แก้เกมลูกน้องรับมือยาก! วิธีดีลกับพนักงานพ่นมลพิษโดยไม่เสียสุขภาพจิต




Main Idea

 
  • ผู้ประกอบการ SME ส่วนใหญ่ นอกจากต้องรับมือกับปัญหาด้านธุรกิจแล้วยังต้องมีการรับมือกับปัญหาเรื่องคนด้วย
 
  • พนักงานบางคนอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าว ชอบปล่อยมลพิษ สร้างบรรยากาศที่ไม่น่าทำงานให้แก่คนอื่น ในฐานะที่คุณเป็นผู้นำ การลุกขึ้นมาจัดการพนักงานเหล่านี้จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะไม่อย่างนั้นลูกน้องคนอื่นอาจจะพาลรู้สึกไม่ดีกับคุณไปด้วยก็เป็นได้



           
     ในฐานะที่คุณเป็นผู้ประกอบการ SME นอกจากต้องบริหารธุรกิจ สร้างผลกำไรให้บริษัทแล้ว ยังต้องคอยรับมือกับพนักงานที่มีความหลากหลาย บางคนก็ดีแสนดี แต่ก็ยังมีบางคนที่ชอบปล่อยมลพิษ ทำให้ออฟฟิศไม่น่าอยู่ อาทิ พนักงานที่ตั้งตัวเป็นแก๊งสเตอร์ สร้างกำแพงให้เด็กใหม่ที่เข้าทำงาน พนักงานที่จับกลุ่มนินทา ไปจนถึงพนักงานที่คอรัปชั่น ความยากที่สุดของการจัดการพนักงานกลุ่มนี้คือการควบคุมอารมณ์ของคุณ อย่าใช้ความรุนแรงกับพวกเขา เนื่องจากพนักงานบางคนมีอิทธิพลกับพนักงานคนอื่น หากคุณรับมือโดยไม่ถูกต้องอาจพาลให้พนักงานส่วนใหญ่ตั้งกำแพงกับคุณตามไปด้วย ฉะนั้นแล้ว การดีลกับพนักงานพ่นมลพิษโดยไม่เสียสุขภาพจิตคงต้องใช้วิธีอันชาญฉลาดดังต่อไปนี้!
 


 
  • เริ่มต้นด้วยการเก็บข้อมูล

     ด้วยความที่คุณต้องทำตัวเป็นคนกลาง อย่าเพิ่งฟังความข้างเดียว สิ่งที่คุณต้องทำคือการเก็บข้อมูลให้รอบด้าน หากคุณเริ่มรู้สึกว่าพนักงานคนใดของคุณอาจเป็นคนก้าวร้าวและสร้างปัญหาในองค์กร ต้องสืบหาความจริง อย่าเพิ่งกระโตกกระตากหรือโวยวาย พยายามค้นหาเหตุผลเบื้องหลังของพฤติกรรมที่ส่งผลให้พนักงานคนนั้นของคุณก้าวร้าว บางครั้งเขาอาจมีปัญหาจากเพื่อนร่วมงานคนอื่น มีปัญหาส่วนตัวไปจนถึงปัญหาทางจิตใจ และหากเป็นอย่างนั้น แทนที่คุณจะกล่าวหาว่าเขาเป็นคนร้าย คุณอาจจะต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือแทน
 
  • ใช้เหตุผล หลีกเลี่ยงอารมณ์

     หลังจากที่คุณเก็บข้อมูลเรียบร้อยแล้วว่าพนักงานคนนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์จริงๆ คุณจะต้องมีการเรียกเข้ามาคุยแบบตัวต่อตัว ห้ามฉีกหน้ากลางออฟฟิศโดยเด็ดขาด โดยคุณต้องเล่าให้เขาฟังว่าคุณรู้ข้อมูลอะไรมาบ้าง รวบรวมสิ่งที่คุณรู้ทั้งหมด และบอกว่าพฤติกรรมที่ไม่ดีของเขาจะส่งผลเสียต่อทีมอย่างไร พูดด้วยเหตุผล หลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์โดยเด็ดขาด จากนั้นยื่นระยะเวลาให้เขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและคอยติดตามผล
 


 
  • หยิบยื่นโอกาส

     อีกหนึ่งวิธีในการจัดการพนักงานที่มีปัญหา หลังจากที่บอกพวกเขาถึงปัญหาทั้งหมดไปแล้ว จงอย่าตอกย้ำพวกเขาบ่อยๆ ปล่อยให้สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นผ่านไปและวางแผน นำเสนอขั้นตอนที่พนักงานเหล่านั้นควรทำเพื่อที่จะได้แก้ไขพฤติกรรมไม่ดีที่เกิดขึ้น การว่ากล่าวพวกเขาซ้ำๆ ในสิ่งที่ผิดพลาดไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นแต่การหยิบยื่นโอกาสและวิธีการแก้ไขต่างหากที่จะทำให้พนักงานเหล่านี้กลับมาเป็นพนักงานที่ดีสำหรับองค์กรได้อีกครั้ง
 
  • จับตาดูห่างๆ อย่างห่วงๆ

     เมื่อพนักงานของคุณได้รับโอกาสให้แก้ตัวใหม่อีกครั้ง สิ่งที่คุณต้องทำในช่วงนี้คือการเว้นระยะห่าง อย่าเข้าไปจู้จี้จุกจิกมากเกินไป แต่อย่าคลาดสายตา ให้สังเกตพฤติกรรมของพวกเขาอยู่เสมอ ดูถึงความเปลี่ยนแปลง ดูว่าพวกเขาทุ่มเทมากแค่ไหนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง หากว่าพวกเขาสามารถข้ามผ่านช่วงเวลาในการปรับปรุงตัวนี้ได้ คุณสามารถบอกให้พวกเขารับรู้ว่าคุณมองเห็นสิ่งที่เขาทำ เพื่อให้เขารู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นไม่ได้สูญเปล่า
 


 
  • ตัดสินใจเด็ดขาด

     แต่หากเกมพลิก หลังจากที่คุณหยิบยื่นโอกาสแก้ตัวให้พวกเขาแล้วแต่เขาไม่รับมัน พนักงานบางคนอาจจะมีความดื้อรั้นอยู่ในตัว ยิ่งโดนจับได้ว่าทำผิดยิ่งไม่ยอมรับผิด และอาจจะยังคงก้าวร้าวอยู่อย่างนั้น สิ่งที่คุณทำได้คือการตัดสินใจขั้นเด็ดขาดในการปล่อยพวกเขาไป บางคนคิดว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นสร้างความสนุก โดยที่ไม่รู้เลยว่าพวกเขากำลังสร้างความทุกข์ให้แก่ผู้อื่น คุณจำเป็นต้องตัดเนื้อร้ายทิ้งเพื่อรักษาส่วนดีๆ ที่ยังเหลืออยู่เอาไว้
 
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: MANAGEMENT

พลังของ Introvert ! ศักยภาพเงียบที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

Introvert ไม่ได้แค่ “อยู่เงียบๆ” แต่คือพลังสำคัญในโลกการทำงาน ทั้งคิดลึก ฟังเก่ง สร้างสรรค์ และนิ่งภายใต้แรงกดดัน มาดูกันว่าทำไมธุรกิจถึงไม่ควรมองข้ามพลังเงียบนี้

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร