ทำงานไม่ได้งาน ลอง 5 เทคนิคพิชิตงานดูหรือยัง

Text : กองบรรณาธิการ
 
 
     เคยไหมเวลาทำงานแล้วไม่ได้งาน หรือตั้งใจจะทำงานแล้วรวบรวมสมาธิไม่ได้ หากใครกำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ ต้องบอกเลยว่างานที่ทำอยู่อาจเสร็จไม่ทันเวลา หรือทำเสร็จทันแต่อาจไม่ค่อยมีคุณภาพสักเท่าไหร่ ซึ่งบทความนี้จะช่วยเปลี่ยนวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสได้ โดยไม่ต้องเริ่มที่ไหน แค่เริ่มจากตัวเองดังนี้




1. ปิดเสียงโทรศัพท์และเสียงเตือนทุกอย่างรอบๆ ตัว

     กดปิดการแจ้งเตือนทุกอย่าง ทั้งไลน์ อีเมล์ ข้อความและเสียงจากโทรศัพท์ เฟซบุ๊ค รวมถึงโซเชียลมีเดียทุกประเภท เพราะการเปิดเสียงเหล่านี้เอาไว้จะทำให้เราหยุดชะงักและเสียสมาธิในการทำงานเป็นอย่างมาก บางคนอาจบอกว่าก็ฉันใช้สิ่งเหล่านี้ในการทำงานเพื่อคุยกับลูกค้า ...ใช่เราใช้สิ่งเหล่านี้ได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่ต้องใช้สมาธิก็ควรปิดเสียงและทำงานให้เสร็จก่อน จากนั้นจึงเปิดดูเพื่อติดตามงานอีกครั้งก็ยังไม่สาย

 
2. พักสายตาบ้าง

     จากผลการวิจัยได้ระบุว่ายิ่งมนุษย์จดจ่อกับการทำงานยาวนานต่อเนื่องมากเท่าไหร่ สมาธิก็จะยิ่งถดถอยลงเท่านั้น เพราะสมองจะเริ่มเหนื่อยล้า ต้องการพักผ่อนและไม่สามารถโฟกัสกับงานได้อย่างเต็มที่  ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาที่ดีวิธีหนึ่งก็คือพักสมองบ้าง เช่น หลับตาเพื่อผ่อนคลาย ลุกไปยืดเส้นยืดสาย หรือหาอะไรทำคลายเครียดเพื่อเติมพลังให้กับสมอง จากนั้นจึงกลับมาเริ่มงานใหม่อีกครั้ง

 
3. จัดสรรเวลาให้เป็นระเบียบ
 
     ไม่ว่าเราจะมีสมาธิหรือไม่มีสมาธิ แต่ถ้างานไม่เสร็จตามกำหนด ก็จำเป็นที่จะต้องจัดสรรเวลาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น กำหนดเวลาไปเลยว่าช่วงเช้า สาย บ่าย เย็น จะทำอะไรบ้าง หรือ งาน A ต้องเสร็จก่อน 10 โมง หลังจากนั้นก่อนเที่ยงต้องเสร็จงาน B เป็นต้น ไม่อย่างนั้นงานที่ไม่เสร็จก็จะค้างไปเรื่อยๆ จนในวันต่อๆ ไปเราจะไม่สามารถบริหารจัดการอะไรได้อีกเลย

 
4. หยุดทำงานหลายอย่างพร้อมกัน

     หลายๆ คนมักคิดว่าการทำงานหลายอย่างพร้อมๆ กันเป็นเรื่องที่ดี แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะการทำงานหลายอย่างพร้อมกันจะเป็นการบังคับให้สมองเปลี่ยนความสนใจจากจุดนั้นไปจุดนี้ ทำให้เรามีโอกาสขาดตกบกพร่องในบางรายละเอียดของงานไปได้ (เรียกสั้นๆ ว่างานไม่เรียบร้อยนั้นละ) วิธีที่ดีที่สุดคือทำงานทีละอย่าง และจดบันทึกลงไปให้เป็นระเบียบว่างานแต่ละเรื่องต้องทำอะไรบ้าง เป็นข้อๆ ตามลำดับ 1-10 ฟังดูแล้วเหมือนเป็นวิธีการแบบเด็กๆ แต่ถ้าทำตามวิธีนี้ รับรองเลยว่าเราแทบจะไม่มีโอกาสพลาดหรือตกม้าตายเลย

 
5. อย่าละเลยชีวิตส่วนตัว
     
     ความสมดุลของชีวิตและการทำงานมักเป็นปัญหาสำหรับผู้ประกอบการและพนักงานแทบทุกคน เพราะเมื่อเราทำงานไม่เสร็จ ก็ต้องนำกลับมาทำที่บ้าน ส่งผลต่อความเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ จนไม่มีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ ทำให้เครียดสะสมและร่างกายเสียสมดุลไปในที่สุด วิธีที่ดีที่สุดคือปรับสมดุลการทำงาน จัดตารางให้สามารถทำงานเสร็จในที่ทำงาน และสามารถกลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัวเพื่อเพิ่มพลังให้พร้อมต่อการทำงานในวันถัดๆ ไป
           
 
     ไม่ใช่เฉพาะเรื่องงานเท่านั้น ลองปรับใช้กับการทำธุรกิจดูด้วยก็ได้เช่นกัน 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: MANAGEMENT

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร

สูตรลับจัดการเวลาฉบับ Pickle Jar Theory  

จะทำอย่างไรให้สามารถบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ปล่อยให้สิ่งเล็กๆ มาบดบังสิ่งใหญ่ที่เป็นหัวใจของธุรกิจ? เราเลยจะพาไปรู้จัก Pickle Jar Theory แนวคิดการให้ความสำคัญกับงานหลักที่มีผลต่อเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็ยังจัดพื้นที่ให้กับงานรองที่จำเป็น แต่ไม่เร่งด่วนด้วย