อยากโตไม่สะดุด! ต้องเพิ่มระดับความใกล้ชิด ทำธุรกิจให้เหมือนสร้างครอบครัว

TEXT : นิตยา สุเรียมมา

 

 

Main Idea
 
 
  • ถ้าเปรียบการสร้างองค์กรธุรกิจขึ้นมา จะว่าไปก็เหมือนการสร้างครอบครัวขึ้นมาครอบครัวหนึ่ง ที่มีเจ้าของกิจการเป็นเหมือนหัวหน้าครอบครัว และคนในองค์กรก็เปรียบประหนึ่งสมาชิกในครอบครัวนั้น
 
  • ซึ่งหากองค์กรใดก็ตามสามารถสร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง ดูแลสมาชิกทุกคนให้มีความสุขได้ องค์กรนั้นก็ย่อมเกิดความเป็นปึกแผ่น มั่นคง เพราะมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจากทุกคนในครอบครัวเป็นแรงผลักดันให้ผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคต่างๆ ไปได้นั่นเอง
               
 


     คำว่า “ครอบครัว” ไม่ได้หมายถึงเฉพาะแต่พ่อ แม่ ลูก ปู่ ย่า ตา ยาย หรือญาติพี่น้องเท่านั้น ทว่าครอบครัวมีความหมายที่แสนอบอุ่น เป็นแรงผลักดันให้เราสามารถก้าวข้ามอุปสรรค รวมถึงทำสิ่งต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จได้มากมาย ดังนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นสังคมหรือพื้นที่ใดก็ตามที่สามารถสร้างให้เกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแบบครอบครัวขึ้นมาได้ องค์กร หรือหน่วยธุรกิจนั้นๆ ก็ย่อมประสบความสำเร็จ สามารถดำเนินกิจการต่อเนื่องไปในระยะยาวได้ แม้ต้องผ่านมรสุมลูกแล้วลูกเล่าที่เข้ามาถาโถมก็ตาม


     แต่จะทำอย่างไรถึงจะสร้างความเป็นครอบครัวให้เกิดขึ้นในธุรกิจได้ ลองมาดูกัน
 



 
  • คัดเลือกบุคคลจากเครือข่าย
               
     เริ่มต้นด้วยวิธีคัดเลือกคนเข้ามาทำงาน ในที่นี้นอกจากการประกาศรับสมัครทั่วไปแล้ว หากเป็นไปได้ถ้าเราสามารถรับสมัครบุคคลโดยเริ่มจากคนใกล้ตัวก่อน เช่น จากเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง คนรู้จักของพนักงานเอง นอกจากเป็นการช่วยสแกนความน่าเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งแล้ว ยังมีข้อดีอีกหลายๆ ด้านตามมาด้วย อาทิ การเข้ากันได้ดีระหว่างสังคมในองค์กร อยู่แล้วมีความสุข ความจงรักภักดีต่อองค์กร ไม่ลาออกง่ายๆ ซึ่งหากเราสามารถขยายฐานธุรกิจออกไปในรูปแบบนี้ได้ ก็จะทำให้องค์กรนั้นเกิดความมั่นคง พนักงานมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้
 



 
  • สร้างครอบครัวด้วยวัฒนธรรมองค์กร               

     อันดับต่อมาการจะสร้างความเป็นครอบครัวให้เกิดขึ้นในองค์กรธุรกิจได้ นอกจากการคัดเลือกคนที่มีสังคมวัฒนธรรม ความชื่นชอบ และความเชื่อที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือเข้ากันได้ดีแล้ว ธุรกิจควรสร้างให้เกิดความรู้สึกถึงความเป็นครอบครัวของตัวเองขึ้นมาด้วย ด้วยการสร้างกฎระเบียบ วัฒนธรรมองค์กรขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนในครอบครัว ซึ่งก็คือ พนักงานสามารถเข้าใจและรับรู้ตัวตนของครอบครัวที่เขาอยู่อาศัยได้ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข มีความรักใคร่กลมเกลียว สามัคคีกัน





