำนวนมากที่โอกินาวา สอดคล้องกับการเป็นเส้นทางการค้าระหว่างไทยญี่ปุ่นในสมัยโบราณ นักวิชาการญี่ปุ่นเองก็เชื่อว่าชาวริวกิว (โอกินาว่า) เรียนรู้การกลั่นสุราจากชาวอยุธยา กว่า 600 ปีผ่านไป “อาวาโมริ” ได้กลายเป็นเหล้ากลั่นที่เก่าแก่สุดและมีชื่อสุดของญี่ปุ่น ที่สำคัญยังใช้กรรมวิธีการผลิตและวัตถุดิบที่เป็นข้าวไทยเหมือนเดิม เรียกได้ว่าเป็นเหล้าทำเงินของญี่ปุ่นที่ใช้ภูมิปัญญาของไทยแท้ ๆ  

ปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดเทรนด์ในตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

     มีรายงานว่าการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทำเองที่มีลักษณะเป็นงานฝีมือ (คราฟท์) มีส่วนในการขับเคลื่อนเทรนด์หลัก ๆ ในตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โลก ตลอดช่วง 15 ปีที่ผ่านมาหรือมากกว่านั้น เทรนด์หลักในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มคือเรื่องของ “คุณภาพ” จนมาถึงปัจจุบัน เทรนด์นั้นได้ขยายมายังความเป็นพรีเมี่ยมในตลาดเฉพาะกลุ่มหรือ niche market เริ่มต้นจากการปฏิวัติในวงการคราฟท์เบียร์ และสุรา เช่น เหล้ายิน และรัม ผู้ผลิตต่างกำลังพัฒนาคุณภาพและความเป็นงานฝีมือในเครื่องดื่มของตน ทำให้เกิดวิวัฒนาการของรสชาติและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หมวดหมู่ใหม่ ๆ มาดูกันว่าปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดเทรนด์ในตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีอะไรบ้าง

     ลูกค้าคาดหวังสิ่งใหม่ๆ การเติบโตของคราฟท์เบียร์จะเกิดขึ้นไปอีกระยะหนึ่ง อย่างในตลาดสหรัฐฯ บริษัทแอลอีเค คอนซัลติ้งระบุตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา ตลาดเหล้าคราฟท์เติบโตเฉลี่ยปีละ 20 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มจะโต 15-20 เปอร์เซ็นต์ในปีต่อไปโดยมีคลื่นลูกใหม่ของคราฟท์เบียร์ช่วยจุดประกายให้ผู้คนหันมาโฟกัสคุณภาพของสุรามากขึ้น โดยเฉพาะเหล้ายินที่ขยายตัวอย่างมากทำให้เกิดแบรนด์ยอดนิยมหลายแบรนด์ อาทิ เฮนดริกส์ จินมาเร่ และมังกี้47    

     ก่อนหน้านั้น เหล้าคราฟท์มักจำหน่ายในปริมาณไม่มากและจำเพาะไปที่บาร์หรือร้านอาหารบางแห่ง แต่ปัจจุบัน  หากเดินดูตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านค้าจะเห็นเหล้าคราฟท์วางขายตามชั้นเกือบทุกที่ มีความหลากหลายทั้งรสชาติ วัตถุดิบ และสมุนไพรที่ใช้ในการผลิต ทำให้ผู้ดื่มมีทางเลือกมากขึ้น ผู้บริโภคในปัจจุบันต้องการและคาดหวังอะไรใหม่ๆ เหล้าทางเลือกเหล่านี้จึงมีส่วนสำคัญในการสร้างประสบการณ์และความสนใจให้กับผู้บริโภค 

     ค็อกเทลช่วยดันตลาดให้โต วัฒนธรรมเครื่องดื่มที่มีเหล้าผสมหรือค็อกเทลมีส่วนในการทำให้ผลิตภัณฑ์เหล้าและเบียร์คราฟท์ได้รับความนิยม โดยเฉพาะเมื่อบาร์เทนเดอร์ในร้านอาหารและบาร์ได้ลองคิดค้นสูตรเครื่องดื่มจากสุราทางเลือกเพื่อเอาใจและสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้า ในอังกฤษ เครื่องดื่มทั้งแบบคลาสสิกและรังสรรค์ขึ้นมาใหม่ถูกบรรจุในเมนูของร้านอาหารและบาร์กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ทั่วประเทศ ส่งผลให้ยอดขายค็อกเทลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ นอกจากนั้น อีกปัจจัยที่ผลักดันให้ตลาดเครื่องดื่มคราฟท์โตคือผู้บริโภคที่กระหายความแตกต่าง ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ต้องการเหมือนใครจึงมักแชร์เครื่องดื่มแปลกลงในไอจีหรือโซเชี่ยลมีเดียอื่นๆ  

     การเกิดใหม่ของเหล้าต่างๆ เพราะเครื่องดื่มในหมวดหมู่เดิมๆ เริ่มมีความอิ่มตัว จึงเปิดโอกาสให้โรงกลั่นขนาดเล็กได้ลองทำอะไรที่แตกต่างออกไป The Spirits Business สื่ออังกฤษที่นำเสนอข้อมูลในอุตสาหกรรมสุราคาดการณ์ว่าการคิดนอกกรอบของเจ้าของโรงกลั่น เช่น การคิดค้นเครื่องดื่มข้ามสายพันธุ์ การพัฒนาเทคนิคการกลั่น และการทดลองวัตถุดิบที่แตกต่างทำให้เกิดสุราหมวดหมู่ใหม่ที่พวกเขานิยามขึ้นมาเองและมีความแตกต่างจากของเดิม

     ยกตัวอย่างการเกิดใหม่ของเหล้าอิตาเลี่ยนโบราณ อาทิ “อิตาลิคัส” (Italicus) เหล้ายุคศตวรรษ 15 ที่ใช้กลีบกุหลาบในการทำ แต่สมัยใหม่มีการดัดแปลงใช้มะกรูดและมะนาวเหลืองแทน และผลิตด้วยเทคนิคที่ต่างออกไป หรือ “คาเดลโล” ซึ่งเป็นเหล้าอิตาเลี่ยนจากยุคศตวรรษ 18 ซึ่งมีส่วนผสมของวัตถุดิบ 8 อย่าง รวมถึงโป๊ยกั๊ก เฮเซลนัท มินต์ และกาแฟที่ทำให้กลายเป็นเหล้ารสชาติเอกลักษณ์เฉพาะตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการลองของใหม่ 

     Less is more น้อยแต่เน้นๆ บ่อยครั้งที่คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ หลายคนไม่ได้เน้นดื่มเยอะ แต่เน้นความรื่นรมย์ในการร่ำสุรามากกว่า ผู้บริโภคกลุ่มนี้จึงยินดีจ่ายแพงกว่าเพื่อให้ได้สุราที่ผ่านกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถัน การเติบโตของตลาดสุรามีแนวโน้มจะย้ายไปยังกลุ่มสุราที่มีความหรูหราและพรีเมี่ยมโดยมีผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียลช่วยผลักดันตลาด ข้อมูลระบุมูลค่าการบริโภคสุราพรีเมียมของกลุ่มมิลเลนเนียลนั้นมีสัดส่วนถึง 32 เปอร์เซ็นต์ ช่วงปี 2012-2017 ตลาดสุราพรีเมียมอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นปีละ 6-7 เปอร์เซ็นต์ มีการคาดการณ์ว่า 43 เปอร์เซนต์ของผู้บริโภคเลือกดื่มสุราพรีเมียมคุณภาพสูง ผู้ผลิตสุราจึงควรปรับการผลิตเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในตลาด 

     กระแส Homebrew กำลังมา หลังจากที่ได้ลิ้มลองคราฟท์แอลกอฮอล์ประเภทต่างๆ ตามบาร์และร้านอาหาร ผู้บริโภคหลายคนเริ่มติดใจถึงขนาดเริ่มทดลองทำเอง นั่นทำให้กระแส homebrew หรือการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เองในบ้านกลายเป็นที่สนใจ กอปรกับชุดอุปกรณ์การผลิตแบบครบครันและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตก็มีจำหน่ายทั่วไป แถมมีหลากหลายรสชาติให้เลือก ทำให้การทดลองทำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คราฟท์เป็นเรื่องสนุก ก่อนผลิตเชิงพาณิชย์ หลายแบรนด์ก็เริ่มมาจากการเป็นมือสมัครเล่นลองผิดลองถูกมาก่อนนั่นเอง    

     จะเห็นว่าจากที่เป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่กระแสตอบรับและเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค จึงทำให้มองได้ว่าไม่เพียงแทรกตัวในตลาดหลัก ในอนาคตผลิตภัณฑ์คราฟท์แอลกอฮอล์อาจผงาดเคียงข้างเครื่องดื่มที่แทสแล้วในตลาดก็ว่าได้

ที่มา : https://www.newfoodmagazine.com/article/89838/key-trends-alcoholic-market-craft/

https://thecraftycask.com/craft-spirits-liqueurs/what-is-craft-alcohol/

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

จงปังนมสด ร้านดังแห่งสุราษฎร์ธานี แจ้งเกิดเพราะแบรนด์ดิ้ง และไอเดียทำคอนเทนต์จนเป็นไวรัล

"จงปังนมสด" ร้านดังเมืองสุราษฎร์ธานี ที่กำลังโด่งเป็นไวรัลขณะนี้ จากคลิปตัดต่อที่นำเสียงของเจ้าของเจ้าของร้านขนมปังชื่อดังย่านกทม. อย่าง "มนต์นมสด" มาเป็นแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ

SME อยากโตรับเทรนด์ ESG แม่ทัพกรุงศรีเอสเอ็มอี แนะ ลด-เพิ่ม-สร้าง โอกาสพลิกธุรกิจโตยั่งยืน

“ESG” คือตัวย่อของคำว่า Environment (สิ่งแวดล้อม)  Social (สังคม) และ Governance (ธรรมาภิบาล) เป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก ไม่เพียงองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น ทว่าแม้แต่เอสเอ็มอี ก็สามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

สูตรปั้นนวัตกรรมให้ยอดขายโต 8 เท่าในปีแรก จากแบรนด์น้ำมันนวด Suwan Spray

ถ้าอุปสรรคเปรียบเสมือนบันไดไปสู่ความสำเร็จ การทำนวัตกรรมก็เปรียบเสมือนบันไดอีกขั้นของ "ณฐมน ปิยะพงษ์-ยุ้ย" เจ้าของผลิตภัณฑ์ "Suwan Spray" แบรนด์น้ำมันนวดที่นำสูตรบรรพบุรุษกว่า 100 ปีมาต่อยอดด้วยการใช้นวัตกรรมสกัดสารแก้ปวดจากเบต้าไพนีนในมะกรูด จนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศนักธุรกิจนวัตกรรมมาครองได้