TEXT : อรุษา กิตติวัฒน์
PHOTO : สุนันท์ ล้อสมทรัพย์
ในอดีตผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์หนังแท้ ที่คัดสรรวัตถุดิบพรีเมียม อาจสั่งซื้อหนังจากต่างประเทศ เพราะเชื่อว่าคุณภาพดีกว่า ทว่าบางครั้งหนังที่ซื้อจากต่างประเทศ ก็อาจถูกผลิตและส่งออกจากโรงฟอกในบ้านเราเอง
โรงฟอกหนัง คงศิริแทนเนอรี่ ผลิตหนังส่งออกให้กับลูกค้าต่างประเทศมากว่า 40 ปี ด้วยคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เล็งเห็นว่าที่ผ่านมาอาจมีลูกค้าภายในประเทศที่ต้องการหนังคุณภาพเดียวกันนี้ แต่ไม่สามารถซื้อได้เพราะปริมาณขั้นต่ำ จึงหันมาปั้นแบรนด์ TACTUS LEATHER ขายปลีกหนังแบบไม่มีขั้นต่ำในประเทศ มุ่งตอบสนองความต้องการกลุ่มนักออกแบบ ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ทั้ง OEM ให้แบรนด์ต่างประเทศและแบรนด์คนไทย กลุ่มโรงแรม รวมถึง SME ทั่วไป
ลักขณา ทรัพย์เปี่ยมลาภ Managing Director บริษัท แทคทุส จำกัด บริษัทลูกของ คงศิริแทนเนอรี่ ซึ่งดูแลแบรนด์ TACTUS LEATHER และการขายปลีกในประเทศ เล่าว่าตอนที่เข้าสู่ธุรกิจฟอกหนังเมื่อเกือบ 50 ปีที่แล้ว เริ่มจากกิจการเล็กๆ ในครอบครัว แปรรูปเพียงขั้นตอนของหนังดิบให้เป็นหนังที่ไม่เน่าเสีย ส่งเป็นวัตถุดิบให้กับโรงฟอกอื่น จากนั้นจึงค่อยๆ ต่อยอด เพิ่มทีละขั้นตอน จนฟอกหนังได้เต็มรูปแบบ รวมเวลายาวนานเกือบ 20 ปี กว่าจะขยับขยายจนก่อตั้งเป็น บริษัท คงศิริแทนเนอรี่ จำกัด ในปี พ.ศ. 2523 ผลิตหนังส่งออกต่างประเทศ โดยมีลูกค้าหลักเป็นผู้ค้าปลีกหนังรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา
หนังที่ผลิตในช่วงเริ่มต้นไม่มีความแตกต่างจากโรงฟอกอื่นๆ แข่งขันกันด้วยปริมาณและราคา ใครผลิตได้มากที่สุดในราคาถูกที่สุด ลูกค้าก็จะไปหาโรงฟอกนั้น ใช้วัตถุดิบหนังวัวไทย 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแผลหรือตำหนิบนตัววัวจะถูกกลบไปหมด
ต่อมาโรงฟอกหนังในประเทศอิตาลีได้พัฒนาหนังชนิดใหม่ที่เรียกว่า “หนังออยล์” หรือหนังน้ำมัน ซึ่งกลายเป็นที่นิยมและมีราคาสูง โรงฟอกที่ผลิตหนังชนิดนี้ได้มีเพียงไม่กี่แห่งในโลก ทางลูกค้าที่เป็นผู้ค้าปลีก จำหน่ายหนังจากทั่วโลก เห็นโอกาส จึงอยากให้คงศิริแทนเนอรี่ที่เป็นคู่ค้ากันมายาวนาน มีความเชื่อใจกัน ให้ช่วยพัฒนาหนังชนิดนี้ ลักขณาจึงเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อศึกษาลักษณะของหนังที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงปรึกษาผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ กลับมาเริ่มต้นพัฒนาหนังตัวอย่างขึ้น
ค้นพบแนวทาง สร้างคาแรกเตอร์
ในการผลิตหนังออยล์ที่เน้นความเป็นธรรมชาติ หากวัวมีรอยแผลเป็น ก็จะทำให้เห็นแผลชัดขึ้น ดังนั้นการคัดเลือกวัตถุดิบจึงต้องคัดเลือกหนังที่มีคุณภาพสูง ต้องเฉพาะเจาะจงว่านำเข้าจากแหล่งไหน ระบุสายพันธุ์วัว ภูมิประเทศ วิธีการเลี้ยง อาหาร สภาพอากาศ เพราะปัจจัยทุกอย่างมีผลกับคุณภาพของหนัง ผิวจะละเอียดหรือไม่ มีรอยขีดข่วน รอยแผลเป็นจากแมลงหรือไม่ วัตถุดิบที่ใช้จึงเป็นหนังดิบนำเข้า 100 เปอร์เซ็นต์ โดยหลักๆ มาจากประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา บางฤดูก็นำเข้ามาจากออสเตรเลีย
“เราเริ่มมีฝ่าย R&D พัฒนาตัวอย่าง ส่งให้ลูกค้า เมื่อทางลูกค้าบอกว่าต้องทำอย่างไร ก็กลับมาพัฒนา ส่งไปอีก เราทดลองผลิตหนังออยล์มาประมาณสามปีโดยที่ยังไม่ได้ขาย ควบคู่ไปกับหนังทั่วไป เรามองว่าการทำหนังออยล์ ยากตอนที่พัฒนา แต่พอทำได้สำเร็จ หนังเราจะมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน ต่างจากเดิมที่หน้าตาเหมือนกันหมด ดูไม่ออกว่ามาจากโรงฟอกไหน และไม่มีคู่แข่ง เพราะโรงฟอกอื่นยังไม่ทำ เขาอาจจะไม่ถนัดหรือมีออเดอร์เยอะมากจนไม่มีเวลามาพัฒนาเรื่องนี้ จึงเป็นโอกาสของเรา”
ในประเทศไทยมีโรงงานฟอกหนังอยู่ร้อยกว่าแห่ง ส่วนใหญ่ผลิตหนังในกลุ่มกระเป๋า รองเท้า และเบาะรถยนต์ ส่วนโรงฟอกในกลุ่มหนังเฟอร์นิเจอร์มีเพียงไม่กี่แห่ง หลังจากคงศิริแทนเนอรี่พัฒนาหนังออยล์สำเร็จ เริ่มส่งออกให้ลูกค้าได้ ก็ค่อยๆ ลดการผลิตหนังแบบทั่วไป พร้อมกับหันมาลงทุนกับการพัฒนาหนังออยล์ให้มากขึ้น จนกระทั่งมีคาแรกเตอร์ชัดเจน เป็นที่รู้จักในฐานะที่พัฒนาหนังออยล์เป็นรายแรกๆ ในประเทศไทย และเป็นผู้นำในด้านหนังเฟอร์นิเจอร์พรีเมียม
ในอุตสาหกรรมฟอกหนัง มีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิตอยู่แล้ว แต่ต้องไม่ใช้เกินปริมาณที่กำหนดไว้ หรือไม่ก่อให้เกิดมลภาวะ ซึ่งคงศิริแทนเนอรี่ผ่านการรับรองระบบ ISO 9001 ก็ยังมีการตรวจรับรองจาก LWG (Leather Working Group) ในประเทศอังกฤษ ที่ให้ความสำคัญถึงการผลิตหนังที่มีความยั่งยืน ทั้งเรื่องสภาพแวดล้อม การใช้น้ำ การใช้พลังงาน การจัดสารเคมี เรื่องขยะ การบำบัดน้ำเสีย อากาศและเสียง รวมไปถึงเรื่องของคุณภาพชีวิตของพนักงาน และยืนยันว่าสินค้าที่ผลิต ไม่มีสารที่ก่อให้เกิดอันตราย เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพ เนื่องจากลูกค้าปลายทางเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม
ปั้นแบรนด์ TACTUS ขยายตลาดในประเทศ
แม้ว่าจะผลิตหนังส่งออกต่างประเทศมาหลายสิบปี ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทว่าการเปิดตลาดในประเทศก็ยังเป็นเรื่องใหม่ เริ่มต้นจากการออกงานสถาปนิก โดยเปิดเป็นบูทขนาดเล็ก เหมือนกับการทดลองตลาด ซึ่งในปีแรกยังไม่ได้รับความสนใจมากนัก จนกระทั่งในช่วงที่มีการระบาดของโควิด 19 การขนส่งระหว่างประเทศหยุดชะงัก กลุ่มผู้ประกอบการในประเทศนำเข้าวัตถุดิบหนังไม่ได้ ต้องหาโรงฟอกในประเทศที่ผลิตหนังใกล้เคียงกับที่ใช้อยู่ ทำให้ได้รับการติดต่อจากลูกค้า
“เราไม่ค่อยถนัดเรื่องการตลาดสักเท่าไหร่ ลูกค้าจะมาจากการบอกต่อมากกว่า อย่างคนที่เคยอยู่บริษัทออกแบบที่เป็นลูกค้าเรา พอย้ายไปอยู่บริษัทอื่นก็เอาชื่อเราไปด้วย บอกต่อกันในกลุ่มลูกค้าว่าถ้าอยากหาหนังออยล์ที่เป็นหนังออยล์แท้ๆ ก็ให้มาที่นี่ ช่วงแรกๆ เรารู้สึกว่าไม่ถนัดที่จะทำหนังแค่ 1-3 ตัว แต่เมื่อได้รับโทรศัพท์เกือบทุกวัน ก็เริ่มเห็นความต้องการ
“ผู้ประกอบการในประเทศนำเข้าวัตถุดิบไม่ได้ ส่วนลูกค้าหลักของเราอยู่ในต่างประเทศ เราก็ส่งออกไม่ได้ด้วยเช่นกัน ในสถานการณ์นี้ต่างคนต่างได้ประโยชน์ น่าจะลองให้โอกาสตัวเอง จึงหาเครื่องจักรที่ขนาดเล็กลง เปิดฐานลูกค้าอีกกลุ่ม ใช้ชื่อแบรนด์ TACTUS LEATHER ในส่วนขายปลีกหนัง โดยไม่มีขั้นต่ำ”
การออกงานสถาปนิกในปีต่อมา TACTUS LEATHER พร้อมลงทุนเปิดบูทที่ใหญ่ขึ้น และอยู่ในโซนหน้า ทำให้คนเห็นและรู้จักแบรนด์ได้มากขึ้น จากที่โฟกัสลูกค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์ และการออกแบบตกแต่งภายใน ก็พบว่าลูกค้าในกลุ่มกระเป๋ารองเท้าก็ให้ความสนใจเพราะชอบคาแรกเตอร์หนัง และต้องการนำไปใช้ โดยปรับใช้กับสินค้าของตัวเอง
“คนเริ่มรู้สึกว่าคนไทยสามารถทำหนังได้สวย บ้านเราก็ผลิตหนังที่มีคุณภาพ ไม่ต้องไปถึงเมืองนอกก็ได้ ฐานลูกค้าในประเทศเริ่มขยายขึ้น เปิดใจยอมรับหนังที่ผลิตในประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเขามองว่าหนังนำเข้าจากต่างประเทศต้องดีกว่า แต่หนังวัวที่ลูกค้าบางรายซื้อ ถูกส่งออกจากประเทศไทย แล้วก็ส่งกลับเข้ามาอีก”