คิดค่าบริการเพิ่มดีไหม? ฟังกูรูวิเคราะห์ กระแสร้านอาหารต่างประเทศ ชาร์จเงินพ่อแม่ที่คุมลูกไม่ได้

TEXT : กองบรรณาธิการ

Main Idea

  • “Toccoa Riverside” ร้านอาหารหรูประเทศจอร์เจีย ใช้มาตรการเด็ดขาดปรับเงินผู้ปกครองที่นำบุตรหลานเข้าใช้บริการ แต่ไม่สามารถควบคุมได้ เป็นเงิน 50 ดอลลาร์

 

  • พาเด็กเข้าร้าน แล้วควบคุมไม่ได้ จริงๆ ควรเก็บค่าบริการเพิ่มไหม? ชวนมาคิดวิเคราะห์ไปพร้อมกัน

 

       

     ปัญหาเด็กซนกับการเข้าใช้บริการร้านอาหาร เป็นสิ่งที่พูดกันมาหลายครั้ง เราอาจได้ยินข่าว หรือเห็นมาตรการที่หลายร้านนำมาใช้ เช่น ติดประกาศป้ายไม่รับ บ้างก็เลือกที่จะจัดโซนเฉพาะสำหรับโต๊ะที่มีเด็กมาด้วย เพื่อป้องกันความวุ่นวาย ไม่ให้รบกวนลูกค้าท่านอื่น ล่าสุดมีข่าวร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศจอร์เจียงัดมาตรการเด็ดขาด ปรับเป็นเงินสูงถึง 50 ดอลลาร์ สำหรับพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่ไม่สามารถควบคุมบุตรหลานได้ คิดเห็นกันอย่างไร ลองไปดูรายละเอียดกันก่อน

ไม่ดูแล ควบคุมไม่ได้ = ปรับ

     ร้านดังกล่าวมีชื่อว่า “Toccoa Riverside” เป็นร้านอาหารบรรยากาศเงียบสงบ อยู่ติดริมแม่น้ำ มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ตั้งอยู่ในเทือกเขาบลูริดจ์ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของจอร์เจีย ให้บริการอาหารสไตล์อเมริกัน เช่น พาสต้า แซนด์วิช ไปจนถึงอาหารระดับไฮเอนด์ โดยได้มีการระบุไว้ที่ด้านล่างของเมนูชัดเจนว่า “มีค่าบริการสำหรับพ่อแม่ ที่ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองดูแลควบคุมบุตรหลานได้”

     เหตุที่ทำให้เป็นข่าวขึ้นมาเกิดขึ้นหลังจากครอบครัวหนึ่งได้พาลูกๆ เข้าไปใช้บริการ และเจอเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มจากค่าอาหารปกติเป็นเงินถึง 50 ดอลลาร์ จึงได้มีการนำมาโพสต์ต่อว่าบนสื่อออนไลน์ และเตือนลูกค้าคนอื่นๆ ที่มีลูก หรือเด็กเล็กไม่ให้ไปใช้บริการ เพราะอาจเจอค่าปรับมหาโหดได้ จนเกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมา มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากกว่า 1,200 คอมเมนต์ และกดไลค์โพสต์ดังกล่าวกว่า 12,500 ราย โดยมีทั้งที่ไม่เห็นด้วย มองว่าร้านทำเกินกว่าเหตุ คิด ค่าปรับแพงเกินไป ขณะที่บางคนกลับเห็นด้วยกับร้าน ว่าพ่อแม่ ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยลูกหลานจนเกินไป ถ้าพามาก็ต้องควบคุมให้ได้ ถ้าไม่ได้ก็ต้องยอมโดนปรับ

กูรูร้านดังแนะ ควรแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นตอ

     จากกรณีที่เกิดขึ้น SME Thailand ได้ลองสอบถามไปยังกูรูธุรกิจร้านอาหาร ธนพงศ์ วงศ์ชินศรี หรือ “ต่อ ชาบูเพนกวิน” หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งร้าน Penguin Eat Shabu โดยได้แสดงความคิดเห็นและให้คำแนะนำว่า

     “สำหรับประเด็นที่เกิดขึ้น ผมอยากให้มองไปที่ต้นตอของสาเหตุก่อนดีกว่าไปแก้ที่ปลายเหตุ ซึ่งการที่เด็กวุ่นวาย ไม่อยู่นิ่ง หรือวิ่งไปวิ่งมา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนั่นคือ ธรรมชาติตามวัยของเขา ซึ่งเมื่อไม่มีอะไรให้โฟกัส การจะให้อยู่นิ่งๆ เฉยๆ นานๆ ก็เลยทำไม่ได้ ดังนั้นหากเราเข้าใจตรงนี้ได้ และลองหากิจกรรมหรืออะไรให้เขาได้โฟกัสมากขึ้น เช่น ตุ๊กตา, ตัวต่อเลโก้, การวาดภาพระบายสี เมื่อมีอะไรให้ทำ เขาก็จะไม่ไปวิ่งเล่น ซุกซน หรืออยู่นิ่งได้นานขึ้น พ่อแม่ก็แฮปปี้ขึ้น

     “ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าเรายังสามารถนำมาคิดต่อยอดได้ด้วย เช่น อาจจะทำเป็นสมุดระบายสีของแบรนด์ เล่าสตอรีแบรนด์ ช่วยให้รู้จักแบรนด์ได้มากขึ้น หรืออาจทำเป็นสินค้าที่ระลึกจากแบรนด์ขายไปด้วยเลยก็ได้ เอาจุดอ่อนมาสร้างเป็นจุดแข็ง ผมว่าสามารถทำได้หมด ในอีกส่วนของทางร้านเอง เราอาจมีการเทรนด์พนักงานให้มีการรับมือและช่วยดูแลเด็กๆ มีวิธีการหลอกล่อ วิธีเล่นกับเด็กๆ ผมว่าจะทำให้พ่อแม่ หรือผู้ปกครองเกิดความประทับใจในแบรนด์มากขึ้นด้วย ดีกว่าการตั้งกฎที่บางครั้งอาจไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์” กูรูร้านดังฝากเอาไว้ให้คิด

     แล้วคุณล่ะคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง…

ที่มา : https://www.businessinsider.com/georgia-restaurant-charging-diners-for-misbehaving-kids-slammed-online-2023-10

https://www.yourtango.com/entertainment/restaurant-charges-parents-with-unruly-kids

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

Nyana Nyana Eco Fashion อดีตสถาปนิกนักสู้มะเร็ง สู่เจ้าของแบรนด์แฟชั่นออร์แกนิก เป็นมิตรต่อผู้สวมใส่ และสิ่งแวดล้อม

Nyana Nyana Eco Fashion แบรนด์แฟชั่นของอดีตสถาปนิกหญิงสิงคโปร์ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้พบว่าป่วยเป็นมะเร็ง แต่ “Clara Simanjuntak” กลับใช้เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำสิ่งดีๆ รวมถึงการสร้างแบรนด์เสื้อผ้าจากผ้าออร์แกนิก

บ้านโอบอุ่น ธุรกิจเล็กๆ ของนักศึกษาพยาบาล ที่ทำให้คนแปลกหน้ากลายเป็นเพื่อนกัน

พาไปรู้จักบ้านโอบอุ่น ธุรกิจโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ปลูกขึ้นกลางทุ่ง ของ อั้ม-พัชราภา อ่ำปั้นนักศึกษาพยาบาล ที่นั่งรถไฟจากพิษณุโลกไปเชียงดาวทุกสัปดาห์เพื่อมาทำโฮมสเตย์เล็กๆ ที่เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นเพื่อนกัน

SME ไทยจะอยู่รอดได้อย่างไรท่ามกลางสงครามการค้า

การประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 125% โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้จุดชนวนสงครามการค้ารอบใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ดังนั้น SME ไทยจึงกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง ...แล้วเราจะอยู่รอดได้อย่างไร