3 เคล็ดลับบริหารคน Gen Y ให้อยู่กับคุณได้นานๆ

 
 
    เมื่อในบริษัทมีคน Gen Y (คนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2523 – 2543) เพิ่มขึ้น ในขณะที่ผู้บังคับบัญชาส่วนใหญ่เป็นคน Gen X จึงมักมีช่องว่างระหว่างวัยทำให้การประสานงานไม่ราบรื่น ไม่เข้าใจกัน HR จึงต้องหาวิธีในการบริหารคน Gen Y อย่างถูกวิธี เพื่อให้รู้ว่าเขาต้องการอะไร และต้องปฏิบัติต่อพวกเขาแบบไหน

คน Gen Y ชอบงานที่แปลกใหม่ท้าทาย 

    Gen Y ตอนต้นที่ผ่านประสบการณ์การทำงานมาระดับหนึ่งจะเริ่มมองหาความท้าทายใหม่ ๆ หากงานที่ทำเริ่มย่ำอยู่กับที่ ไม่ก้าวหน้า แน่นอนว่า คนกลุ่มนี้จะเริ่มเบื่อและมองหางานใหม่ที่ให้โอกาสเขาได้
พบเจอกับความท้าทายที่เขาต้องการ เช่น งานที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น มีลูกน้อง ได้เรียนรู้งานบริหารมากขึ้นไม่ใช่แค่งานเฉพาะหน้าของตนเองอีกต่อไป การบริหารคนกลุ่มนี้จึงควรออกมาในรูปแบบการมอบหมายงานแปลกใหม่ท้าทายความสามารถ ส่งเสริมพนักงานที่มีศักยภาพก้าวขึ้นสู่ระดับอาวุโส และผู้จัดการ เป็นต้น 

    ส่วน Gen Y ตอนกลางที่เพิ่งเป็นน้องใหม่ไฟแรง เขาจะรู้สึกสนุกเมื่อได้รับมอบหมายงานที่หลากหลาย ได้สลับไปทำนั่นทำนี่ หรือทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน

คน Gen Y ต้องการทราบฟีดแบ็กผลงานของพวกเขา 

    คน Gen Y เป็นกลุ่มคนที่มีความมั่นใจ ชอบที่จะเสนอแนวทางในการทำงานของตนเอง ในขณะเดียวกันก็ต้องการความชัดเจนในการทำงาน ต้องการได้รับฟีดแบ็กเกี่ยวกับผลงานของตนโดยเร็ว ยิ่งพวกเขา

เกิดมาในยุคของเทคโนโลยีที่ทุกอย่างรวดเร็วไปหมด การรอคอยอะไรนาน ๆ เป็นสิ่งที่คน Gen Y ไม่ชอบเลย ผู้ที่เกี่ยวข้องจึงไม่ควรรอช้าที่จะติชมผลงาน และให้คำแนะนำพวกเขาด้วยความจริงใจ 

    นอกจากนี้ควรให้เขารู้ว่างานของเขามีความสำคัญต่อบริษัทอย่างไร คน Gen Y ก็พร้อมที่จะทุ่มเทเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีและเป็นที่ยอมรับ และเมื่อเขาทำผลงานได้ดีแล้ว เขาก็เชื่อว่าจะต้องได้รับผลตอบแทน
ในทางใดทางหนึ่งเช่นกัน

คน Gen Y ไม่ชอบให้เข้มงวดกับพวกเขามากเกินไป 

    การจัดสมดุลชีวิตและงานของคน Gen Y ไม่เหมือนคนกลุ่มอื่น พวกเขาจะไม่แยกงานและกิจกรรมทางสังคมออกจากกัน เพราะฉะนั้น เขาอาจลาออกได้ง่าย ๆ เพียงเพราะบริษัทห้ามไม่ให้ใช้คอมพิวเตอร์ใน
เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงาน ห้ามแชท ห้ามใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก

    คน Gen Y ชอบ บรรยากาศการทำงานที่สนุกสนานมีสีสัน กระตุ้นต่อมครีเอทีฟของพวกเขา หากบริษัทเข้าใจคนกลุ่มนี้ และให้อิสระแก่พวกเขาภายใต้กรอบที่ไม่
บีบรัดจนเกินไป ทำให้พวกเขามีความสุขในการทำงาน เชื่อว่าพวกเขาจะสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมให้แก่บริษัทได้อย่างแน่นอน

ข้อมูล -- http://th.jobsdb.com

RECCOMMEND: MANAGEMENT

ภาวะหมดไฟ ภัยเงียบที่คุกคามผู้นำ ถึงเวลาทบทวนวิธีพัก ก่อนที่ธุรกิจจะพังไปพร้อมใจคุณ

ภาวะหมดไฟ (Burnout) กำลังระบาดหนักในหมู่ผู้บริหารและเจ้าของกิจการ โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจกำลังซบเซา ที่ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวแบบไม่มีเวลาพักหายใจ ซึ่งภาวะหมดไฟของผู้นำนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่คือความเสี่ยงของทั้งองค์กร!

AI Co-worker ปฏิวัติโลกการทำงาน เมื่อเพื่อนร่วมงานคือปัญญาประดิษฐ์ ที่ไม่คิดแย่งงาน แต่มาแบ่งงานไปช่วย   

หน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของโลกการทำงานกำลังถือกำเนิดขึ้น เมื่อ AI แต่ไม่ได้มาในฐานะผู้แย่งชิงแบบที่หลายคนหวาดหวั่น แต่จะเป็นพนักงานใหม่ ที่เข้ามาช่วยให้การทำงานและการสร้างวัฒนธรรมองค์กรมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น