สหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบการทางแก้หนี้เสียพนักงาน




          การจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ขึ้นในสถานประกอบการ นับเป็นสวัสดิการอีกรูปแบบหนึ่งที่จะสามารถดูแลพนักงานและผู้ใช้แรงงาน ได้มีแหล่งออมเงินและเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจและในยามที่จำเป็นต้องใช้จ่ายในครอบครัว



        ซึ่งล่าสุดได้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะประสานความร่วมมือในการผลักดันให้มีการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบการ เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการออมเงินของผู้ใช้แรงงานผ่านระบบสหกรณ์ และการพัฒนาสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบการและรัฐวิสาหกิจให้มีความเข้มแข็งและยั่งยืน



          นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวภายหลังการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริมสนับสนุน และดำเนินการให้สถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ จัดสวัสดิการแรงงานด้วยวิธีการสหกรณ์ ว่า การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ใช้แรงงาน โดยการสนับสนุนจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการ นับเป็นสวัสดิการแรงงานที่นายจ้างและลูกจ้างจะร่วมมือกันจัดให้มีขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการออมอย่างเป็นระบบ และสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนด้านการเงิน แก้ปัญหาหนี้นอกระบบของลูกจ้างได้เป็นอย่างดี



          การร่วมมือในครั้งนี้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน จะรับหน้าที่ประสานกับสถานประกอบกิจการในพื้นที่เป้าหมายเพื่อให้มีการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์และสนับสนุนเงินกู้จากกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานเป็นทุนเริ่มต้นในการจัดตั้ง พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการให้เห็น ถึงความสำคัญของการนำระบบสหกรณ์มาเป็นสวัสดิการให้กับผู้ใช้แรงงาน



          ขณะที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ จะมีหน้าที่ให้ความรู้เรื่องสหกรณ์ รวมถึงรับจดทะเบียนจัดตั้งสหกรณ์ในสถานประกอบการ จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์เข้าไปคอยให้คำแนะนำกำกับดูแลสหกรณ์ให้ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายสหกรณ์ และพัฒนาสหกรณ์ที่จัดตั้งขึ้นในสถานประกอบการให้มีระบบการบริหารจัดการและการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ส่วนกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จะดำเนินการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ที่จัดตั้งในสถานประกอบกิจการให้ดำเนินกิจการอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้



          "อดีตที่ผ่านมา ในสถานประกอบการมีบุคคลากรที่เป็นผู้ใช้แรงงานเป็นหนี้นอกระบบ ซึ่งพบว่าเป็นหนี้นอกระบบที่ค่อนเป็นตัวเลขที่สูงมาก และเมื่อคำนวณอย่างคร่าวๆ เป็นจำนวนเงินถึง 130,000 ล้านบาท ทางกรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน ซึ่งดูแลสถานประกอบการ ต้องการแก้ไขปัญหานี้ จึงขอให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ เข้าร่วมเพื่อแก้ไข โดยกรมฯ



          จะส่งเสริมให้มีการจัดตั้งสหกรณ์ในสถานประกอบการ และให้มีการเชื่อมโยงกิจการของสหกรณ์อื่นๆ ให้เข้ามามีส่วนในการพัฒนาผู้ใช้แรงงาน เพื่อให้มีสวัสดิการต่างๆ เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการดูแลในเรื่องของระเบียบและข้อบังคับต่างๆ เพื่อให้สหกรณ์ในสถานประกอบการ มีความเข้มแข็งและให้เป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะทำให้สภาพเศรษฐกิจของผู้ใช้แรงงานดีขึ้น" นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว



          อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว เพิ่มเติมด้วยว่า เนื่องจากกลไกสหกรณ์สามารถทำให้เกิดความเข้มแข็ง ในด้านการออมให้เป็นระบบมากขึ้น บนพื้นฐานของความสามัคคีและความจริงใจระหว่างกัน รวมทั้งจะส่งเสริมสนับสนุนให้มีการน้อมนำแนวพระราชดำริขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เรื่องปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิต อันจะช่วยให้หนี้นอกระบบในสถานประกอบการลดน้อยลง ก่อเกิดประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการในสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้น และยกระดับเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศให้ดียิ่งขึ้น



          ปัจจุบันสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 540 แห่ง มีลูกจ้างเป็นสมาชิก 649,958 คน นอกจากนี้ยังมีกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานเป็นแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือลูกจ้างโดยกู้ผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการ ซึ่งมีสหกรณ์ให้บริการเงินกู้กองทุน 251 สัญญา เป็นเงิน 1,918,370,000 บาท สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกจ้างที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ แล้ว 217,041 คน โดยในปี 2560 กำหนดเป้าหมายจัดตั้งสหกรณ์ในสถานประกอบการเพิ่มขึ้นอีก 30 แห่ง พื้นที่เป้าหมายเน้นพื้นที่ที่มีโรงงานอุตสาหกรรมหนาแน่น เช่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรสาคร สมุทรปราการ และระยอง หรือโรงงาน ที่มีความสนใจก็สามารถแจ้งความประสงค์ในการขอจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์กับทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดได้ทุกแห่งทั่วประเทศ



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: FINANCE

EXIM BANK เปิดตัว “EXIM 2X” ปั้น GEN Y สู่เวทีการค้าโลก

EXIM BANK เดินหน้าผลักดันผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ GEN Y เจ้าของธุรกิจและทายาทรุ่นใหม่ สู่การเป็นนักรบเศรษฐกิจบนเวทีโลก ผ่านหลักสูตร “EXIM 2X” ที่มุ่งสร้างผู้ส่งออกไทยรายใหม่ปีละกว่า 100 บริษัท

ปิดตายจุดเสี่ยง 6 Trick ป้องกันทุจริตการเงินง่ายๆ ในธุรกิจ

เพราะเรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่เข้าใครออกใคร…การรอบคอบ ป้องกันเอาไว้ก่อน คือ สิ่งดีที่สุด นอกจากจะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ยังเป็นการช่วยปิดความเสี่ยง ยิ่งปิดได้มากเท่าไหร่ ธุรกิจก็ปลอดภัย ดำเนินธุรกิจได้ราบรื่นเท่านั้น

รู้จัก Latte Factor หัวขโมยเงินออม ที่ซ่อนอยู่ในรายจ่ายเล็กๆ  

ชวนมาทำความรู้จัก “Latte Factor” แนวคิดทางการเงินที่ชี้ว่า “ค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ที่เราจ่ายไปทุกวันโดยไม่รู้ตัวนั้นสามารถสะสมกลายเป็นจำนวนเงินที่มากได้ในระยะยาว” ซึ่งถือเป็นตัวการที่ฆ่าความมั่งคั่งของเราได้แบบช้าๆ โดยที่ไม่ทันได้ระวังตัว