ari.modular แหวนรักษ์โลกถอดประกอบได้ สไตล์ Future Craft สีสดโดนใจ ดีไซน์ในแบบที่ “ใช่” คุณ

Text: VaViz

Photo: ari.modular


     เอ๊ะ! นี่มันยางลบ? หรือขนม? คำถามที่หลายคนสงสัยเวลาที่เดินผ่านไปผ่านมา แล้วเห็นเจ้าสิ่งนี้ ที่มีลักษณะเป็นวงๆ สีสันฉูดฉาดสดใส ที่ดูๆ ไปก็คล้ายเครื่องประดับสักอย่างอยู่เบื้องหน้า ซึ่ง อัมพิกา ชาญวิริยะวุฒิ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ari.modular ก็มาเฉลยให้รู้ว่า นี่คือ แหวนสไตล์ Modular หรือแหวนที่ถอดประกอบได้ อยากมีตัวเรือน คอแหวน หรือหัวแหวนเป็นแบบไหนก็สามารถดีไซน์ได้ด้วยตัวเอง  

     “โอ๊ะ! นี่มันแหวนเลโก้ คำๆ นี้ช่วยให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายขึ้น

     นอกเหนือจากที่เราต้องบอกเล่าสตอรี่ เพื่อสื่อสารให้คน Get ในสินค้าของเรามากขึ้น”

น่ารักที่รักษ์โลก...แหวน 1 วงใส่วนกันไป  

“แหวน 1 วง ไม่จำเป็นต้องเป็นแหวนวงเดียวตลอดไป

เพราะสามารถ Mix & Match ส่วนประกอบต่างๆ ได้

ซึ่งจะช่วยชะลอวงจร Fast Fashion ให้ช้าลง”

     จากความชอบทดลองทำตุ๊กตาจากเครื่อง 3D Printing เป็นทุนเดิม บวกกับไอเดียตั้งต้นที่อยากทำหัวแหวนแต่งงานที่มีหลาย Option ให้เลือก ไม่ว่าจะตอบ Yes, No, Maybe หรือ Later ผสมผสานกลายเป็นที่มาของการทำแหวนโมดูลาร์แบบพิมพ์ 3 มิติ ที่ใช้ฟิลาเมนต์พลาสติกเป็นวัสดุ ซึ่งมีความทนทานและสามารถย่อยสลายได้ขึ้นมา    

     “เรามีแรงบันดาลใจที่อยากปลูกฝัง Mindset ให้เด็กๆ รู้สึกว่า แฟชั่นเป็นเรื่องที่เราไม่จำเป็นต้องไปเร่งซื้อ เร่งใช้ จึงดีไซน์เป็นแหวนในรูปแบบของโมดูลาร์ ที่แยกส่วนและนำมาประกอบได้ ซึ่งแค่แหวนสีพื้น 3 สีก็สามารถต่อสลับกันได้กว่า 30 แบบแล้ว”

     นอกจากนี้ อดีตผู้บริหารสาย HR Corporate ที่ผันตัวมาสร้างแบรนด์ผู้นี้ ยังเสริมอีกว่า มีความต้องการที่จะดีไซน์โปรดักต์ในคอนเซปต์ที่เรียกว่า “Braintiful” ซึ่งมาจากคำว่า Beautiful + Brain เพื่อส่งเสริมจินตนาการของเด็กๆ ที่สวมใส่แหวนอีกด้วย   

สดใสเสียจน...รุ่นใหญ่ก็ทนไม่ไหว

“เราอยากเรียกตัวเองว่าเป็น Playful Accessory

หรือเครื่องประดับที่สร้างรอยยิ้ม

ที่ต่อให้ยังไม่ได้สวมใส่ ก็รู้สึกได้ถึงความสนุกและสดใสแล้ว”

     แม้กลุ่มเป้าหมายแรกของแบรนด์จะเป็นเด็กๆ อายุ 7 ขวบขึ้นไป แต่ด้วยความสดใส แปลกใหม่ และสามารถต่อส่วนประกอบในสไตล์ที่แสดงความเป็นตัวเองได้ ทำให้แหวนโมดูลาร์จับใจคนรุ่นใหญ่ ตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน ยาวไปยังวัยเก๋าหลังเกษียณ

     “เดิมทีเราคิดว่า ลูกค้าจะมีแค่เด็กๆ แต่ไม่ใช่เลย มีหลากหลายกลุ่มมาก โดยเฉพาะผู้ใหญ่กลุ่ม Kidult (Kid + Adult) หรือผู้ใหญ่ที่ยังคงสนุกกับของเล่นของสะสม ชื่นชอบอาร์ตทอย ซึ่งชอบความสดใสและความสนุกสนานที่ได้ต่อตัวแหวนของเรา รวมไปถึงผู้ชายที่ชอบแต่งตัวและมีสไตล์เป็นของตัวเอง โดยเราเริ่มมีการเพิ่มสีและหัวแหวนที่เป็น Genderless มากขึ้น เช่น ตัวอักษรต่างๆ หลังจากที่ช่วงแรกมักเป็นพวกรูปหัวใจหรือดอกไม้น่ารักๆ”

Future Craft…บอกสไตล์ บอกตัวตน

“Modular เอื้อให้คนสามารถ Personalised สินค้าหรือบริการ

และ Express ความเป็นตัวตนของตัวเองออกมาได้”  

     ราวขวบปีที่ ari.modular ถือกำเนิดขึ้นมา ซึ่งมีความแตกต่างและโดดเด่นที่เจ้าของแบรนด์บอกว่าคือ การเป็น “Future Craft” หรือความหลากหลายของสีสันที่ใช้ การใช้วัสดุใหม่อย่างฟิลาเมนต์พลาสติก และมีการดีไซน์ที่ไม่จำเจ

     “บางทีเวลาเราพูดถึงจิวเวลรี่หรือเครื่องประดับ เรามักจะคิดในโจทย์ที่เป็นโลหะแบบเดิมๆ เช่น เงิน ทอง ทองแดง เพชร หรือพลอย ซึ่งเราอยากลองทดลอง Material ใหม่ๆ และใช้สีสันที่มันแปลกตา หรือเวลา Print แต่ละครั้ง Texture บางอย่างหรือว่าสีบางสี บางครั้งมันก็ไม่เหมือนกันทุกครั้ง แต่ก็เป็นเสน่ห์อีกแบบหนึ่งเช่นกัน เราเลยเรียกมันว่า Future Craft”  

     และยิ่งเลือกสี เลือกลาย ประกอบเป็นแหวนที่มีวงเดียวไม่เหมือนใครในโลกได้ ยิ่งตอกย้ำความเป็นงานคราฟต์แห่งอนาคตได้เป็นอย่างดี

     “ทุกวันนี้คนชอบอะไรที่ Personalised ได้ เพื่อแสดงความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองออกมา และโมดูลาร์ก็เป็นสิ่งที่เอื้อให้คนสามารถทำสิ่งนี้ได้ ทั้งยังช่วยดึงความคิดสร้างสรรค์ออกมาด้วย แม้ว่าเราจะมีทรงแหวนเหมือนกัน แต่เวลาที่แต่ละคนดีไซน์ออกมา แค่สีต่างกัน แหวนก็ต่างกันแล้ว แถมอารมณ์และความรู้สึกที่ได้ก็ไม่เหมือนกันด้วย”

     นอกจากเรื่องของสีสันแล้ว ทางแบรนด์ยังเพิ่มหัวแหวนที่เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกอารมณ์ในแต่ละวันหรือคาแรกเตอร์ของคนสวมใส่ด้วย เช่น เมฆยิ้ม เมฆง่วงนอน แมวหน้าบึ้ง หรือแมวแลบลิ้น เพิ่มจากคอลเล็กชั่นก่อนหน้าที่เกี่ยวกับความรักที่สดใส การหวนกลับไปถึงยุคอนาล็อก และวัฒนธรรมไทย เช่น ขนมไทย ลายไทย รวมถึงวัฒนธรรมจีน เช่น ขนมกุยช่ายสีชมพู หรือก้อนเงินก้อนทอง เป็นต้น

ไม่ใช่แค่สวมใส่...แต่ทำให้เกิดความผูกพัน

“ขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการหรือดีไซเนอร์ใส่ใจหรืออยากไปไกลแค่ไหน

แต่สำหรับเรา เรารู้สึกว่ามันสามารถสร้างความผูกพันได้

แล้วเราก็สามารถเป็นตัวกลางให้ได้”

     จากการได้เห็นเด็กตัวน้อยอายุราว 2 – 3 ขวบ ที่เล็กเกินกว่าจะใส่แหวนได้ ทำการออกแบบและประกอบแหวนให้คุณป้าไว้ใส่ติดตัว และคุณยายที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ที่เอาแหวนมาต่อเพื่อฝึกสมอง แล้วมอบให้หลานไปใส่ กลายเป็นโจทย์ให้ อัมพิกา กลับมาบอกตัวเองว่า Mission ของเธอนั้น ไม่ใช่การสร้าง Accessory ที่คนเห็นแล้วยิ้ม เพราะน่ารัก แต่กลายเป็นสร้างความผูกพันระหว่างคนในครอบครัวหรือผู้ที่อยู่รอบข้าง

     “พอได้เห็นแบบนี้เลยทำให้เรามีกรอบการทำงานที่กว้างขึ้น และเป็นหมุดหมายในอนาคตที่เรารู้สึกว่า ต้องการที่จะจับเรื่องความผูกพันนี้เป็นแกนในการทำเครื่องประดับ ที่เชื่อมคนในครอบครัวเข้าด้วยกัน เชื่อมคนให้เข้ามาใกล้ชิดกันในทุก Generation นี่คือสิ่งที่รู้สึกว่าเป็น Passion ที่อยากทำ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราต่างจากเจ้าอื่นๆ นั้นเป็นเพราะว่า ลูกค้าสามารถดีไซน์แหวนให้กับคนที่เขารักได้อย่างไม่ยุ่งยากและไม่ซับซ้อนจนเกินไปนั่นเอง”

     ไม่เพียงเท่านี้ การแยกส่วนประกอบได้ยังช่วยสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้อีกด้วย นั่นเพราะทำให้แบรนด์มีความต่อเนื่องกับลูกค้า ซึ่งพอมีคอลเล็กชั่นใหม่ๆ ออกมา ลูกค้าก็อยากจะได้หัวแหวนดีไซน์อื่นๆ ทำให้มีความผูกพันกันไปเรื่อยๆ รวมถึงยังช่วยเพิ่มการขายแบบ Cross-selling ให้แบรนด์ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องคะยั้นคะยอหรือยัดเยียดลูกค้าให้ซื้อ      

     และนี่คือ ari.modular ที่แม้จะเป็นน้องใหม่และมาด้วยโปรดักต์ที่เรียกว่าแทบไม่เคยเห็นในตลาด แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคให้แบรนด์ต้องหยุดชะงัก ตรงกันข้ามกลับออกไลน์โปรดักต์ที่จะช่วยทำให้คนรับรู้ถึงการมีอยู่ของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นการไป X กับเพจปันดวงทำเซ็ตแหวนมงคลเสริมดวง, มีบริการแหวนแบบ Customised สั่งทำให้ตัวเอง ให้คนที่รัก และคนที่เราเป็นแฟนด้อมพร้อมการ์ดที่เขียนแบบ Personalised Message, ออกหัวแหวนแบบ Canva ที่เป็นสีขาวทั้งหมดแล้วให้คนมาเพ้นท์ได้ตามต้องการ, ออกสร้อยคอแบบโมดูลาร์ และสร้างกิจกรรมให้เด็กๆ ได้เป็น Petite Designer ร่วมออกแบบหัวแหวนกับแบรนด์นั่นเอง....    

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี   
   

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

White Tiger จากความบังเอิญ สู่ “นมถั่วลายเสือ” เจ้าแรกของโลก

หันหลังให้เมืองกรุงมุ่งหน้าสู่ปาย “หยอง-ฐานันต์ แก้วดิษฐ์” อดีตทีมโปรดักส์ชัน เลิกจับคอมพิวเตอร์หันมาเอาดีด้านการเกษตร ปลูกถั่วลายเสือ “ด้วยไอเดียคุณช่วยปลูก เราช่วยแปร(รูป)”และนี่คือเส้นทางของนมจากพืชสัญชาติไทย

Pacha Mail ไอเดียสุดฮีลใจของนักศึกษา ที่เปิดรับสมัครเขียนจดหมายถึงคนแปลกหน้า

Pacha.mail คือโปรเจกต์เล็กๆ ของใบไผ่-ฉลองรัตน์ รัตนฟองแก้ว ที่เลือก "เขียนจดหมาย" ส่งกลอนที่แต่งเองให้คนเปลกหน้า แม้เธอไม่ได้ตั้งต้นทำเพื่อธุรกิจ เพียงแค่อยากส่งต่อพลังบวก แต่ใครจะไปคิดว่ามีคนที่อยากรับจดหมายและสมัครสมาชิกเพื่อรับจดหมายจากเธอทุกเดือน

แพงเกินเอื้อม เลยต้องทำเอง! Sonogo Design แบรนด์โคมไฟ ของนักศึกษาวัย 20 ปีที่เรียนรู้ด้วยเองจากยูทูป

เคยไหมที่เจอของแต่งบ้านสวยๆ แต่ต้องวางกลับลงไปเพราะราคาสูงเกินไป?  โจวี ลิม นักศึกษาวัย 20 ปี เป็นหนึ่งในนั้น เขาจึงตัดสินใจลงทุนซื้อเครื่องพิมพ์ 3 มิติ และเริ่มต้นออกแบบโคมไฟเองจากห้องนอน จนกลายเป็นแบรนด์โคมไฟ Sonogo Design