Text: Neung Cch.
“ไม่มีใครสำเร็จโดยไม่เคยล้ม แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาต่างจากคนอื่น คือพวกเขาลุกขึ้น และ ‘โต’ ต่อได้”
ในวันที่ต้นทุนพุ่ง กำลังซื้อหด ธุรกิจไทยหลายแห่งกำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากที่สุด หลายคนยืนอยู่ตรงทางแยกระหว่าง “จะไปต่อ” หรือ “พอแค่นี้”
แต่ท่ามกลางความไม่แน่นอน ก็ยังมี SME ที่ไม่เพียงแค่ “รอด” แต่ยัง “โตต่อได้” จริง
เราได้รวบรวม 4 แนวคิด 4 กลยุทธ์จาก 4 ผู้ประกอบการไทยตัวจริง ที่เลือกเดินเส้นทางต่างกัน แต่มีเป้าหมายเดียวกัน เติบโตอย่างยั่งยืนในวันที่โลกไม่เหมือนเดิม จากเวทีสัมมนา Thailand SMART SME 2025: Smart Solutions & Sustainable Growth จัดโดย PostToday
1. เพิ่ม Productivity แทนการลดคุณภาพ
ในขณะที่หลายธุรกิจหันไปลดต้นทุนด้วยการลดสเปกหรือคุณภาพ สรณ์ เยาวพงศ์ศิริ CEO ของ FlingOne แบรนด์ลิฟต์บ้านระดับพรีเมียม กลับเลือกทางตรงข้าม
เขาเชื่อว่า ต้นทุนที่ดีควรถูกลงจากกระบวนการที่มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่จากคุณภาพที่ลดลง FlingOne จึงลงทุนใน AI และเครื่องมือดิจิทัล เช่น:
การวิเคราะห์ข้อมูลในสายการผลิตเพื่อลดของเสีย
Predictive maintenance คาดการณ์การซ่อมล่วงหน้า ลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น ผลคือ ช่วยลดต้นทุนปฏิบัติการได้ถึง 15% โดยไม่ลดคุณภาพ
นอกจากนี้ FlingOne ยังเดินหน้าพัฒนา R&D ออกลิฟต์รุ่นใหม่อย่าง CompactSafe ที่ตอบโจทย์ผู้สูงวัย โดยเน้นการใช้งานง่าย ปลอดภัย ติดตั้งสะดวก ทั้งนี้สิ่งที่แบรนด์ไม่ลืมคือการรักษาคุณภาพ
อีกจุดแข็งที่ทำให้องค์กรเติบโตได้ สรณ์ บอกว่าเขาเน้นการสร้าง Culture of Knowledge ให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนา Tools และ Business Process
“AI คิดได้ก็จริง แต่คุณต้องรู้พอที่จะรู้ว่า AI คิดถูกหรือเปล่า”
บทเรียนจาก FlingOne:
“อย่าลดคุณภาพเพื่อรอด จงเพิ่ม productivity เพื่อ “โต”
2. มี Plan B เสมอ และพร้อมเปลี่ยนแผนทุกวัน
Journal คือแบรนด์น้ำหอมไทยที่แจ้งเกิดในเมืองท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่ ด้วยการตีความ “กลิ่นของสถานที่” ให้กลายเป็นประสบการณ์ในขวดน้ำหอม นักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นลูกค้าหลักถึง 90%
“เราแทบไม่ได้ทำการตลาดอะไรมาก แค่เอาสินค้าที่ดีไปอยู่ในที่ที่ใช่ใน timing ที่ใช่ ธุรกิจก็เลยเติบโตแบบก้าวกระโดด กระทั่งกลางๆ ปี 2019 ยังมีคนมาถามอะไรจะหยุด Journal ได้ตอนนั้น ผมก็บอก อ๋อ ถ้าโลกไม่มีคนเดินทาง” จักรชลัช เกษจำรัส, กรรมการผู้จัดการ, Journal Corp. Ltd.
จากคำตอบที่ไม่คาดคิดว่าจะมีอะไรมาทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาปีละ 40 ล้านคนต้องหยุดเดินทางได้ ก็เกิดขึ้นในช่วงโควิดระบาด ลูกค้าหาย รายได้เหลือศูนย์ แบรนด์แทบล่มเพราะไม่มีออนไลน์ ไม่มีแผนสำรอง สิ่งที่ช่วยให้ Journal อยู่รอดได้คือ:
1. การที่บริษัทไม่มีหนี้ + มีเงินสดสำรอง
2. มีสินค้าใหม่ บริษัทได้พัฒนา Body Oil กลายเป็นสินค้าหลักในตลาดไทย
3. mindset ที่ยืดหยุ่น พร้อมปรับตัวทุกวัน ทำงานหนักขึ้น และไม่เชื่อว่ามีแผนใดที่ใช้ได้ 100%
บทเรียนจาก Journal:
“อย่าฝากชีวิตไว้กับตลาดเดียว จงมี Plan B สำรองไว้เสมอ”
3. ใช้เอกลักษณ์ท้องถิ่นให้กลายเป็นจุดขาย
สำหรับ TIMSIAM ถือว่าเป็นแบรน์ไอศกรีมร้องใหม่ที่เกิดมาในช่วงหลังโควิด เป็นแบรนด์เล็กๆ ที่พยามหาจุดยืน ใช้ความเป็น “ท้องถิ่นเป็นแกนหลักของแบรนด์ ไอศกรีมของ TIMSIAM จึงไม่ได้ขายแค่รสชาติ แต่ขายเรื่องราว เช่น: ไอศกรีมรูปเต่าเฉพาะเกาะเต่า ไอศกรีมรสข้าวเหนียวมะม่วง-ลอดช่อง เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมไทย ส่งเสริมวัตถุดิบจากเกษตรกร
นอกจากนั้นไม่หยุดแค่ตลาดไทยเท่านั้น แต่ยัง ขยายผ่าน OEM ไปยังเกาหลีใต้และประเทศในเอเชีย เพื่อกระจายความเสี่ยงและต่อยอดแบรนด์
“เราไม่ได้แค่ขายไอศกรีม แต่ทำไอศกรีมให้เป็นงานศิลปะที่กินได้” อภัยกานต์ เขาแก้ว, CEO, TIMSIAM
บทเรียนจาก TIMSIAM:
“คิดให้แตกต่าง อย่ายึดติดอยู่กับจุดเดิม”
4. สร้างแบรนด์ให้แข็ง ด้วย PR และพลังผู้ใช้จริง
สำหรับใครที่ชื่นชอบยีนส์ ต้องรู้จัก ‘MERGE’ แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทยแม้จะก่อตั้งในปี 2563 แต่ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็สามารถพาธุรกิจเติบโตได้ระดับร้อยล้าน
อธิศ ทิพย์ชัยเชษฐา, CEO, MERGE เล่าว่า เริ่มจากแบรนด์ยีนส์ที่ชัดเจนในตัวตนด้าน Denim และขยายไปสู่กระเป๋าและเสื้อผ้า โดยมีฐานลูกค้าคนไทยถึง 90% แม้นโยบายทรัมป์จะไม่กระทบโดยตรง แต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจทำให้ MERGE ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาการเติบโต
MERGE ใช้กลยุทธ์ PR และ organic marketing เพื่อสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่แข็งแกร่ง เช่น การให้ดาราและ influencer ใช้ยีนส์และกระเป๋าในงานอีเวนต์ หรือการสร้างคอนเทนต์ในโซเชียลมีเดียที่เน้น lifestyle การใช้ยีนส์ในหลายโอกาส ผลคือ MERGE กลายเป็นแบรนด์ที่คนนึกถึงเมื่อพูดถึงยีนส์คุณภาพในราคาคุ้มค่า (เริ่มต้น 1,500 บาท)การปรับ pricing ให้สอดคล้องกับกำลังซื้อของลูกค้า เช่น การออกคอลเลกชันยีนส์ราคาย่อมเยาสำหรับวัยรุ่น ก็ช่วยให้ MERGE รักษาฐานลูกค้าได้ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว
บทเรียนจาก MERGE:
“วิเคราะห์ตลาดให้ขาดและสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งผ่านการสื่อสารที่ชัดเจน รักษาตัวตนให้ชัด”
ธุรกิจที่รอดในวันนี้ ไม่ได้แค่ขายของเก่ง แต่ต้อง “มองไกล พัฒนาไว และเปลี่ยนทัน”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี