SME ต้องรู้!  เคล็ดลับทำให้ “แบรนด์ใหญ่อยาก Collab ด้วย

 

Text : Neung Cch.


    “ทุกวันนี้ Collaboration หรือการจับมือกับแบรนด์อื่น ไม่ใช่แค่กลยุทธ์ แต่คือ ทางลัด ที่ทำให้แบรนด์เล็กก้าวสู่สปอตไลต์ได้ในชั่วข้ามคืน

     แล้วแบรนด์เล็กจะทำอย่างไรให้แบรนด์ใหญ่หันมามองและยอม Collab ด้วย?

     SME Thailand จะพาไปดูกรณีศึกษาเด่นอย่าง Carnival เจ้าแห่ง Collaboration ได้ร่วมงานกับแบรนด์ดังกว่า 200 แบรนด์, Yolk ที่สร้างยอดขาย 100 ล้านบาทใน 8 เดือน และ ‘ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน’ ที่จับมือกับ ‘นักล่าหมูกระทะ’ พร้อมถอดกลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์เล็กเหล่านี้โดดเด่นในสายตาแบรนด์ใหญ่”

โปรไฟล์ต้องน่าเชื่อถือ

     จากร้านเล็กที่เริ่มต้นขาย Converse วันนี้ Carnival กลายเป็นมัลติแบรนด์สโตร์ขวัญใจคนรุ่นใหม่ และถูกขนานนามว่า “เจ้าแห่ง Collaboration” ของไทย เพราะใช้กลยุทธ์จับมือกับแบรนด์ดังเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนการเติบโต ทำให้ Carnival ร่วมงานกับแบรนด์ดังกว่า 200 แบรนด์ทั้งในประเทศและระดับโลก

     แนวคิดเบื้องหลังการ Collaboration ปิท-อนุพงษ์ เผยในรายการ การตลาดเงินล้าน ว่า คือ การสร้างโปรไฟล์ที่น่าเชื่อถือ และการเลือกพันธมิตรที่สนุกและอินร่วมกัน เป็นแบรนด์ที่ใช้งานจริง เช่น Imperial Leather แบรนด์สบู่กว่า 100 ปี หรือการเป็นแบรนด์ไทยรายแรกที่ได้ร่วมงานกับแฟชั่นยักษ์ H&M

    การร่วมงานกับแบรนด์เหล่านี้ ทำให้ลูกค้าตื่นเต้นและคาดหวังเสมอว่า ครั้งต่อไป Carnival จะร่วมมือกับใคร ออกคอลเลกชันอะไร

     แม้การทำงานร่วมกับแบรนด์ใหญ่จะเต็มไปด้วยข้อจำกัด เช่น การใช้โลโก้หรือคาแรกเตอร์ร่วมกัน แต่ Carnival พิสูจน์ว่า การผลักดันโปรเจกต์ให้เกิดขึ้นจริงภายใต้ข้อจำกัด สามารถสร้างผลงานที่แตกต่างและถูกจดจำได้

    ปิทยังเน้นย้ำว่า Collaboration ไม่ใช่เรื่องของยอดขายเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า แม้บางโปรเจกต์จะมีค่าใช้จ่ายสูงและแทบไม่เหลือกำไร ทีมก็ทำไปเพราะ แพชชั่นและความหลงใหล ซึ่งเป็นหัวใจที่ทำให้ Carnival แตกต่างและถูกพูดถึง

    บทเรียนจาก Carnival: การ Collaboration ไม่เคยง่าย โดยเฉพาะกับแบรนด์ระดับโลก แต่การกล้าที่จะสร้างโปรเจกต์ที่ตลาดไม่คาดคิด และเดินหน้าไปให้สุดทาง คือสิ่งที่ทำให้แบรนด์ถูกจดจำและสร้างความสนใจได้อย่างยั่งยืน

รู้จักตัวเองให้ดี และโฟกัสที่ลูกค้า

     “เรายังเล็กอยู่ ถ้าเราทำเอง ก็ไม่มีโอกาสขยายไปได้มากกว่านี้” – วิว-พันธ์ทิพย์ ดีเจริญ เจ้าของแบรนด์ ‘ฉันจะกินชาเย็นทุกวัน’

     การ Collab กับร้านอาหารใหญ่ ‘นักล่าหมูกระทะ’ สะท้อนว่า แบรนด์เล็กต้องรู้ข้อจำกัดของตัวเอง และหาทางก้าวข้ามมัน

     การจับมือกับแบรนด์ใหญ่ช่วยให้เข้าถึง ลูกค้าทั่วประเทศ และยังได้ข้อมูลเชิงลึก (Data) เป็นเข็มทิศนำทางธุรกิจ

กลยุทธ์: ก่อนหาพาร์ทเนอร์ แบรนด์เล็กต้องตอบคำถามพื้นฐาน

     - ลูกค้าของเราคือใคร?

     - ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์อะไรจากสินค้าเรา?

     ตัวอย่าง:

     - Nanyang x หมูเด้ง: รองเท้าแตะ ‘ใส่แล้วเด้งได้’

     - Chester’s x ชาตรามือ: เมนู ‘ไก่ & ฟรายส์ ชาไทยตรามือ’

     นี่คือการ ใช้จุดแข็งของแต่ละแบรนด์ มาผสานสร้างสินค้าที่แปลกใหม่และน่าสนใจ

สร้างรากฐานก่อนสร้างกระแส

     ไม่ว่าเทรนด์จะมาแรงแค่ไหน ถ้าสินค้าและแบรนด์ไม่มีรากฐานที่มั่นคง การ Collab ก็ไปได้ไม่ไกล อิน–สาริน รณเกียรติ เจ้าของแบรนด์ Yolk เล่าว่า แม้กระแสทาร์ตไข่ที่เคยฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองจะเริ่มซาลง แต่ Yolk ไม่ได้หวังพึ่งแค่กระแส กลยุทธ์ของแบรนด์คือการทำ Research การออกโปรเจกต์ใหม่อย่างต่อเนื่อง และการสร้างเรื่องราวผ่าน Collaboration ที่สดใหม่เสมอ

     ผลลัพธ์คือ Yolk ทำยอดขาย 100 ล้านบาทภายใน 8 เดือน เพราะมีจุดยืนชัดเจนในเรื่องคุณภาพและการสร้างนวัตกรรม ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แบรนด์ใหญ่เชื่อมั่นและพร้อมจะ Collab ด้วย

สูตร Collab ที่ SME ต้องจำ

     - โปรไฟล์ต้องน่าเชื่อถือ

     - รู้จักตัวเอง & โฟกัสลูกค้า

     - กล้าแตกต่าง

     - สร้างประสบการณ์มากกว่ายอดขาย

     - สร้างรากฐาน community ของตัวเอง

     ท้ายที่สุดแล้ว การ Collab ที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนคือการที่ทั้งสองแบรนด์ได้ใช้จุดแข็งของตัวเองมาเติมเต็มซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างคุณค่าที่ยิ่งใหญ่กว่าที่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งจะสร้างได้เพียงลำพัง

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เสื้อยืดไก่ทอดหาดใหญ่ แฟชั่นอร่อย ไอเดียขายเสื้อสุดครีเอท ใครเห็นก็อยากลองซื้อไปกิน เอ้ย! ลองใส่

ไอเดียเสื้อยืดลายไก่ทอดหาดใหญ่ ที่หยิบเอากระดาษห่อข้าวเหนียวไก่ทอด หมูทอด มาทำเป็นแพ็กเกจจิ้งสินค้า และเพิ่มความเหมือนอารมณ์ข้าวเหนียวไก่ทอดแท้ๆ ยิ่งเข้าไปอีก ด้วยการปริ้นกระดาษเป็นรูปห่อน้ำจิ้มติดเอาไว้ด้วย

ทำไมผู้ประกอบการไทยถึงสนใจลงทุน ธุรกิจร้านซักผ้าอัตโนมัติ 24 ชม. ไม่มีพนักงาน ไม่มีสต็อก แต่อยู่ได้ด้วยระบบอัตโนมัติ

ร้านซักผ้าหยอดเหรียญอัตโนมัติ เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมและถูกยกให้เป็น “อาชีพที่สอง” ที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นคือ ไม่ต้องมีสต็อกสินค้า ไม่ต้องกังวลเรื่องวันหมดอายุ ไม่ต้องบริหารพนักงาน และสามารถสร้างรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง

รู้จัก 4 พลังซื้อใหม่ ตัวเปลี่ยนเกมธุรกิจปี 2026 ที่ Hakuhodo เผยให้คุณรู้ก่อนใคร!  

เมื่อปี 2026 กำลังจะกลายเป็นสมรภูมิใหม่ของโลกธุรกิจ! แบรนด์ไหนที่ยังหลับใหลต้องรีบตื่น เพราะ 4 พลังซื้อใหม่ กำลังจะเปลี่ยนเกมการตลาดแบบไม่ทันตั้งตัว มาฟังเฉลยจาก อรุณโรจน์ เหล่าเจริญวงศ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย)