Text : Surangrak Su.
ถ้าให้ลองค้นกระเป๋าคนไทยสัก 10 คน เชื่อว่าต้องมีอย่างน้อย 2-3 คน ที่พกยาดมติดตัวไว้แน่นอน!
ถ้าเปรียบมือถือเป็นอวัยวะที่ 33 ของคนยุคนี้ ที่ต้องพกติดตัวไว้ไม่ขาด “ยาดม” ก็คือ อีกไอเทมฮิตคู่กายคนไทยเหมือนกัน จากคนรุ่นก่อนที่ใช้ดม เพื่อเพิ่มความสดชื่น แก้วิงเวียนศีรษะ จนวันเวลาผ่านไปหลายสิบปีสู่คนรุ่นใหม่ ยาดมก็ยังคงเป็นสินค้าที่นิยมใช้กันแพร่หลาย โดยเฉพาะกับยาดมสมุนไพร
มีรายงานวิจัยออกมาว่า ในแต่ละปีตลาดยาดมไทยมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,500 ล้านบาทต่อปี และยังคงเติบโตต่อเนื่อง 10–15% จากประชากรทั้งหมดมีคนไทยใช้ยาดมประมาณ 10% และใน 1 เดือนใช้อย่างน้อย 2 หลอด (ข้อมูลจาก Nielsen) แถมยังขยายออกสู่ตลาดโลก จากกระแสศิลปินคนดังนำมาใช้ จนกลายเป็นสินค้า Soft Power ของไทยอีกตัวไปโดยปริยาย
พอเป็นไอเทมฮิต ต้องใช้เป็นประจำทุกวัน จะให้ใช้แต่ขวดยาดมสีเขียว, เหลือง ฯลฯ ก็ดูจะธรรมดาเกินไป จนเป็นที่มาของอาชีพรับทำ “เคสยาดมแฮนด์เมด” ขึ้นมา เพื่อเพิ่มสีสัน และความ Personal แบบไม่ซ้ำใคร
ที่ผ่านมาอาจเคยเห็นเป็นรูปการ์ตูนน่ารักๆ กันบ้าง แต่ล่าสุดกลับพบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC
เจ้าของผลงาน ไม่ใช่ใคร แต่คือ “Case.dinthai.yummy” เจ้าของคอนเซปต์ “เคสดินไทยเห็นแล้วหิว” ที่เคยโด่งดังจากการนำดินไทยมาปั้นเป็นสารพัดเมนูอาหารบนเคสมือถือมาแล้ว โดยเมื่อเห็นว่าเป็นอีกไอเทมฮิตของคนไทยที่นิยมใช้กัน จึงหันมาทำเคสยาดมเพิ่มขึ้นมา
นอกจากจะรังสรรค์หน้าตาเคสยาดมออกมาได้อย่างน่ากิน..เอ้ย! น่าสนใจแล้ว การนำเสนอก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มีการเขียนสโลแกนกวนๆ ของเคสแต่ละแบบ อาทิ “มาม่า ฉบับสิ้นเดือน ดมแทนข้าว”, “ส้มตำ ฉบับคนแซ่บ ดมให้หลอดลมสะดุ้ง” ใส่ลงไปด้วย โดยราคาอยู่ที่ชิ้นละ 260-300 บาท
จึงเรียกว่า เป็นเคสยาดมแบบไทยที่แท้ทรู นอกจากจะใช้ดมได้อย่างชื่นใจแล้ว ยังถูกใจคนรุ่นใหม่ด้วย ส่วนอนาคตจะมีเมนูอะไรออกมาให้ชมกันอีกนั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไป..แต่วันนี้จะลองเลือกไปใช้ก่อนสักเมนู ก็น่าสนใจไม่น้อย.
Cr : ภาพ Case.dinthai.yummy
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี