![](https://www.smethailandclub.com/images/image/1570078718.png)
Main Idea
- คนทำธุรกิจกำลังเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลก การพัฒนาของเทคโนโลยี หรือแม้แต่สภาพเศรษฐกิจในประเทศทำให้หลายคนรู้สึกว่าต้องเหนื่อยหนักกว่าที่เคยเป็นมา แต่เชื่อเถอะว่าคุณไม่ได้กำลังสู้อยู่เพียงลำพัง มีหลายฝ่ายกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยสนับสนุนเหล่าผู้ประกอบการให้เดินหน้าต่อไป
- ภาครัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2562 ส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน ส่งเสริมให้ SMEs เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ และมีศักยภาพในการแข่งขันเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
- หนึ่งในมาตรการสำคัญคือ การสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุนของ SMEs โดยใช้กลไกการค้ำประกันสินเชื่อผ่านโครงการ PGS8 ของ บสย. ที่ร่วมมือกับธนาคารพันธมิตรถึง 18 แห่งร่วมกันให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ
![](https://www.smethailandclub.com/images/image/1569994959.png)
ในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมใดก็ย่อมต้องเจอความท้าทายจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ภาวะค่าเงินผันผวน การพัฒนาด้านเทคโนโลยี หรือแม้แต่อัตราการบริโภคภายในประเทศก็ตาม ทำให้คนทำธุรกิจอาจจะต้องเหนื่อยหนักกว่าที่เคยเป็นมา ซึ่งสิ่งที่ต้องการที่สุดคงจะเป็นเงินทุนที่จะช่วยให้ธุรกิจก้าวหน้าหรือพาให้พ้นจากวิกฤต แต่เชื่อเถอะว่า คุณไม่ได้กำลังสู้อยู่เพียงลำพัง มีหลายฝ่ายกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยสนับสนุนเหล่าผู้ประกอบการให้เดินหน้าได้ต่อไป
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เราได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2562 จากกระทรวงการคลัง ส่วนหนึ่งเน้นหนักมาที่การส่งเสริมการลงทุนของภาคเอกชน ส่งเสริมให้ SMEs เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยได้ส่งเสริมและกระตุ้นให้มีการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่และเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการไปพร้อมๆ กัน
หนึ่งในมาตรการสำคัญคือ การสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุนของ SMEs โดยที่ใช้กลไกการค้ำประกันสินเชื่อโดยหน่วยงานรัฐอย่าง บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้ามาเป็นเครื่องมือในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการให้เข้าถึงสินเชื่อได้ถูกที่ ถูกเวลา ถูกราคา เพราะมีธนาคารพันธมิตรถึง 18 แห่ง เป็นการผสานความร่วมมือทางการเงิน และการค้ำประกันมาร่วมให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ
![](https://www.smethailandclub.com/images/image/1570423798.png)
ผสานพลังการเงินและการค้ำประกันดัน SMEs เข้าถึงแหล่งทุน
ความร่วมมือดังกล่าวนำมาสู่การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 8 หรือ PGS8 ดำเนินการโดย บสย.ภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่สนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งจากสถิติประเทศไทยมีผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 5.2 ล้านราย แต่ได้รับวงเงินกู้จากสถาบันการเงินเพียง 10% หรือประมาณ 5 ล้านรายเท่านั้น ซึ่งหากอีกกว่า 4 ล้านรายที่เหลือสามารถเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อรักษาสภาพคล่อง รวมถึงการลงทุนในอนาคต ก็จะส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามไปด้วย
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) บอกว่า PGS8 เป็นไฮไลต์สำคัญที่จะช่วยเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่มให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้คล่องตัวขึ้นจากการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสถาบันการเงินเหล่านั้นในการอนุมัติสินเชื่อ ที่สุดแล้วก็จะทำให้ SMEs ลดการพึ่งพาเงินจากนอกระบบลง
บสย.มีวงเงินค้ำประกันสินเชื่อสำหรับโครงการ PGS8 ถึง 150,000 ล้านบาท ทำให้วงเงินค้ำประกันต่อรายก็สูงขึ้นไปแตะที่สูงสุด 100 ล้านบาท รวมทุกสถาบันการเงิน เพิ่มเติมจากโครงการก่อนหน้า คือ PGS7 อยู่ที่ไม่เกิน 40 ล้านบาทต่อราย ทั้งยังฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปี โดยที่ระยะเวลาของโครงการค้ำประกัน PGS8 จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2563
จากกรอบเวลาดังกล่าว คาดว่าจะช่วย SMEs ให้ได้รับสินเชื่อไม่ต่ำกว่า 4.3 หมื่นราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินไม่ต่ำกว่า 2.25 แสนล้านบาท และก่อเกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 6.87 แสนล้านบาท และขณะนี้ บสย.พร้อมให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และ PGS8 จะช่วยให้ SMEs ได้รับสินเชื่อเพียงพอต่อความต้องการ ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
![](https://www.smethailandclub.com/images/image/1569999362.png)
ทุก SMEs มีสิทธิ์ได้สินเชื่อ
โครงการ PGS8 ภายใต้วงเงินค้ำประกัน 150,000 ล้านบาท ถูกแตกแขนงเพื่อสนับสนุน SMEs ผ่าน 5 โครงการย่อยให้เหมาะกับผู้ประกอบการแต่ละกลุ่ม คือ 1. SMEs ดีแน่นอน 2. SMEs บัญชีเดียว 3. SMEs LG 4. SMEs Supply Chain/ Franchise และ 5. SMEs สหกรณ์ โดยประเดิม 2 โครงการแรกด้วยวงเงินจัดสรรรอบแรกจำนวน 57,000 ล้านบาท
วงเงินค้ำประกัน 40,000 ล้านบาทแรกถูกวางไว้สำหรับโครงการ SMEs ดีแน่นอน มีระยะเวลาค้ำ 10 ปี ฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปีแรก ปีต่อไปอัตราค่าธรรมเนียม 1.75% หมาะกับผู้ประกอบการ SMEs ขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยมีวงเงินค้ำประกันตั้งแต่ 2 แสน ถึง 1 ล้านบาท
![](https://www.smethailandclub.com/images/image/1570687629.png)
![](https://www.smethailandclub.com/images/image/1570687644.png)
ในขณะที่โครงการ SMEs บัญชีเดียว มีวงเงินค้ำประกัน 10,000 ล้านบาท ระยะเวลาค้ำ 10 ปี อัตราค่าธรรมเนียม 1.5% โดยฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปีแรก ถัดไปปีที่ 3 และ 4 ผู้ประกอบการจ่ายเพียง 1% โดย บสย.ช่วยสนับสนุนอีก 0.5% เป็นระยะเวลา 2 ปี สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ใช้งบการเงินที่ยื่นภาษีต่อกรมสรรพากรมาขอสินเชื่อ หรือเข้าโครงการบัญชีเดียวของสถาบันการเงิน จะได้รับวงเงินค้ำประกันตั้งแต่ 2 แสนถึง 1 ล้านบาท เพราะการเข้าถึงแหล่งทุนในยุคดิจิทัลนับวันจะยิ่งยากจากการที่มีเครื่องมือการวิเคราะห์ความเสี่ยง และเครื่องมือวิเคราะห์ประกอบการอนุมัติสินเชื่อ มีผลต่อการขอสินเชื่อของผู้ประกอบการ SMEs จำนวนมาก การจัดทำบัญชีเดียวจะเป็นการปลดล็อกให้ผู้ประกอบการที่จัดเตรียมข้อมูลด้วยบัญชีเดียวชิงความได้เปรียบและสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น
![](https://www.smethailandclub.com/images/image/1570423907.png)
วงเงินส่วนที่เหลือถูกกันไว้สำหรับผลิตภัณฑ์และโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อตอบรับความต้องการของ SMEs ให้ทั่วถึงทุกกลุ่ม
สำหรับผู้ประกอบการตัวเล็กที่สนใจอยากเข้าร่วมโครงการ PGS8 สามารถสอบถามข้อมูลที่ Call Center 02 890 9999, Line @doctor.tcg, www.tcg.or.th และที่สำนักงานเขตทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี