TEXT : Nitta Su.
PHOTO : Tala Cocoa
หากใครผ่านไปยังตัวเมืองนครศรีธรรมราช คงพอคุ้นหน้าคุ้นตากับคาเฟ่รถกระบะเก่าสีฟ้า ตกแต่งด้วยดวงไฟสีส้ม มีเจดีย์พระมหาธาตุเป็นฉากหลัง ชื่อว่า “Tala Cocoa” ถูกแชร์อยู่บนสื่อโซเชียลหลายช่องทาง อาทิ TikTok, Facebook, IG บางคลิปคนแห่กดถูกใจกันเป็นล้าน จนกลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่เมืองคอน (นครศรีธรรมราช) ที่ใครผ่านมาต้องแวะชิมโกโก้แสนอร่อย เก็บภาพเป็นที่ระลึก
แต่รู้ไหมเบื้องหลังรถวินเทจน่ารักๆ นี้ กลับมีเรื่องราวน่าสนใจ ไม่แพ้วิว และบรรยากาศสวยๆ ที่หน้าร้านเลย เริ่มตั้งแต่เป็นร้านขายโกโก้แท้คุณภาพที่มีแหล่งผลิตเป็นของตัวเอง โดยเป็นสวนโกโก้ดั้งเดิมในยุคแรกๆ ของเมืองไทย สมัยยุค 30-40 ปีก่อน ที่คนส่วนใหญ่แทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมืองไทยก็ปลูกโกโก้ได้ นอกจากนี้ยังต่อยอดผลิตภัณฑ์จากโกโก้อีกหลากหลาย อาทิ โกโก้แมส, โกโก้นิบส์, บัตเตอร์, สบู่, ไอศกรีมโกโก้ ฯลฯ
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นมาจากความตั้งใจของ เจ-ฉลองรัฐ รัตนสมบัติ หนุ่มใต้ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้คลุกคลีวิ่งเล่นอยู่ในสวนโกโก้ตั้งแต่เด็กๆ กระทั่งเติบโตขึ้น ได้มองเห็นปัญหาสวนโกโก้ที่ถูกถางเพื่อเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นทดแทนกันมาก เช่น ยางพารา, ทุเรียน เพราะมองว่าทำเงินได้ดีกว่า กอปรกับสวนเดิมที่ยังเหลืออยู่ ก็เริ่มเจอปัญหาผลผลิตราคาตกต่ำ โรงงานปิดตัวบ้าง จึงเกิดแรงบันดาลใจอยากนำเมล็ดโกโก้มาทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มขึ้นมา
ภาพจำวัยเยาว์กับสวนโกโก้ 40 ปี
“ย้อนไปสมัย 40 กว่าปีก่อน จ.นครศรีธรรมราช ถือเป็นแหล่งปลูกโกโก้อันดับต้นๆ ของประเทศเลย อย่างสวนของลุงผมก็เริ่มปลูกตั้งแต่ปี 2524 คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรู้ว่าบ้านเรามีการปลูกโกโก้กันมานานแล้ว แต่สมัยก่อนจะขายเป็นวัตถุดิบเมล็ดโกโก้ตากแห้งป้อนให้กับโรงงาน ไม่ได้มีการนำมาแปรรูปเป็นสินค้าออกมา จึงทำให้ได้ค่าตอบแทนค่อนข้างน้อย จนเมื่อ 5 ปีก่อน โรงงานผลิตที่เคยรับซื้อได้ปิดตัวลง จึงเกิดความคิดว่าอยากนำผลผลิตเหล่านั้นมาทดลองแปรรูป โดยมองว่าถ้าจะทำให้ยั่งยืนได้ เราต้องทำผลิตภัณฑ์ ส่งตรงถึงมือผู้บริโภคให้ได้
“เราเริ่มทดลองโปรเซสเอง โดยรับโกโก้มาจากสวนของลูกพี่ลูกน้อง (สวนโกโก้ธวัชชัย ท่าศาลา) เป็นสวนเก่าแก่ปลูกมา 30 กว่าปีเหมือนกัน ปัจจุบันผลผลิตกว่า 70% ในไร่จะถูกส่งมาให้เราเกือบทั้งหมด เราเริ่มทดลองผลิตจากโกโก้แมส (CoCoa Mass) - ผงช็อกโกแลตที่ได้จากเมล็ดโกโก้ 100% ไม่ปรุงแต่งใดๆ ตามมาด้วย, โกโก้นิบส์ (Cocoa Nibs) - เนื้อเมล็ดโกโก้ที่คั่วและกะเทาะออกมา ทดลองขายครั้งแรกในงานกาแฟ ผลตอบรับดี เลยเอาไปเสนอขายตามร้านกาแฟต่างๆ ให้ทดลองใช้ ผลปรากฏว่าไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไหร่ เพราะเป็นของใหม่ ถ้าจะใช้ก็ต้องทดสอบสูตรกันใหม่ ทำให้ยุ่งยากกว่า
“แต่เรารู้ว่าของเราดี มีประโยชน์ เป็นโกโก้แท้ ไม่ได้ผสมอะไร เลยคุยกันในครอบครัวว่า ถ้างั้นลองเปิดเป็นร้านเล็กๆ ทำตลาดกันเองไหม เพื่อรับฟังฟีดแบ็กจากลูกค้า และจะได้สื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจด้วยว่า โกโก้แท้เป็นยังไง จริงๆ ช่วงนั้นก็เริ่มมีช็อกโกแลตคราฟต์ทำออกมาก่อนอยู่แล้ว 2-3 เจ้า แต่ผมมองว่าถ้าทำเป็นช็อกโกแลตบาร์ ขายเป็นแท่งๆ ผู้บริโภคคนไทยยังเข้าถึงยาก แต่ถ้าเป็นเครื่องดื่ม ความถี่ในการซื้อมากกว่า เราเลยฉีกมาทางนี้” เจ เล่าความตั้งใจให้ฟัง
ปลุกชีพ ‘ลุงฟ้า’ รถสองแถวเก่าเมืองคอน สร้างภาพจำโลกโซเชียล
จากความตั้งใจอยากให้คนไทยได้รู้จักรสชาติของโกโก้แท้ คาเฟ่โกโก้ของเจ ถูกเช็ตขึ้นมาด้วยคอนเซปต์แบบเรียบง่าย โดยนำรถสองแถวเก่าที่เคยวิ่งรับ-ส่งผู้คนในเมืองนครฯ อายุ 50 กว่าปี ตั้งชื่อว่า “ลุงฟ้า” มาดัดแปลงเป็นบาร์ชงโกโก้ เพื่อสร้างกิมมิกและจุดเด่นให้กับร้าน โดยตั้งอยู่ริมถนนด้านหน้าเจดีย์พระมหาธาตุให้ผู้คนได้มานั่งพักผ่อน ดื่มโกโก้ไปด้วย ชมวิวไปด้วย โดยชื่อ “Tala Cocoa” มาจากชื่อเรียกอำเภอท่าศาลา แหล่งปลูกโกโก้ของร้าน (ภาษาใต้ออกเสียงว่า ท่าหลา)
“เราเน้นขายช่วงเย็นๆ เพื่อให้คนมานั่งกินหลังเลิกงาน เพราะโกโก้เป็นเครื่องดื่มที่สามารถกินตอนกลางคืนได้ ช่วยให้นอนหลับได้สบาย จะได้นั่งชมวิวเจดีย์พระมหาธาตุไปด้วย โดยดัดแปลงรถกระบะเก่าอายุกว่า 59 ปี ยี่ห้อมาสด้า ที่เคยถูกใช้เป็นสองแถววิ่งอยู่ในตัวเมือง มาดัดแปลงทำเป็นบาร์ชงโกโก้ พอลูกค้าเห็นก็ชอบกัน มาถ่ายรูปถือแก้วร้านเรา ข้างหลังเป็นเจดีย์พระมหาธาตุ ทำให้ได้ประชาสัมพันธ์ร้าน ประชาสัมพันธ์พระธาตุ และจังหวัดไปด้วย
"จากวันแรกเรามีเก้าอี้แค่ 8 ตัว โต๊ะ 2-3 ตัว ผ่านมาสองปี จนตอนนี้ขยายมีเก้าอี้เกือบ 60 ตัวแล้ว ได้รับผลตอบรับที่ดี เป็นการบอกต่อปากต่อปาก เราไม่เคยจ่ายค่าโฆษณาเลย แต่พยายามจัดร้านให้ดูดี สวย มีไฟให้ลูกค้าถ่ายรูป ที่เหลือลูกค้าเขาไปถ่ายลงโซเชียลเอง ช่วยเขียนรีวิวให้ ทำให้ร้านเราเป็นที่รู้จักเยอะขึ้น วันธรรมดาส่วนใหญ่เป็นลูกค้าในพื้นที่ วันหยุดถึงจะเป็นนักท่องเที่ยว”
ต้นตำรับยังยอมรับ
เจ อธิบายความต่างระหว่างโกโก้ของเขา กับผงโกโก้ทั่วไปที่มีในท้องตลาดว่า
“โกโก้ส่วนใหญ่ที่เราชงกินกันทั่วไป จริงๆ แล้ว คือ ผงโกโก้ที่ถูกสกัดบัตเตอร์ (Cocoa Butter) หรือไขมันโกโก้ออกไปก่อนแล้ว ทำให้ไม่ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์จากโกโก้ เหมือนกากมะพร้าวที่เขาคั้นเอาน้ำกะทิออกไปเกือบหมดแล้ว อีกอย่างไม่ค่อยมีใครกล้าใช้โกโก้ 100% แบบเรา เพราะทำยาก ทำออกมาไม่ดี คือ กินไม่ได้ คนส่วนใหญ่จะติดว่าโกโก้ต้องขมๆ หวานนิดหน่อย แต่โกโก้แท้จะมีความมัน และเปรี้ยวนิดหน่อย คนไม่ชินซื้อไปแรกๆ ก็ขับรถกลับมาถามเลยว่า เสียหรือเปล่า” เจ เล่าประสบการณ์ช่วงแรกๆ ให้ฟัง
เมนูเครื่องดื่มส่วนใหญ่ของร้าน Tala Cocoa จะเน้นโกโก้เป็นหลัก มีทั้งโกโก้ร้อน, โกโก้เย็น, กาแฟผสมโกโก้, ชาไทยโกโก้ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์อื่น เช่น ไอศกรีมโกโก้, เค้กโกโก้ ฯลฯ
“เครื่องดื่มของเราจะมีให้ลูกค้าเลือกแค่ หวานน้อย กับ ไม่หวานเลย โดยเฉพาะโกโก้ร้อน เราไม่ผสมอะไรเลย ผมจะบอกลูกค้าเสมอว่า นี่คือ สิ่งที่ดีที่สุดที่เราจะเสิร์ฟให้กับเขา คือ โกโก้ร้อยเปอร์เซ็นต์กับนมสดแค่นั้นเลย แต่ถ้ากินไม่ได้ เดี๋ยวมีน้ำตาลให้นะ เพราะเราอยากให้ลูกค้าได้สิ่งดีๆ มีลูกค้าต่างชาติหลายคนมากิน มาจากสวิตเซอร์แลนด์, อิตาลี อังกฤษ อเมริกา ก็ถามเขาว่าเป็นยังไงบ้าง เทียบได้กับโกโก้บ้านคุณไหม เขาก็บอกว่าดีมาก อร่อยมาก แทบไม่ต่างจากของบ้านเขาเลย ส่วนลูกค้าคนไทยหลายคนบอกว่า ถ้ากินโกโก้ที่นี่ จะไปกินโกโก้ที่อื่นไม่ได้เลย” เจ เล่าอย่างภูมิใจ