     นอกจากการสร้างวัฒนธรรมองค์กร เพื่อให้เป็นแนวทางปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกันแล้ว ความเห็นอกเห็นใจกัน ดูแลห่วงใย จริงใจ เหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกันจริงๆ ก็เป็นอีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยมัดใจสร้างความผูกพันระหว่างพนักงาน องค์กร และเจ้าของกิจการให้เกิดขึ้นได้ ซึ่งแน่นอนหากได้ใจกันไปเต็มๆ แล้ว ปัญหาอุปสรรคใดผ่านเข้ามา พวกเขาเหล่านั้นก็ย่อมจะไม่มีวันทิ้งบริษัทที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของพวกเขา จนทำให้ทุกอย่างสามารถผ่านพ้นไปได้ดีในที่สุด
 

  • ให้ความมั่นใจ สร้างโอกาสก้าวหน้าในชีวิต
               
     แน่นอนว่าในเมื่อเราพยายามสร้างองค์กรขึ้นมาให้เป็นปึกแผ่นเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว การดูแลสมาชิกในครอบครัวให้มีความสุข มีหน้าที่การงานที่ดี ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เพราะเมื่อใดก็ตามเมื่อคนในครอบครัว ซึ่งเป็นเหมือนองค์ประกอบหลายส่วนมารวมกันอยู่ดีมีสุขแล้ว องค์กรซึ่งเป็นเสมือนบ้านและครอบครัว ก็ย่อมได้รับผลดีไปด้วย ไม่ว่าจะการทุ่มเทแรงใจแรงกาย การจงรักภักดี หรือการพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆ โปรดจงจำไว้ว่าเมื่อพนักงานดีพนักงานเก่ง บริษัทก็ย่อมดีไปด้วย ดังนั้นการให้โอกาสจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ทั้งคู่ ทั้งคนและองค์กรสามารถเติบโต อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไปได้แบบยาวๆ นั่นเอง
 
          

     

     SME ที่อยากให้ธุรกิจเติบโตไม่สะดุด และอบอุ่นเหมือนครอบครัว ก็สามารถนำแนวทางนี้ไปใช้ได้ ไม่แน่ว่าในภาวะวิกฤตเช่นนี้ คุณอาจข้ามผ่านมันไปได้ เพราะความเข้มแข็งของสมาชิกในครอบครัวที่คุณมีนั่นเอง
 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

มัดรวม 8 กฎตัวเลข เปลี่ยนพฤติกรรม ทางลัดสู่ความสำเร็จ !!

การจะทิ้งพฤติกรรมเดิมทั้งหมดในระยะเวลาอันสั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ยากเกินไป และง่ายต่อการล้มเลิกกลางทาง จะดีกว่าไหมถ้าค่อยๆ พัฒนาทีละนิดอย่างต่อเนื่อง และนี่คือ 8 กฎพัฒนาตนเอง ที่จะช่วยสร้างพฤติกรรมใหม่ให้เป็นคนเดิมที่ดีกว่าเดิม

หยิบหลักคิด “Panda Parenting” เลี้ยงลูกน้องให้เติบโตแบบแพนด้า สร้างคนเก่ง คนกล้าให้อยู่คู่องค์กร  

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมแพนด้าถึงไม่สูญพันธุ์ นั่นอาจจะไม่ใช่เพราะโชคช่วยเพียงอย่างเดียว แต่เพราะทุกอย่างนั้นอยู่ในสายตาของ “พ่อแม่”  เราเลยชวนมาถอดวิธีเลี้ยงลูกแบบหมีขาว-ดำ สู่การพัฒนาลูกน้องในองค์กรให้เติบโตอย่างเข้มแข็งกันบ้างดีกว่า  

เช็คก่อนสาย! 9 สัญญาเตือนที่บ่งบอกว่าคุณคือผู้นำสุดอันตราย

Toxic Leadership หรือผู้นำที่แสดงพฤติกรรมในเชิงลบ มักจะทำให้บรรยากาศการทำงานเป็นพิษ จนทำให้พนักงานรู้สึกไม่มีความสุข สุขภาพจิตใจแย่ และประสิทธิภาพในการทำงานลดลง  แล้วมีสัญญาณอะไรที่บ่งบอกถึงผู้นำที่ Toxic บ้าง ไปดูกัน