ฮวงจุ้ยโต๊ะเก็บเงิน ตั้งตรงไหน? ถึงจะรับทรัพย์สูงสุด

TEXT : กองบรรณาธิการ

 

     ถึงแม้จะพิสูจน์ให้เห็นไม่ได้ว่ามีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าศาสตร์ความเชื่อด้านฮวงจุ้ยก็ค่อนข้างมีอิทธิพลมากต่อองค์กรธุรกิจหลายแห่งไม่ว่าขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่หลักพันล้าน ซึ่งเคยมีหลายคนบอกว่าการจัดวางฮวงจุ้ยที่ดีบางครั้งก็ไม่ได้มีแต่เรื่องความเชื่อเสมอไป แต่ยังมีผลต่อประโยชน์การใช้งานและพื้นที่ความเป็นอยู่ที่ดีด้วย เช่น หากจัดวางฮวงจุ้ยร้านที่ดีจะช่วยให้ค้าขายดีขึ้น แต่ความจริงแล้ว คือ อาจเป็นการปรับพื้นที่ให้สินค้าดูโดดเด่นขึ้น หยิบซื้อได้ง่ายขึ้น จึงทำให้ยอดขายดีขึ้นเงินทองไหลมาเทมาตามหลักที่ฮวงจุ้ยว่าไว้

     ในวันนี้เราจึงขอนำเสนอหนึ่งในฮวงจุ้ยสำคัญสำหรับร้านค้าต่างๆ ซึ่งก็คือ การจัดวางฮวงจุ้ยโต๊ะเก็บเงิน หรือพื้นที่รับทรัพย์นั่นเอง โดยควรมีข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้

มองเห็นประตูหน้าร้านได้สะดวก

     ข้อแรกของฮวงจุ้ยโต๊ะเก็บเงินที่ดี คือ ตัวเคาน์เตอร์นั้นควรตั้งอยู่ในตำแหน่งที่พนักงานคิดเงินสามารถมองเห็นประตูหน้าร้านได้ และต้องไม่หันหลังให้ประตูทางเข้า เหตุผล คือ เพื่อที่จะได้มองเห็นลูกค้าเข้าออกได้อย่างชัดเจน และทำหน้าที่ เป็นเสมือด่านแรกที่ได้ทำการทักทายกับลูกค้าด้วย หรือหากลูกค้ามีอะไรให้ช่วยเหลือก็สามารถแจ้งพนักงานอื่นๆ ให้ทำการช่วยเหลือได้

ไม่ตั้งอยู่ตรงกับประตูทางเข้าตรงๆ

     ถึงจะอยู่ในตำแหน่งมองเห็นประตูหน้าร้านได้สะดวก แต่ก็ไม่ใช่ว่าควรอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งตรงกับประตูทางเข้าตรงๆ เลย โดยอาจอยู่เยื้องมาสักหน่อย เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจเกินไปของใครผ่านไปผ่านมา ซึ่งเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัยนั่นเอง

ควรอยู่ในตำแหน่งสุดท้ายก่อนลูกค้าออกจากร้าน

     เนื่องจากโต๊ะเก็บเงิน คือ จุดที่สำคัญคอยเก็บเงินเข้าร้าน ดังนั้นควรวางอยู่ในตำแหน่งสุดท้ายก่อนที่ลูกค้าออกจากร้าน เพื่อให้ลูกค้าจ่ายชำระเงินค่าสินค้าและบริหาร และเป็นการช่วยสอดส่องดูแลลูกค้า เพื่อป้องกันการโกงหรือทุจริตได้ด้วยว่าก่อนออกจากร้านลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการดังกล่าวได้ชำระค่าสินค้าและบริการให้กับทางร้านแล้วหรือยัง หรือในกรณีที่จัดเป็นบุฟเฟ่ต์ลูกค้าเข้ามาใช้บริการจำนวนเท่าไหร่ตรงตามที่แจ้งไว้หรือไม่ มีบุคคลที่ได้รับการยกเว้นค่าบริการหรือเปล่า เช่น เด็กเล็ก เป็นต้น

ด้านหลังควรเป็นผนังทึบ หรือพนักพิงสูง

     ตำแหน่งวางโต๊ะเก็บเงินที่ดีอีกอย่างหนึ่ง คือ ด้านหลังควรเป็นผนังทึบหรือพนักพิงที่สูง โดยตามหลักฮวงจุ้ยแล้วอาจหมายถึงพลังความมั่นคง แต่ตามหลักการใช้งานจริงแล้วนั่นหมายถึงความปลอดภัยด้วย เมื่อพนักงานต้องหันหลัง จึงไม่สามารถระวังได้อย่างเต็มที่การสร้างป้อมปราการที่ดีกันไว้ อย่างน้อยๆ ก็ช่วยลดความเสี่ยง และปิดช่องว่างการโจรกรรมลักทรัพย์ได้ทางหนึ่ง เพราะอย่างน้อยๆ ก็ไม่สามารถเข้าจากด้านหลังได้

ไม่ตั้งอยู่ใต้คาน หรือใต้บันได

     โดยตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะทำให้เกิดการกดทับเงินทองไม่เคลื่อนไหว แต่ในความรู้สึกจริงๆ แล้วอาจสร้างความรู้สึกอึดอัดจากเส้นที่อยู่ด้านบนให้กับพนักงานหรือผู้ทำหน้าที่เก็บเงินได้ หรือหากตั้งอยู่ใต้บันได เนื่องจากพนักงานคิดเงินต้องค่อนข้างใช้สมาธิในการเก็บเงินลูกค้าพอสมควร หากมีอะไรมากวนใจ เช่น คนเดินผ่านไปมาส่งเสียงรบกวนอาจทำให้มีการคิดเงินผิดหรือทอนเงินผิดได้ ดังนั้นด้านบนของเคาน์เตอร์ควรตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งจะดีกว่า

ไม่อยู่ใกล้ห้องน้ำหรือติดกับห้องน้ำ

     ในทางหลักฮวงจุ้ย ถือว่าห้องน้ำ คือ สิ่งอัปมงคล เป็นที่ถ่ายของเสีย ดังนั้นจึงไม่นิยมตั้งโต๊ะเก็บเงินไว้ใกล้ห้องน้ำ ซึ่งหากมองในเชิงภาพลักษณ์แล้ว ก็คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่เราจะวางตำแหน่งสำคัญที่เป็นหนึ่งในหัวใจของร้านไว้ใกล้กับห้องน้ำที่อาจดูไม่ค่อยโสภาสักเท่าไหร่ ทั้งเรื่องกลิ่น คนเข้าคนออกบ่อย ดังนั้นหากร้านค้าใดจำเป็นต้องวางเคาน์เตอร์เก็บเงินไว้ใกล้กับห้องน้ำจริงๆ ควรหาฉากมากั้น แบ่งโซนสัดส่วนให้ชัดเจน ก็น่าจะพอช่วยปรับเปลี่ยนฮวงจุ้ยหรือทำเลให้ได้

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MANAGEMENT

Sequence quotient รู้ว่าต้องทำอะไรก่อน-หลัง เทคนิคผู้บริหารต้องรู้อยากให้ธุรกิจโต

ในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดกระแสดราม่าที่ร้อนแรงขึ้นกับคอนเทนต์ของคุณ CK Cheong (ซีเค เจิง) CEO ของ FASTWORK เรื่อง “มุมมองการบริหารเวลา แนะ ต้นทุนชีวิตไม่เท่ากัน แต่ทุกคนมีเวลาเท่ากัน”

มัดรวม 5 ไอเดียประหยัดต้นทุนธุรกิจโรงแรมไซส์เล็ก

ฤดูร้อนมาเยือนแล้ว เป็นอีกหนึ่งไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวฟากฝั่งทะเล จะทำยังไงให้มีรายได้เยอะขึ้น นอกจากการหาลูกค้าเพิ่ม การช่วยลดต้นทุนก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ โดยเฉพาะโรงแรมขนาดเล็กที่ไม่ได้มีเงินทุนมากมาย วันนี้เลยอยากชวนมาลดต้นทุนธุรกิจกับ 5 ไอเดียประหยัดต้นทุนโรงแรมไซส์เล็กกัน

รู้ก่อนเจ๊ง ความปลอดภัยทางไซเบอร์กับอนาคตธุรกิจ 40% ของเป้าหมายอาชญากรรมไซเบอร์ คือ SME

จากข้อมูลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย พบว่า การโจมตีทางไซเบอร์ต่อ SME เพิ่มขึ้น 35% โดยที่ 40% ของเป้าหมายอาชญากรรมไซเบอร์ทั้งหมดในประเทศคือ SME