Text: VaViz
Photo: พาหุรัดดอทคอม / สุนันท์ ล้อสมทรัพย์
สงครามราคาของ “พาหุรัด” ตลาดผ้าที่ขึ้นชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดของไทยในเขตพระนครยังคงกลิ่นอายของการฟาดฟันกัน โดยไม่สนว่าคืนวันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เป็นเชื้อไฟที่จุดประกายให้ นวนพ วงศ์เสงี่ยม ทายาทรุ่นที่ 3 ของธุรกิจชุดไทยในพาหุรัด มองหาโอกาสขยับขยายเข้าสู่ตลาดใหม่ ด้วยการบุกเบิกเปิดเว็บไซต์พาหุรัดดอทคอม เพื่อจำหน่ายชุดไทยสำเร็จรูปในวันที่ใครๆ ยังไม่คุ้นเคยกับการใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือตะลุยโลกออนไลน์แบบในปัจจุบัน
“เดิมตลาดพาหุรัดเป็นตลาดที่แข่งขันด้านราคากันสูงมาก ทุกคนพยายามจะทำราคาให้ต่ำลงๆ จึงไปลดคุณภาพสินค้า แต่การที่เราเข้ามาจับตลาดออนไลน์ พร้อมรับฟังเสียงของลูกค้า จึงได้รู้ว่าลูกค้าไม่ได้เกี่ยงเรื่องราคา แต่อยากได้ชุดไทยที่ดีขึ้น ใส่สบายขึ้น และดีไซน์ไม่เชยต่างหาก เป็นจุดที่ทำให้เราสามารถเจาะกลุ่มตลาดได้ตั้งแต่ B, B+ จนถึง A ขึ้นไป”
ถ้ามองกันด้วยเลนส์ของโลกการค้าทุกวันนี้ การขายของบนอินเทอร์เน็ตนั้น คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่หากมองย้อนกลับไปในช่วงกว่าสองทศวรรษที่ผ่านมา ชายผู้เป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์แห่งนี้ถึงกับเอ่ยว่า “มันยากตั้งแต่เริ่มแรกเลยทีเดียว”
พ.ศ. 2547...ก้าวแรกที่ต้องเรียนรู้จาก “เพื่อนต่างแดน”
หากถามว่าขายชุดไทยออนไลน์ในสมัยนั้นยากยังไง? ให้ลองนึกภาพตลาดที่มีแค่เราไปนั่งขายเหงาๆ อยู่คนเดียว ซึ่งดูจะไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงไปนัก เมื่อ นวนพ เล่าว่า การเริ่มทำเว็บไซต์ในปีพ.ศ. 2547 ที่ยุคนั้นมีแค่เว็บบอร์ดและยังไม่มีโซเชียลมีเดียหรือเครื่องมืออื่นๆ ให้ใช้นั้นเป็นประสบการณ์ที่แสนท้าทาย
“จะขายชุดไทยออนไลน์ในตอนนั้นได้ เราต้องทดลองเปรียบเทียบและเรียนรู้จากเว็บไซต์ของแบรนด์ต่างประเทศว่า เขาขายเสื้อผ้าทางออนไลน์กันยังไง ซึ่งเราต้องเริ่มจากการใช้รูปที่ต้องชัดเจนที่สุด มีคำบรรยายสินค้า และมีการบอกขนาดไซส์ เพื่อประกอบการตัดสินใจให้ลูกค้าสามารถเลือกชุดได้อย่างถูกต้อง”
การชิมลางในวันนั้นได้พาพาหุรัดดอทคอมขึ้นแท่นเว็บไซต์ร้านจำหน่ายชุดไทยอันดับ 1 ในวันนี้ พร้อมมีสินค้าให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ ชุดไทยที่แบ่งตามยุคสมัย ร.4 ร.5 และ ร.7 ไปจนถึงชุดไทยประยุกต์ ชุดไทยสำหรับใส่ในพิธีการหรือเทศกาลต่างๆ และชุดยูนิฟอร์มสไตล์ไทยที่รับสั่งตัดให้หน่วยงาน โรงแรม และองค์กร
เพิ่มความโมเดิร์น...อัปเกรดให้ใส่สบาย มีสไตล์ในทุกวัน
ใครว่าชุดไทยใส่ได้แค่ในงานพิธีการ? คำถามที่ชวนให้ นวนพ ฉุกคิด จึงเพิ่มไลน์ชุดไทยแบบฟิวชั่น ที่หยิบเอาความทันสมัยมาผสานกับเอกลักษณ์ของความเป็นไทยและชุดไทยขึ้นมา โดยตั้งโจทย์ไว้ว่า ต้องใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน
“เรานำชุดไทยและผ้าไทยมาฟิวชั่นให้สามารถใส่ได้ในชีวิตประจำวัน เช่น เสื้อเชิ้ตราชปะแตน ที่นำเสื้อราชปะแตนแบบดั้งเดิมมาทำเป็นแพทเทิร์นเข้ารูป โดยใช้ผ้าเชิ้ตที่ให้ความบาง ซึ่งทำให้สามารถใส่เป็นเสื้อเชิ้ตไปทำงานหรือไปเที่ยวได้ ฉีกกรอบความเชื่อของคนทั่วไปที่ต้องมีงานพิธีเท่านั้นถึงจะใส่ได้”
ทั้งนี้ ผ้าที่ทางร้านใช้ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าสังเคราะห์ทอลายไทย ซึ่งจะได้ลุคของความเป็นไทย แต่ดูแลง่ายกว่าผ้าไทยปกติคือ สามารถซักเครื่องธรรมดาได้ แต่แค่อย่าปั่นแห้ง และซักมือธรรมดาได้ ไม่ต้องส่งซักแห้ง ต่างจากผ้าไหมที่ต้องส่งซักแห้ง หรือว่าถ้าเป็นผ้าไทยแท้ก็ต้องมีวิธีดูแลแบบพิเศษ
นอกจากนี้ ทางร้านยังมีการทำเสื้อยืดสกรีนลาย “กรองคอ” ซึ่งเป็นเครื่องประดับนาฏศิลป์ไทย มีรายละเอียดปักดิ้นทองและอัญมณีที่ประณีตเป็นเอกลักษณ์ และลาย “ปีกไทย” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากปีกของตัวละครในวรรณคดีไทยให้ลูกค้าสวมใส่ได้ง่ายทุกเพศทุกวัยอีกด้วย
“ไม่ใช่มีแค่สองลายที่ขายทางออนไลน์ เรายังมี “ลายวัดอรุณ” ที่ถือว่าเป็นลาย Limited Edition ซึ่งต้องไปหยอดที่ตู้จำหน่ายเสื้อยืดอัตโนมัติของเราที่ตั้งอยู่ที่วัดอรุณเท่านั้น โดยกลุ่มเป้าหมายจะเน้นไปที่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้ซื้อได้สะดวกขึ้น และเป็นลายที่โชว์ถึง Landmark ของไทยอย่างวัดอรุณได้เป็นอย่างดี”
การ X กันของความเป็นไทยแบบดั้งเดิมและตู้หยอดเหรียญแบบสมัยใหม่ ไม่เพียงทำให้ทางร้านเป็นเจ้าแรกของไทยที่ขายเสื้อยืดลายไทยในลักษณะนี้เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความน่าสนใจให้กับลูกค้าให้อยากซื้อหาไปสวมใส่และซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก
“เรียกได้ว่าเป็นความแปลกใหม่ ที่นำความตรงข้ามกันอย่างสินค้าที่เกี่ยวกับความ Traditional แต่กลับมาอยู่ในตู้ Vending Machine ซึ่งเราได้เริ่มวางขายตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว ในอนาคตเราอาจจะวางตู้เพิ่มในจุดที่นักท่องเที่ยวแวะกัน เช่น รอบๆ โซนวัดพระแก้ว แต่ต้องดูเรื่องของค่าเช่าพื้นที่ด้วยว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ ในช่วงนี้จึงอยู่ระหว่างการปรับตัวก่อนว่า จะทำยังไงให้คนหาตู้ที่มีอยู่เจอได้ง่ายที่สุด เพราะว่าเรานำไปตั้งในสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งใหญ่นั่นเอง”
ไขน็อตแต้มต่อให้แน่น...ฉีกตัวจากคู่แข่งในตลาด
นอกเหนือจากการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับวงการชุดไทยแล้ว เรื่องของพื้นฐานการทำธุรกิจยังเป็นสิ่งที่ชายผู้นี้ไม่มีวันมองข้าม
“ด้วยความที่เราอยู่ในธุรกิจนี้มานาน และมีช่างฝีมือที่มีประสบการณ์เยอะ เพราะฉะนั้นแพทเทิร์นการตัดเย็บของเราจะแตกต่างจากที่อื่น นอกจากนี้ เรายังสามารถเข้าถึงวัตถุดิบราคาย่อมเยาได้ จึงทำให้ราคาชุดไทยของเราอยู่ในระดับที่ไม่แพง เรียกได้ว่าเราเป็นการขายชุด ที่ราคานั้นใกล้เคียงกับการเช่าชุด”
อีกจุดที่คอยสร้างความโดดเด่นให้ธุรกิจอยู่เสมอคือ เรื่องของดีไซน์ ที่ นวนพ บอกว่า ทางร้านจะมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดและปรับตามความต้องการของลูกค้าได้ ซึ่งหากเทียบกับคู่แข่งแล้ว ส่วนใหญ่จะทำกันได้แบบจำกัดเท่าที่ช่างจะสามารถเย็บได้เท่านั้น
“นอกจากขายออนไลน์ เรายังมีหน้าร้าน 2 สาขาที่พระราม 9 และงามวงศ์วาน ตรงแยกพงษ์เพชร ให้ลูกค้าได้เข้ามาลองชุดได้ ซึ่งแตกต่างจากร้านออนไลน์อื่นๆ ที่จะไม่มีหน้าร้าน และขายเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่งไปเลย เช่น ร้านชุดไทยเด็กก็จะมีแต่ชุดเด็ก ร้านชุดไทยเจ้าสาวก็จะมีแต่ชุดเจ้าสาว หรือร้านตัดชุดผู้ใหญ่ก็จะมีแต่ชุดผู้ใหญ่ แต่ของเราคือมาทั้งครอบครัว ทุกคนจะได้ชุดกลับบ้านหมด แค่มาที่นี่ที่เดียว ”
สุดท้ายเป็นเรื่องของชุดด่วน ชุดฉุกเฉินที่ต้องรีบใช้ในงานต่างๆ ทางร้านก็มีพร้อมให้หมด แถมยังมีช่างแก้อยู่ที่ร้าน เพื่อคอยปรับแก้ชุดให้เหมาะสมกับหุ่นของลูกค้าด้วย
“สต็อกสินค้าของเรามีค่อนข้างเยอะ ถ้าเกิดลูกค้าอยากได้ชุดที่เข้ารูปจริงๆ หรือว่าหุ่นไม่ได้มาตรฐาน ที่ร้านก็มีช่างตัด-แก้คอยช่วยเหลืออยู่ ถือเป็นอีกจุดเด่นที่ทำให้เราแตกต่างจากคู่แข่งคนอื่น ที่ส่วนใหญ่จะขายแต่ไซส์สำเร็จรูปและไม่สามารถสั่งตัดหรือแก้ได้”
นำเสนอชุดไทย...ให้คนยุคใหม่เข้าถึงได้
หลังจากยืนหนึ่งบนเว็บไซต์และอยู่มานานใน Facebook เจ้าของร้านคนนี้จึงมองต่อไปที่การหาช่องทางใหม่ๆ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่และผู้คนให้ได้มากกว่าเดิม
“TikTok เป็นช่องทางที่เราเริ่มป้อนคอนเทนต์เข้าไปพอสมควร โดยเนื้อหาของเรามีให้เล่นเยอะมากอยู่แล้วด้วยตัวสินค้า ซึ่งคอนเทนต์ที่ลูกค้าชอบกันมากจะเป็นพวกประวัติและความรู้เกี่ยวกับชุดไทย เช่น หลายคนสงสัย? ทำไมวันลอยกระทง เราต้องใส่ชุดไทยไปด้วย”
อย่างไรก็ตาม การจะขายของให้ได้บนช่องทางไหน ธุรกิจต้องรู้จักพฤติกรรมของคนในช่องทางนั้นๆ ด้วย
“ใน Facebook เวลาที่เรามีสินค้าอะไร เราก็สามารถโพสต์ลงได้เลย เพื่อให้ลูกค้าดูเลยว่า ชอบหรือไม่ชอบ ซื้อหรือไม่ซื้อ แต่พอเป็น TikTok ถ้าเรา Hard Sell เข้าไป ลูกค้าจะปัดทิ้งทันที ตอนนี้เราจึงใช้ช่องทางนี้ เพื่อสร้าง Brand Awareness หรือการรับรู้ของแบรนด์ เพื่อทำให้คนรู้จักแบรนด์เราก่อน เพื่อวันหนึ่งเขาถึงจะเริ่มใช้และจะได้เข้ามาเลือกซื้อของเรา รวมถึงทำคอนเทนต์ที่ลูกค้าสามารถมีส่วนร่วมได้ เช่น Cover คลิปของเรา ใช้เสียงของคลิปของเรา หรือแชร์ข้อมูลที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนส่งต่อให้คนอื่น โดยคอนเทนต์ที่ทำอาจจะเป็นแนวให้ความรู้หรือไม่ก็มีกิมมิคตลกๆ ให้คนเข้าใจได้อย่างง่ายๆ และมีความสนุก”
ทั้งนี้ การยิงแอดโฆษณา การที่เจ้าของร้านใส่ชุดให้เห็นเป็นตัวอย่าง และการมีรีวิวจากลูกค้าที่ซื้อชุดไป ช่วยสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่และคนรุ่นก่อนหันมาใส่ชุดไทยกันอย่างมั่นใจมากขึ้น
“ถ้าพูดถึงชุดไทยฟิวชั่นหรือชุดไทยประยุกต์ การที่(ว่าที่)ลูกค้าได้เห็นคนใช้ในมิติที่หลากหลายมากขึ้น เขาก็เริ่มที่จะเลียนแบบทำตามกัน ทั้งเด็กรุ่นใหม่ที่เคยมาซื้อชุดแล้วใส่ไปดูคอนเสิร์ตกันทั้งแก๊งค์ หรือว่าคนรุ่นเก๋าที่อยากจะใส่ชุดไทย แต่ยังไม่อยากดูสูงวัยก็เริ่มกล้าใส่ชุดไทยประเภทนี้กันมากขึ้น”
ก่อนจากกันไป นวนพ ยังฝากทิ้งท้ายไว้ว่า คอนเซปต์ของตัวธุรกิจนั้นสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในด้านไหนก็ตาม เพราะสุดท้ายลูกค้าจะนึกถึงเราจากประโยคสั้นๆ นิดเดียวเท่านั้นเอง ถ้าเราไม่ชัดเจน เราวาง Positioning ของเราไม่ดี ลูกค้าจะสับสน และสุดท้ายจะจำเราไม่ได้
“ผู้ประกอบการทุกคนต้องหาตัวเองให้เจอ
หาจุดเด่นของตัวเองให้ได้
และทำให้ลูกค้าจำได้ว่าเราคือใคร”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี