เปิด 8 ความเหมือนและท้าทาย ระหว่าง ‘ปีนเขา’ และ ‘ทำธุรกิจ’ ที่ SME ต้องรู้!

TEXT : พิมพ์ใจ พิมพิลา

 

 

Main Idea
 
  • การทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นเดียวกับการปีนเขา เพราะแม้สองกิจกรรมนี้จะต่างกัน แต่วิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการมีวินัยต่อตนเองหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนที่กำลังดำเนิน กิจกรรมทั้งสองกลับคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก
 
  • เพราะไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมใด ต่างก็ต้องมีหัวหน้าที่มีภาวะผู้นำสูงเพื่อนำพาทีมไปสู่จุดหมาย ซึ่งในระหว่างการปีนเขาเอเวอเรสต์หรือการทำธุรกิจ นักปีนเขาและผู้ประกอบการอาจจะต้องเผชิญสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่ความล้มเหลวได้ ดังนั้นการวางแผนเพื่อเตรียมในการรับมือย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่า
 
 
 

     การเป็นผู้ประกอบการไม่ใช่เรื่องยากที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ แต่การเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจของตนเองนั้นกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด เปรียบเหมือนเช่นการปีนเขา เพราะแม้สองกิจกรรมนี้จะต่างกัน แต่วิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการมีวินัยต่อตนเองหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนที่กำลังดำเนิน กิจกรรมทั้งสองกลับคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมใด ต่างก็ต้องมีหัวหน้าที่มีภาวะผู้นำสูงเพื่อนำพาทีมไปสู่จุดหมายด้วยกันทั้งนั้น


     ในวันนี้ SME Thailand จึงอยากนำเสนอ 8 ความท้าทายที่ไม่ว่านักปีนเขาหรือผู้ประกอบการจะต้องเผชิญในระหว่างการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์! ทั้งของจริงและในการทำธุรกิจกัน
 
 


 
  1. ไม่ว่าใครก็กลัวความตายกันทั้งนั้น

     คุณอาจเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมนักปีนเขาถึงกลัวความตาย เพราะว่าความอันตรายเหล่านั้นล้วนรายล้อมรอบตัวคุณตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุณหภูมิ อาหาร อุบัติเหตุ หรืออาจจะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แม้ว่าคุณจะเตรียมรับมือแล้วก็ตาม และสิ่งที่แย่ไปกว่านั้น คือ คุณอาจจะไม่ตาย แต่กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังจะตายในอนาคต เช่นเดียวกับธุรกิจที่ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มหรือมีมานานกว่า 10 ปีแล้ว ต่างก็กลัวความล้มเหลวหรือกลัวที่จะต้องหยุดการดำเนินการกันทั้งนั้น ซึ่งสิ่งที่จะทำให้คุณหลุดพ้นไปได้ ก็คือการยอมรับความล้มเหลวที่อาจจะเกิดขึ้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง และดำเนินการต่อไปอย่างเต็มภาคภูมิว่าในวันนี้คุณทำเต็มที่ที่สุดแล้ว อย่าย่อท้อต่อปัญหาที่เกิดขึ้นแต่จงมองให้เห็นปัญหาและค่อยๆ ปรับเปลี่ยนเพื่อบรรเทาสถานการณ์แทนที่จะพะวงกับความล้มเหลวที่ยังไม่เกิดขึ้นจนไม่เป็นอันทำอะไรสักอย่าง
 
  1. อย่ากลายเป็นคนเห็นแก่ตัว

     ความเห็นแก่ตัวเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม อย่างเช่นนักไต่เขาที่กระตือรือร้นในการปีนให้สำเร็จ โดยไม่สนคำเตือนต่างๆ ที่เป็นเรื่องอันตราย จนทำให้ความปลอดภัยของทีมนั้นลดลง ซึ่งถ้าเปรียบเทียบความเห็นแก่ตัวของนักธุรกิจในสถานการณ์ที่ล่อแหลมหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดความล้มเหลว แต่กลับดื้อรั้นจะทำให้ได้ดังใจตัวเองจนไม่สนว่าสิ่งนั้นจะเป็นการคุกคามความปลอดภัยหรือเป็นการคุกคามสิทธิของเพื่อนร่วมงานหรือไม่? ดังนั้นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรระมัดระวังการดำเนินการบางอย่างที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยง เข้าใจว่าไม่ว่าใครก็อยากจะประสบความสำเร็จกันนั้น แต่ควรมองตัวเองและมองเพื่อนร่วมงานด้วยว่ามีความพร้อมมากแค่ไหน รวมถึงต้องรับฟังคำเตือนจากคนรอบข้างถึงความเสี่ยงที่อาจตามมาด้วย
 


 
  1. เครื่องมือเป็นสิ่งสำคัญ

     เครื่องมือคือสิ่งสำคัญในการพัฒนาหรือก้าวต่อไปเพื่อไปยังจุดสูงสุด สำหรับการปีนเขาเอเวอเรส เชือกและออกซิเจนเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีเพื่อช่วยในระหว่างการเดินทาง เช่นเดียวกับผู้นำหรือผู้ประกอบการที่ต้องมีเครื่องมือในการพัฒนาธุรกิจ เพราะเครื่องมือจะช่วยพัฒนาทักษะพื้นฐานของคนในทีมให้สามารถต่อสู่กับปัญหาไปได้อย่างไม่เสียแรงหรือต้นทุนที่มากเกินความจำเป็น และกว่าที่เราจะใช้เครื่องเราก็ต้องมีความรู้พื้นฐานหรือรู้วิธีการใช้งานเครื่องมืออย่างชาญฉลาดด้วย อย่างการนำเทคโนโลยีหรือการนำโซเชียลมีเดียเข้ามาใช้เพื่อเสริมกำลังธุรกิจให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
 
  1. ความเย่อหยิ่งมักจะแฝงตัวอยู่เบื้องหลังความล้มเหลว

     แม้ว่าผู้คนหลายหมื่นคนจะพยายามพิชิตยอดเขาเอเวอเรส แต่กลับมีไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สามารถขึ้นไปยังจุดสูงสุดได้ และที่สำคัญคือมีคนล้มเหลวในการไปถึงยอดเขาด้วยการจบชีวิตลง ซึ่งปีที่มาผ่านมาเนื่องจากธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วเพราะภาวะโลกร้อน ส่งผลให้เดือนมีนาคม ปี 2562 มีการพบศพผู้เสียชีวิตจากการปีนเขาถึง 280 ศพ และสาเหตุการตายที่มีสถิติสูงสุดคือประสบเหตุหิมะถล่มนั่นเอง เช่นเดียวกับการทำธุรกิจที่ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึงเหตุที่อาจเข้ามาแบบไม่ตั้งตัวจนทำให้เกิดความล้มเหลวเนื่องจากขาดการวางแผนที่ดี อย่าปล่อยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างไร้ประสิทธิภาพ เพียงเพราะความเย่อหยิ่งของผู้นำที่นำพาธุรกิจไปสู่ความล้มเหลวในอนาคตได้
 


 
  1. วีรบุรุษผู้โดดเดียว มักจะตายอย่างโดดเดี่ยวเสมอ

     ผู้ประกอบการหลายคนมักจะปฏิเสธความต้องการความช่วยเหลือ เพียงเพราะเชื่อว่า “ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง คุณจะต้องทำด้วยตัวเอง” จนทำให้ต้องทนทุกข์จากความกล้าหาญอันแสนโดดเดี่ยว เช่นเดียวกับการปีนเขาเคยมีนักปีนเขาคนหนึ่งที่อยากจะปีนขึ้นไปสู่ยอดเขาอันบริสุทธิ์ โดยไม่ใช้ออกซิเจนแม้ว่าร่างกายของเขาจะแย่จนถึงที่สุดแล้วก็ตาม จนในที่สุดแทนที่จะไปถึงยอดเขาได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่กลับต้องช้าลง เพราะปฏิเสธความช่วยเหลือและแนวทางที่เหมาะสม ซึ่งในการทำธุรกิจก็มักมีผู้ประกอบการไม่น้อยที่ปฏิเสธคำแนะนำที่ดีจากสมาชิกในทีมที่มีประสบการณ์หรือมีความรู้มากกว่า จนทำให้ธุรกิจที่เป็นอยู่ขาดการพัฒนา ไปจนถึงขาดความร่วมมือในการทำงานเพียงเพราะความไม่ไว้วางใจ จนทำให้ความคืบหน้าของการประสบความสำเร็จนั้นช้าลงไปด้วย
 


 
  1. ความขี้ขลาด

     ในขณะที่ความกลัวและความล้มเหลวหรือความตายนั้นหยุดยั้งความก้าวหน้าในอนาคต ความขี้ขลาดก็ทำให้นักปีนเขาและผู้นำธุรกิจหลายคนติดอยู่ในสถานที่เดิมๆ หรือที่หลายคนรู้จักอย่างคำว่า “Safe Zone” ของตัวเอง จนทำให้หลายๆ คนที่ไม่กล้าที่จะยอมรับความผิดพลาดหรือรับฟังคำติหรือวิจารณ์จากผู้อื่น จนไม่รู้สิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั้นจะทำให้เกิดความล้มเหลวในอนาคตถ้ายังไม่เกิดการเปลี่ยนที่ดีขึ้น แน่นอนว่าวิธีแก้ปัญหาที่สำคัญ คือการพัฒนาความกล้าหาญทั้งของผู้นำและลูกทีมทั้งหมด ด้วยการทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาและยอมรับปัญหาที่เกิดขึ้นไปพร้อมกับการแก้ไข
 
  1. ความเสี่ยงที่เกิดขึ้น อาจนำไปสู่การพัฒนา

     การเดินทางของนักปีนเขาหรือการพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการอาจจะไม่ใช่หนทางเดินที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ดังนั้นการวางแผนเพื่อรองรับความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้เป็นสิ่งที่ควรจะทำ ผู้ประกอบการจึงต้องเข้มแข็งและอดทนในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเดินทาง หลายๆ คนจะบอกว่าการก้าวถอยหลังอาจเป็นกลยุทธ์ที่จะนำไปสู่การตั้งต้นใหม่ แต่การเลือกที่จะก้าวเข้าสู่ความเสี่ยงที่มีการคำนวณแล้วว่ามีเปอร์เซ็นต์จะเกิดความเสียหายก็ถือว่าเป็นเป็นประสบการณ์ที่ดีและเป็นการเติบโตในการทำธุรกิจได้เช่นเดียวกัน
 


 
  1. แรงโน้มถ่วงของโลกกับปัญหาที่บางครั้งก็หลีกเลี่ยงไม่ได้

     ถึงแม้จะมีการวางแผนไว้อย่างรอบคอบแล้ว แต่บางครั้งก็อาจจะล้มเหลวได้เนื่องจากข้อผิดพลาดที่เป็นอุปสรรคใหม่ที่จู่ๆ ก็เข้ามาในโลกที่ขึ้นชื่อว่ามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งมีผู้ประกอบการหลายคนที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านั้นได้ ถึงคุณจะรู้สึกว่าทำอย่างเต็มที่และถูกต้องที่สุดแล้ว แต่ท้ายที่สุดแล้วคุณก็สามารถล้มเหลวได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ อาจทำให้หลายธุรกิจจำเป็นต้องปรับลดขนาดขององค์กรลง เช่น ลดจำนวนพนักงาน, ปรับลดเงินเดือนแล้วนำมาผ่อนจ่ายให้ทีหลัง ฯลฯ หลายสิ่งหลายอย่างเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่สุดท้ายบางครั้งก็ต้องยอมรับความจริง แก้ไขไปตามสถานการณ์ที่พอจะเป็นไปได้ และดีที่สุด
 

     เห็นไหมละว่า ระหว่างการเดินทางที่กว่าจะไปสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ได้นั้นมีความคล้ายคลึงกับการทำงานของผู้ประกอบการ SME จนสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จได้ไม่ต่างกัน เพราะไม่ว่าการปีนเขาหรือการทำธุรกิจต่างก็มีปัญหาหรืออุปสรรคที่ต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม คือ ความปลอดภัยทั้งของตนเองและผู้ร่วมเดินทางที่ทุกคนต้องเฝ้าระวังร่วมกัน เพราะความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อาจจะนำไปสู่ความล้มเหลวที่ใหญ่ยิ่งก็เป็นได้
 
 
ที่มา : www.flemingstrategic.com
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

พลังของ Introvert ! ศักยภาพเงียบที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม

Introvert ไม่ได้แค่ “อยู่เงียบๆ” แต่คือพลังสำคัญในโลกการทำงาน ทั้งคิดลึก ฟังเก่ง สร้างสรรค์ และนิ่งภายใต้แรงกดดัน มาดูกันว่าทำไมธุรกิจถึงไม่ควรมองข้ามพลังเงียบนี้

Quiet cracking เทรนด์ใหม่มนุษย์เงินเดือน เมื่อคนเก่งเริ่มหมดใจกับงานที่รัก

Quiet Cracking อาการแตกสลายแบบเงียบๆ ของคนรักงาน ที่ยังชื่นชอบในงานที่ทำอยู่ แต่เริ่มไปต่อไม่ไหว จากงานที่หนักเกินไป ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ เมื่อคนรักงาน หมดใจกับงานที่ทำอยู่ เราจะเยียวยาพวกเขายังไงดี อะไร คือต้นตอสาเหตุ ไปหาคำตอบกัน

Pet Friendly Workplace สูตรลับรักษาคนเก่ง ขององค์กรยุคใหม่

เมื่อก่อนใครพูดว่า “อยากพาน้องหมาน้องแมวมาทำงานด้วย” อาจโดนมองว่าแปลก แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว เพราะหลายองค์กรทั่วโลกหันมาจริงจังกับ Pet Friendly Workplace ซึ่งช่วยลดอัตราการลาออก และรักษาคนเก่งให้อยู่ในองค์กร