7 วลีต้องห้ามสำหรับบอส

 



เรื่อง :  เจษฎา ปุรินทวรกุล

    การเป็นหัวหน้า ไม่ได้หมายความว่าคุณสมบูรณ์แบบจนไร้ที่ติ เพราะบางครั้งเราเองก็อาจจะพลั้งเผลอลืมตัว และมักพูดในสิ่งที่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง โดยเฉพาะในบางอารมณ์ที่คุณกำลังคิดหาทางออกต่างๆ ให้กับพนักงาน ความเครียดรุมเร้า คำพูดที่เคยเฉียบคม ตรงประเด็น อาจกลายเป็นคำพูดที่ไม่หรูหราแถมยังก่อให้เกิดปัญหาใหญ่สำหรับองค์กรขึ้นมาได้อีก ซึ่งทางท่าและคำพูดบางคำสามารถทำลายชื่อเสียงและความไว้วางใจที่พนักงานเคยมอบให้กับคุณไปจนหมด และต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นฟูให้มันกลับมาเหมือนเดิมได้

     ถ้าคุณไม่อยากมานั่งเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองพูดไปในภายหลัง ลองฟังคำแนะนำจาก Lindsay Broder โค้ชมืออาชีพแห่งบริษัท The Occupreneur™ Coach ในนิวยอร์ค โดยเธอมีความเชี่ยวชาญด้านการฝึกสอน กลยุทธ์และแผนรับมือวิกฤตสำหรับผู้บริหาร หลักสูตรผู้นำธุรกิจ รวมถึงหลักสูตรองค์กรที่มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจและอาชีพ ซึ่งมันน่าจะมีประโยชน์ต่อธุรกิจคุณบ้างละน่ะ  
 


1.ฉันเป็นหัวหน้า ทำตามที่ฉันสั่ง

    พนักงานก็เป็นบุคคลที่โตและมีวุฒิภาวะคนหนึ่ง มีความคิดอ่าน ถ้าคุณไม่พร้อมฟังความเห็นของเขา นั่นแสดงว่าคุณกำลังตั้งค่ามาตรฐานที่แตกต่างกันระหว่างเจ้านายกับลูกน้อง เมื่อคุณสร้างกำแพงขึ้นมาแบบนี้ ลูกน้องที่ไหนจะให้ความเคารพกับคุณ ?

2.คุณโชคดีนะที่มีงานทำ

    ถือเป็นประโยคสุดเห็นแก่ตัวที่ไม่ควรพูดเลย มันเหมือนกับคุณจะบอกพนักงานว่า “เฮ้ คุณโชคดีแล้วนะที่ผมจ้างคุณ” จำไว้เลยว่าไม่มีใครทำงานได้ดีในสภาวะแวดล้อมที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณนายจ้างอยู่ตลอด ถ้าพนักงานของคุณทำงานไม่ถูกใจคุณ คุณควรลองลงมือทำงานร่วมกับเขาและแก้ปัญหาในทางที่ถูกต้องไปพร้อมๆ กัน
 


3.ถ้าคุณไม่ชอบ (ไม่ทำ) ฉันจะหาคนอื่นมาทำแทน

    การเป็นหัวหน้า ไม่ได้หมายความว่าคุณมีสิทธิ์ทำตัวปัญญาอ่อนและไร้เหตุผลได้ โปรดรับทราบไว้เลยว่าหลายคนที่ขึ้นแท่นได้ตำแหน่งบอส มักใช้ทักษะความเป็นผู้นำแก้ปัญหาและกระตุ้นพนักงานให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ต้องไม่ใช่ด้วยวิธีการขู่ว่าจะไล่ออกหากไม่ยอมทำตามคำสั่ง ช่วงแรกมันอาจใช้ได้ผล แต่ท้ายที่สุดพนักงานของคุณจะหมดแรงกระตุ้นและไร้แรงบันดาลใจ

4.ทำไมคุณเป็นคนเดียวที่มีปัญหาเรื่องนี้

    สำหรับประเด็นนี้ ถ้าเรากำลังพูดถึงพนักงานที่มีภาวะต่อต้านหรือพวกมีความมั่นใจสูง ให้จดชื่อพวกเขาเอาไว้แล้วหาทางพูดคุยด้วยวิธีที่ดีแทน แต่ถ้าคุณกำลังจะนำไปใช้พูดกับพนักงานที่ให้ความร่วมมือกับบริษัทด้วยดี คอยช่วยเหลือบริษัทเวลาเข้าตาจน ปัญหาอาจมาจากตัวคุณนั่นแหละ ที่ไม่ยอมรับฟังความกังวลหรือความคิดของพวกเขาเหล่านั้น หรือบางทีพนักงานของคุณอาจเจอวันแย่ๆ มาก็ได้

    อย่างไรก็ตาม อย่าเปรียบเทียบพนักงานด้วยกัน เช่น ที A ยังไม่เห็นมีปัญหาเหมือนคุณเลย ...มันเหมือนกับเราเปรียบเทียบว่าเด็กคนนั้นดีกว่าเด็กคนนี้ยังไง นี่ไม่ใช่ไอเดียที่ดีเลย
 


5.ฉันไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนี้หรอกนะ

    เอาจริงดิ ? คุณเป็นหัวหน้านะ มันเป็นงานของคุณเลยแหละที่ต้องให้เวลากับพนักงาน ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคนที่มีงานยุ่งมากๆ แต่ลองให้เวลาพวกเขาซักนิด มันต้องมีปัญหาเขาถึงมาขอคำปรึกษาจากคุณ เวลาไม่กี่นาทีอาจเป็นสิ่งมีค่าสำหรับพวกเขามากๆ ก็ได้  

6.คุณไม่เห็นหรือว่าผมเครียดอยู่

    นึกถึงเจ้านายของพูดประโยคนี้ตอนโมโหดูสิ ...น่ากลัวจริงๆ แต่ถ้าเจ้านายใจเย็นแล้ว ลองคิดดูบ้างว่า ใครละจะไม่มีความเครียด ? คนทุกคนมีความเครียดเหมือนๆ กัน อย่าตัดสินว่าคุณเหนือกว่าเขาแล้วนั่นจะหมายความว่าความเครียดของคุณสำคัญกว่าความเครียดของพนักงาน คุณไม่มีสิทธิ์ไปลดคุณค่าของผู้อื่นหรอกนะ

 

7.คุณเห็นชื่อผมที่ประตูไหม

    ก็ ...แล้วไงละ จริงอยู่คุณอาจสร้างธุรกิจขึ้นมา ลงทุนเงินและเวลาจนกลายเป็นองค์กรขนาดใหญ่และมั่งคั่งขึ้นมาได้จนถึงวันนี้ แต่คุณไม่ใช่พระเจ้านะ การข่มพนักงานด้วยคำพูดแบบนี้ไม่ใช่วิธีที่ดี ไม่สามารถสร้างความรู้สึกดีๆ กับพนักงานได้แน่นอน ลองกลับไปคิดดูว่าหากไม่มีพนักงาน ใครจะคอยบริการลูกค้าให้กับบริษัทถ้าไม่ใช่ตัวคุณเอง  

    ถ้าอ่านดูแล้วคิดว่าถูกต้อง ก็ลิสต์เอาไว้เลยว่า คำพูดเหล่านี้ (โดยเฉพาะตอนโกรธ) คุณไม่ควรนำเอาไปพูดกับพนักงาน

Create by smethailandclub.com

RECCOMMEND: MANAGEMENT

พลังของ Introvert ! ศักยภาพเงียบที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

Introvert ไม่ได้แค่ “อยู่เงียบๆ” แต่คือพลังสำคัญในโลกการทำงาน ทั้งคิดลึก ฟังเก่ง สร้างสรรค์ และนิ่งภายใต้แรงกดดัน มาดูกันว่าทำไมธุรกิจถึงไม่ควรมองข้ามพลังเงียบนี้

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร