Pacha Mail ไอเดียสุดฮีลใจของนักศึกษา ที่เปิดรับสมัครเขียนจดหมายถึงคนแปลกหน้า

Text : Ratchanee P.


     ในวันที่โลกหมุนเร็วและผู้คนเร่งรีบกับการตอบข้อความผ่านหน้าจอ การส่ง “จดหมาย” อาจดูเป็นสิ่งล้าสมัยไปแล้วสำหรับใครหลายคน แต่ก็ยังมีใครบางคนที่เชื่อว่า เสน่ห์ของตัวหนังสือที่เขียนด้วยมือลงบนกระดาษนั้นยังไม่เคยจางหาย มันคือการสื่อสารที่ไม่เร่งรัด ต้องใช้เวลา ต้องรอ และนั่นแหละคือความงดงามบางอย่างที่การแชตอาจให้ไม่ได้

     Pacha Mail คือหนึ่งในโปรเจกต์เล็กๆ ของ ใบไผ่-ฉลองรัตน์ รัตนฟองแก้ว นักศึกษาปี 3 จาก Harbour.Space University ที่พยายามหยิบเอาความรู้สึกนั้นกลับมาเล่าใหม่ ผ่านบทกลอนที่ส่งถึงผู้รับทีละฉบับ พร้อมซองสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยหวังเพียงว่า จดหมายเหล่านี้จะช่วยส่งต่อพลังบวกและทำให้ผู้ที่ได้รับจดหมายนั้นได้หยุดนิ่งอยู่กับตัวเองอีกครั้ง 

Pacha Mail จดหมายบทกลอนที่อยากชวนให้โลกหมุนช้าลง

     จุดเริ่มต้นของ Pacha Mail เกิดจากความทรงจำวัยเด็ก เมื่อครั้งที่ใบไผ่เคยเขียนจดหมายหากันกับเพื่อนทั้งห้องเรียนตอนปิดเทอม ความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้รับจดหมาย และความตั้งใจเวลาค่อยๆ เขียนตอบ ทำให้เธอผูกพันกับการสื่อสารที่ต้องใช้เวลารออย่างจดหมายมาตั้งแต่เด็ก แม้โตขึ้นจะหันมาใช้แชตและอีเมลเหมือนคนทั่วไป แต่เธอก็ยังส่งโปสการ์ดให้เพื่อนและส่งกลับมาให้ตัวเอง หรือครอบครัวอยู่เสมอ เมื่อเดินทางไปต่างประเทศ

     “เรารู้สึกว่าทุกวันนี้เราส่งข้อความหากันเยอะมาก แต่มันไม่ได้อยู่ตลอดไป เดี๋ยวก็หายไป จนไม่รู้สึกว่ามีความสำคัญ แต่ถ้าเป็นจดหมายจะรู้สึกว่าเป็นการสื่อสารที่พิเศษ เราได้หยิบจับ ได้เก็บไว้ได้ แล้วกลับมาอ่านซ้ำได้อีกครั้ง การส่งจดหมายทำให้เราต้องรอ ไม่รู้ว่าอะไรอยู่ข้างใน สิ่งนี้รู้สึกว่ามันเป็นเสน่ห์ของจดหมาย ซึ่งในยุคที่ทุกคนเคร่งเครียดในการใช้ชีวิต เลยอยากจะทำอะไรที่ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าช้าลง อยู่นิ่งๆ บ้าง และเป็นโมเมนต์ที่เหมือนกับว่าได้อยู่กับตัวเอง”

     นี่จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอเริ่มต้น Pacha Mail บน Instagram โดยโพสต์เปิดรับสมาชิกจดหมายกลอน (Poem Letter) รายเดือน ด้วยความตั้งใจว่า อยากส่งความรู้สึกดีๆ ให้ใครสักคนได้อ่านในวันธรรมดาๆ เท่านั้นเอง

     แต่ผลลัพธ์กลับเกินคาด โดยในเดือนแรกมีผู้สมัครกว่า 30 คน ทั้งคนไทยในประเทศและคนไทยในต่างแดนจากสิ่งเล็กๆ ที่ตั้งใจนั้น จึงกลับกลายเป็นโปรเจกต์ที่ยังดำเนินมาอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน 

จดหมายที่ไม่ได้เขียนแค่เพื่อส่ง

     Pacha Mail เริ่มต้นอย่างเงียบๆ ในเดือนตุลาคมของปีที่ผ่านมา เธอไม่ได้วางแผนธุรกิจ ไม่ได้มีทีมงาน ไม่มีเป้าหมายรายได้ มีเพียงความตั้งใจที่อยากส่งต่อความรู้สึกดีๆ และกลอนหนึ่งบทที่เธอแต่งเองทุกเดือน จนปัจจุบันเธอส่งจดหมายไปแล้วหลายร้อยฉบับ โดยมีการเปิดรับสมัครสมาชิก 3 รูปแบบ คือ ราย 3 เดือน ค่าสมาชิก 371 บาท, 6 เดือน ค่าสมาชิก 737 บาท และ 12 เดือน ค่าสมาชิก 1,474 บาท โดยจะส่งจดหมายเดือนละ 1 ฉบับ

     จดหมายฉบับเล็กๆ ที่เดินทางไปเดือนละหนึ่งฉบับ กลับสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนในแบบที่คาดไม่ถึง ในแต่ละเดือน Pacha Mail จะมีธีมของตัวเอง เช่น เดือนธันวาคมจะว่าด้วยการ "รีเซ็ต" และเริ่มต้นใหม่ ในจดหมายจะมีข้อความให้กำลังใจตามธีมนั้น พร้อมการ์ดกลอนที่ใบไผ่เขียนเองทั้งหมด

     “เขียนเป็นภาษาอังกฤษ เพราะอยากให้เข้าถึงคนให้ได้มากที่สุด แล้วก็มีคนอยู่ต่างประเทศสมัครด้วย คนไทยที่อยู่สวีเดน สโลวาเกีย และอีกหลายๆ ประเทศ แต่ดีใจทุกครั้งที่เขาได้รับแล้วบอกว่ารอจดหมายของเราเหมือนรออะไรบางอย่างที่มีความหมายจริงๆ”

     นอกจากนี้ ยังมีแบบ “Customize Letter” สำหรับใครที่อยากให้เป็นของขวัญเฉพาะกิจ เช่น ส่งให้แฟนในวันสำคัญ หรือส่งถึงใครบางคนเพื่อแทนคำที่พูดออกไปไม่ได้

     แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ทุกฉบับจะส่งแค่เดือนละครั้งเท่านั้น เพราะความงามของจดหมายสำหรับใบไผ่ คือ “การรอ”

     “เรารู้สึกว่าถ้าส่งบ่อยเกินไป จะไม่ใช่แล้ว เพราะเสน่ห์ของจดหมายคือการรอ ความรู้สึกว่าไม่รู้ว่าจดหมายจะมาวันไหน อยากให้คนรู้สึกถึงอะไรบางอย่างตอนเปิดซอง”

     ซองของ Pacha Mail เป็นสีแดงเสมอ เป็นเฉดแดงที่ใบไผ่เลือกด้วยตัวเองตั้งแต่แรก สิ่งที่เธอให้ความสำคัญไม่ใช่เพียงบทกลอนที่สละสลวย แต่คือความรู้สึกที่แฝงอยู่ในทุกถ้อยคำ บางคนที่สมัครรายปีจะได้รับจดหมายพิเศษในวันเกิด พร้อมซองเฉดแดงเข้มขึ้นเล็กน้อย เพื่อทำให้วันพิเศษของใครคนนั้นอบอุ่นยิ่งขึ้น

    “เรารู้สึกว่าคนที่ชอบจดหมายมีอยู่เยอะเลย แต่หลายคนไม่มีใครเขียนให้ ไม่มี community ที่จะแลกเปลี่ยนกันได้ เราเองในวันที่โตแยกย้ายกันไปหมดแล้วเลยรู้สึกดีมากที่ได้สร้างพื้นที่นี้ขึ้นมา แล้วก็ยิ่งมีความหมายขึ้นไปอีกเมื่อมีคนบอกว่าจดหมายของเราทำให้เขารู้สึกดี เหมือนมีใครอยู่ข้างๆ แล้วเขาก็รอจดหมายในเดือนถัดไปด้วย”

     คำพูดนี้อาจจะไม่ใช่จุดเปลี่ยนทางธุรกิจ แต่คือคำยืนยันว่าในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ยังมีจดหมายหนึ่งฉบับ ที่เดินทางช้าๆ เพื่อฮีลใจใครหลายคน

ไอเดียไม่ได้จบแค่กลอนในซองแดง

     Pacha Mail ไม่ได้ตั้งต้นจากเป้าหมายทางธุรกิจ แต่เริ่มจากความชอบและความรู้สึกว่า “นี่แหละคือตัวเรา” สิ่งที่ใบไผ่ไม่คาดคิดคือ การที่ผู้รับจดหมายหลายคนเริ่มเขียนจดหมายตอบกลับ บางคนเล่าชีวิตผ่านตัวอักษรให้เธอฟัง กลายเป็นวงจรความรู้สึกที่หมุนเวียนกลับไปกลับมา เธอจึงต่อยอดเป็น “Pacha mail Club” ที่เปิดโอกาสให้สมาชิกเขียนจดหมายในธีมเดียวกัน และส่งกลับมาให้เธอคัดเลือกไปเล่าต่อในคลิป

     “วันหนึ่งมีลูกค้าคนหนึ่งถามเราว่า เขาสามารถเขียนจดหมายกลับมาได้ไหม เราเซอร์ไพรส์มากเลย เพราะไม่เคยนึกเลยว่าเขาจะอยากตอบกลับมาหาเรา พอเขาเริ่มเขียนมา คนอื่นๆ ก็เขียนตามมาด้วยหลายคนเลย”

     นี่จึงกลายเป็นจุดเริ่มของการขยายต่อไปยังไอเดียอื่นๆ ที่ยังคงแนวคิดเดิมไว้ “Romanticize Your Normal Life  ความโรแมนติกในชีวิตธรรมดา”

ก้าวต่อไปของ Pacha Mail

     แม้ Pacha Mail จะยังไม่ใช่ธุรกิจเต็มตัว แต่ใบไผ่ก็มองเห็นศักยภาพในการต่อยอด โดยเฉพาะในวันที่ใกล้จะเรียนจบ และตั้งใจจะใช้เวลา 1 ปีเต็มกับโปรเจกต์นี้ เพื่อดูว่ามันจะพาเธอไปได้ไกลแค่ไหน ความรู้จากการเรียน Business ทำให้เธอสามารถวางโครงสร้าง ต้นทุน และการจัดการได้ดีขึ้น แม้จดหมายจะยังเป็นงานฝีมือ แต่ทุกขั้นตอนถูกจัดการอย่างมีระบบ เพื่อรองรับจำนวนผู้สมัครที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

     “ตอนเริ่มไม่ได้คิดเลยว่าจะเป็นธุรกิจ ไม่ได้เริ่มต้นจากการมองเรื่องของรายได้ แต่ทำเพราะรู้สึกว่าชอบ รู้สึกสนุก ทำคนเดียวทุกอย่าง เหนื่อยแต่เราคิดถึงมันตลอดเวลาว่าเราจะทำอะไรให้ดีขึ้นได้อีก”

     ทุกวันนี้เธอยังสนุกและมีพลังใจในการตื่นมาทำมันทุกวัน เธอเชื่อว่าสิ่งสำคัญในการสร้างธุรกิจใหม่ ไม่ใช่แค่ความแตกต่าง แต่คือความจริงใจและความต่อเนื่อง “ถ้าเรายังมีไอเดียของตัวเอง ก็ไม่มีใครเป็นเราได้อยู่ดี” และถึงจะมีคนทำคล้ายกัน เธอก็ยังเชื่อว่า "เรายังเล่าเรื่องของเราได้เสมอ"

     “เราหวังว่าในอนาคต Pacha Mail อาจจะกลายเป็นธุรกิจเต็มตัวได้ แต่ตอนนี้แค่คิดว่าอยากให้เวลากับมันดูก่อน เพราะนี่คือสิ่งที่เราอินที่สุด”

     แม้ Pacha Mail จะเป็นเพียงโปรเจกต์ของนักศึกษาคนหนึ่ง แต่มันอาจกำลังเดินทางไปไกลกว่าที่คาดคิด และเธอก็เลือกจะไม่เร่งรีบ แค่ขอค่อยๆ เขียน จ่าหน้าซอง และส่งจดหมายไปสร้างพลังใจในแบบของเธอเอง

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

แพงเกินเอื้อม เลยต้องทำเอง! Sonogo Design แบรนด์โคมไฟ ของนักศึกษาวัย 20 ปีที่เรียนรู้ด้วยเองจากยูทูป

เคยไหมที่เจอของแต่งบ้านสวยๆ แต่ต้องวางกลับลงไปเพราะราคาสูงเกินไป?  โจวี ลิม นักศึกษาวัย 20 ปี เป็นหนึ่งในนั้น เขาจึงตัดสินใจลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์ 3 มิติ และเริ่มต้นออกแบบโคมไฟเองจากห้องนอน จนกลายเป็นแบรนด์โคมไฟ Sonogo Design

สูตรลับคืนทุนใน 150 วัน “มีเดียมนมสด” จากร้านนมเล็กๆ ในอุบลฯ สู่แบรนด์ดาวรุ่งแห่งภาคอีสาน

ไม่มีหน้าร้านในห้าง ไม่มีแคมเปญเปรี้ยงๆ มีแค่ความตั้งใจ นี่คือเรื่องจริงของ “มีเดียมนมสด” ร้านเล็กๆ จากจังหวัดอุบลฯ เบื้องหลังเส้นทางที่ไม่ง่าย แต่น่าจดจำนี้เป็นอย่างไรไปฟังจาก ขจีนิจ วิตตะ ผู้ก่อตั้งร้าน มีเดียมนมสด

Pet Project เปลี่ยน Waste ให้เป็นขนมสัตว์เลี้ยงแสนรัก ไอเดียเพิ่มมูลค่าของสาวนักการตลาด

เพราะรักสัตว์เหมือนลูก “หยง–จิณห์นิภา พลธนะวสิทธิ์” จึงใส่ใจเลือกอาหารให้เสมอ เมื่อมีโอกาสเริ่มธุรกิจเธอจึงสร้างแบรนด์ Pet Project ขนมสัตว์เลี้ยงจากเศษวัตถุดิบธรรมชาติในโรงเชือด โดยปัจจุบันมียอดขายหลักพันชิ้น ใช้วัตถุดิบกว่า 300-400 กก.ต่อเดือน