6 ภาษาในโลกธุรกิจ ที่ CEO ไม่ควรตกเทรนด์

 



เรื่อง : เจษฎา ปุรินทวรกุล

    ขยับเข้ามาใกล้ทีละก้าวกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ซึ่งผู้ประกอบการต้องมีความพร้อมเพิ่มขึ้นในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของภาษาเพื่อการสื่อสาร การค้า และทำธุรกิจ สำหรับร้านค้าเล็กๆ นั้นยังไม่เท่าไหร่ ยังพอกดเครื่องคิดเลขบอกราคาได้ หรือยังพอใช้ภาษามือบอกใบ้ได้ แต่ถ้าเป็นในเชิงธุรกิจ การค้าการลงทุน การร่วมทุน คงต้องบอกว่ายิ่งคุณมีความรู้ด้านภาษามากเท่าไหร่ ยิ่งมีความได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น บางคนอาจบอกว่าจ้างล่ามเอาก็ได้ แต่คุณคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่เราเป็นหัวหน้าองค์กร เป็นผู้นำองค์กร การมีความรู้ด้วยตัวเอง เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจและสร้างความนับถือให้กับลูกน้องได้เป็นอย่างดี.

    พูดถึงเรื่องภาษาขึ้นมา คงต้องยอมรับว่าภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาที่ต้องรู้ในโลกยุคปัจจุบัน ส่วนการก้าวเข้ามาของ AEC เราอาจต้องเรียนรู้ภาษาของเพื่อนบ้านที่ต้องการจะค้าขายหรือทำธุรกิจเอาไว้บ้าง แต่ถ้าคุณมองไปถึงตลาดโลก Ofer Shoshan ซีอีโอแห่งบริษัท One Hour Translation  บริษัทที่รับแปลงานผ่านระบบออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก (และยังติดต่อกับบริษัทข้าม

ชาติอีกมากมายนับไม่ถ้วน) ได้มีข้อแนะนำเรื่องการเรียนรู้ภาษาอื่นๆ เพิ่มเติมจากประสบการณ์การทำธุรกิจของเขามาแนะนำให้กับเหล่า CEO ที่มักมีโอกาสไปเจรจาธุรกิจกับบริษัทต่างชาติ ดังนี้

    1. ภาษาสเปน สำหรับภาษาสเปนนั้นเป็นภาษาที่หน่วยงานแปลออนไลน์แห่งบริษัท One Hour Translation   ทำงานด้วยมากที่สุด สะท้อนให้เห็นถึงตลาดขนาดใหญ่ทางแถบยุโรปที่ยังเปิดกว้างอยู่ ตั้งแต่ตอนกลางและตอนใต้ของอเมริกา กลุ่มที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างเม็กซิโก อาร์เจนตินา ชิลี เปรู โคลอมเบีย และเวเนซุเอลา รวมถึงตลาดในประเทศสเปนเองด้วย ซึ่งรวมแล้วมีการประเมินมูลค่าของตลาดของผู้ที่พูดภาษาสเปนได้เอาไว้สูงถึง ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

    2. ภาษาโปรตุเกส จริงๆ แล้วภาษาโปรตุเกส มาแรงเป็นอันดับ 4 ในการทำงานของบริษัทของ Ofer Shoshan แต่ที่ต้องแนะนำเป็นอันดับ 2 เนื่องจากมีแนวโน้มการติดต่องานแปลภาษาโปรตุเกสเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่บอกก่อนนะ ว่าพวกเขาควรจับตาไปที่ประเทศบราซิล ซึ่งใช้ภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาราชการ โดยประเทศบราซิล เป็นตลาดเกิดใหม่ที่ค่อนข้างน่าสนใจ มีประชากรสูงถึง 200 ล้านคน มีทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมาก และระดับเทคโนโลยีที่เติบโตขึ้นทีละนิด การเรียนภาษาโปรตุเกสจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการมาบุกเบิกบราซิลและโปรตุเกสอย่างแท้จริง

    3. ภาษาจีน ด้วยจำนวนประชากรกว่า 1,300 ล้านคน และยังเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับต้นๆ ของโลก ภาษาจีนจึงเป็นภาษาที่ควรค่าต่อการศึกษาเรียนรู้ แต่ภาษาจีนเองก็มีความแตกต่างกันมากกว่า 10 กลุ่มภาษา อย่างไรก็ตามภาษาจีนแมนดาริน เป็นภาษาจีนกลางที่มีคนใช้ทั่วโลกถึง 1 ใน 5 ซึ่งนับได้ว่าเป็นภาษาที่มีผู้ใช้มากที่สุด ส่วนภาษาจีนกลุ่มอื่นๆ ที่เหลือจะมีผู้ใช้รวมแล้วไม่กี่ร้อยล้านคน

    4. ภาษารัสเซีย ตลาดของผู้ที่สามารถพูดภาษารัสเซียได้ มีมากถึงเกือบ 150 ล้านคน ซึ่งทรัพยากรภายในประเทศรัสเซียนั้นมีค่อนข้างสูง แถมด้านเทคโนโลยีก็มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา และสำหรับผู้ที่เข้าไปทำธุรกิจหรือเจรจาธุรกิจกับชาวรัสเซีย หากคุณสามารถพูดภาษารัสเซียได้ก็จะได้เปรียบเพราะสามารถเอาชนะใจชาวรัสเซียได้แล้วก้าวหนึ่ง

    5. ภาษาอาหรับ ประชากรกว่า 100 ล้านคนทั่วโลกสามารถพูดภาษาอาหรับได้ ที่สำคัญภาษาอาหรับกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์ จึงนับเป็นอีกหนึ่งภาษาที่น่าจับตามอง นอกจากนั้น ผู้บริหารที่พูดภาษาอาหรับได้ส่วนใหญ่กำลังเริ่มไปขยายการลงทุนตามพื้นที่ต่างๆ ของโลกแล้ว แต่ข้อเสียของการเรียนภาษาอาหรับจะคล้ายกับภาษาจีนคือ มีสำเนียงย่อยมากกว่า 20 สำเนียง จึงต้องเรียนรู้ให้ดีก่อนที่จะศึกษา

    6. ภาษาเยอรมัน สุดท้ายคือภาษาเยอรมัน ซึ่งทางบริษัท One Hour Translation  รับจ้างแปลงานภาษานี้มากเป็นอันดับ 2 ประกอบกับความเป็นจริงที่ว่าประเทศเยอรมันมีสถานภาพทางเศรษฐกิจแข็งแกร่งมากๆ ประเทศหนึ่งในโลก ทั้งนี้ การลงทุนเรียนภาษาต่างประเทศ อาจต้องลงทุนด้วยเวลาและความพยายามอย่างมหาศาล แต่เพียงแค่เราสามารถพูดภาษาท้องถิ่นของคู่เจรจาธุรกิจในประเทศนั้นๆ ได้ อุปสรรคที่เป็นกำแพงขวางกั้นก็พร้อมที่จะพังทลายลงแล้วละ
            
    เรื่องภาษาที่เลือกมานั้น อาจค้านสายตากรรมการที่เป็นคนไทยอย่างเราๆ ไปบ้าง เพราะหากถามคนไทย ภาษาญี่ปุ่น จีน เกาหลี คงติดโผในอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน แต่ความสำคัญจริงๆ ของเรื่องราวนี้อยู่ตรงที่ โอกาสในการขยายธุรกิจจะสูงขึ้น หากคุณมีทักษะด้านภาษามากกว่า 2 ภาษาขึ้นไป ส่วนจะเลือกเรียนภาษาใดเพิ่ม ก็ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ และการมองตลาดที่จะไปลงทุนของผู้นำองค์กรนั้นๆ ด้วย         

RECCOMMEND: MANAGEMENT

Quiet Quitting เวอร์ชั่นใหม่จากจีน! ประท้วงแบบใหม่ แบบสับ แห่แต่งชุดไม่เหมาะสมไปทำงาน เรียกร้องสวัสดิภาพที่ดี

“Quiet Quitting” หรือ “การลาออกเงียบ” เทรนด์การทำงานของคนยุคนี้ที่มีการพูดถึงกันมากเมื่อช่วง 2 ปีก่อน ล่าสุดคนรุ่นใหม่ หรือ คน Gen Z ต่างหันมาแต่งตัวไปทำงานด้วยชุดที่ไม่เหมาะสม เช่น การสวมชุดที่ดูคล้ายชุดนอนมาทำงาน, การแต่งกายด้วยชุดเวอร์วัง อย่างเสื้อคลุมขนสัตว์ที่ดูรุ่มร่าม เป็นต้น โดยมองว่าไม่ได้ทำผิดกฎอะไร แค่อยากแสดงออกเชิงสัญญาลักษณ์เฉยๆ

ไม่อยากเจ๊งต้องอ่าน รวมทางออกให้ธุรกิจไปต่อ ยามเจอวิกฤตเศรษฐกิจเลวร้าย

ความท้าทายไม่เคยขาดหายไปสำหรับผู้ประกอบการ SME ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเศรษฐกิจถดถอย แต่ทุกปัญหาล้วนมีทางออกเสมอสำหรับผู้ที่มีวิสัยทัศน์และยืนหยัดด้วยปรัชญาที่ถูกต้อง

5 หนังครอบครัวฟีลกู้ด ที่คนทำธุรกิจควรดู

เพราะครอบครัว คือ รากฐานสำคัญของทุกอย่าง หลายธุรกิจแจ้งเกิดเติบโตประสบความสำเร็จได้  เนื่องในวันครอบครัว 14 เมษายนนี้ เลยอยากชวนมาดู 5 หนังเรื่องราวธุรกิจที่มีความอบอุ่นของครอบครัวเป็นแรงผลักดันจนสำเร็จมาฝากกัน