เทรนด์ Emotional Spending โอกาสทองธุรกิจ เมื่อคนลงทุนกับความสุขใจมากขึ้น

     เมื่อผู้บริโภคไทยเริ่มให้ความสำคัญกับ ความสุขใจมากกว่าสิ่งจำเป็น การใช้จ่ายเพื่อเติมเต็มชีวิต (Emotional Spending) กำลังกลายเป็น โอกาสทองของธุรกิจ

     ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ ที่สร้างพื้นที่สงบใจ, สัตว์เลี้ยง ที่กลายเป็นสมาชิกครอบครัว, หรือ กีฬาและเวลเนส ที่เติมพลังชีวิต ตลาดเหล่านี้เติบโตต่อเนื่องและสร้างมูลค่าเชิงสังคมชัดเจน ผู้ประกอบการที่เข้าใจเทรนด์นี้ มีโอกาสสร้างรายได้และความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง              

หนังสือ: อ่านเพื่อเติมใจ พื้นที่สงบในโลกที่วุ่นวาย

     แม้โลกดิจิทัลจะเต็มไปด้วยคอนเทนต์สั้นและรวดเร็ว เช่น TikTok หรือ Reels เข้ามามีบทบาท แต่การอ่านยังคงเป็นกิจกรรมที่คนไทยเลือกใช้เพื่อเยียวยาใจ เป็น “พื้นที่สงบใจ” ของคนยุคใหม่ ข้อมูลจากสมาคม ผู้จัดพิมพ์ฯ ปี 2567 ชี้ว่าคนไทยอ่านเฉลี่ย 113 นาทีต่อวัน สวนกระแสความเชื่อว่า “ไม่อ่านหนังสือ” ด้วยสาเหตุหลักคือ ช่องทางการเข้าถึงที่ง่ายและหลากหลายขึ้น  ไม่ว่าจะเป็น E-book Audiobook และกระแส “BookTok” ที่ทำให้หนังสือหลายเล่มกลับมาติดอันดับขายดี โดยเฉพาะแนวจิตวิทยา Self-Help และ Spirituality ที่ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพจิตในชีวิตประจำวัน

สัตว์เลี้ยง: เปย์เพื่อสมาชิกตัวน้อย สะท้อนโครงสร้างครอบครัวใหม่

     ด้วยโครงสร้างครอบครัวไทยเปลี่ยนไป ครัวเรือนเดี่ยวและคนโสดมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้ “สัตว์เลี้ยง” ก้าวขึ้นมาเป็นเพื่อนแท้ และสมาชิกครอบครัวที่เจ้าของพร้อมดูแลไม่ต่างจากคนในบ้าน ข้อมูลล่าสุดชี้ตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยปี 2568 มีมูลค่ารวมราว 9 หมื่นล้านบาท และยังเติบโตต่อเนื่องกว่า 10–13% ต่อปี โดยเจ้าของใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 50,000 บาท/ตัว/ปี ครอบคลุมตั้งแต่อาหาร ของเล่น บริการสุขภาพ และประกันสัตว์เลี้ยง กระแส “Pet Humanization” เจ้าของเลี้ยงสัตว์เสมือนลูก จึงเลือกอาหารพรีเมียม ของเล่นเสริมพัฒนาการ และบริการสุขภาพเฉพาะทาง “Petfluencer” สัตว์เลี้ยงจำนวนมากกลายเป็นดาราโซเชียล สร้างคอนเทนต์และมียอดผู้ติดตามหลักหมื่น–แสน เป็นส่วนผลักดันให้ตลาดสินค้าและบริการสัตว์เลี้ยงให้ก้าวสู่โลกดิจิทัล “บริการครบวงจร” ตั้งแต่ Pet hotel, Pet spa ไปจนถึงประกันสุขภาพสัตว์เลี้ยง เจ้าของยินดีลงทุนเพื่อให้มั่นใจว่าสัตว์เลี้ยงได้รับการดูแลระดับเดียวกับคน ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า การใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยงไม่ใช่เพียงค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอีกต่อไป แต่คือการลงทุนทางใจที่ตอบโจทย์ชีวิตคนยุคใหม่ที่เลือกอยู่เดี่ยว อยู่คู่ หรือสร้างครอบครัวเล็กที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นศูนย์กลาง

กีฬาและเวลเนส (Wellness): ลงทุนกับสุขภาพกายใจ สร้างพลังชีวิตใหม่

     การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์หลังโควิดทำให้คนไทยตระหนักว่าสุขภาพกายใจคือทุนชีวิตที่สำคัญ ตลาดเวลเนสและฟิตเนสในไทยได้รับแรงหนุนจาก 2 ปัจจัยใหญ่คือ “การเข้าถึงง่ายขึ้น” ฟิตเนสแบบรายเดือน คลาสออนไลน์ และ Wellness Retreat ที่เปิดกว้างให้คนทั่วไปเข้าร่วม “Mental Health Awareness” คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับสมาธิ การพักผ่อนเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) โยคะ เวิร์กช็อป Mindfulness โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่การออกกำลังกายไม่ใช่แค่เรื่องรูปร่าง แต่คือการเติมพลังใจ รวมไปถึง Run Club และ Community การวิ่งมาราธอน การปั่นจักรยาน หรือการเข้าร่วมคลับฟิตเนสเล็กๆ กลุ่มเหล่านี้เติบโตต่อเนื่องไม่เพียงสร้างพื้นที่ให้คนออกกำลังกายร่วมกัน แต่ยังช่วยเสริมพลังของแบรนด์ต่างๆ การสร้างกลุ่มที่เหนียวแน่น สะท้อนให้เห็นว่าการดูแลสุขภาพวันนี้ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมเดี่ยว แต่เป็นประสบการณ์ร่วมที่สร้างทั้งคุณค่าและมูลค่าในสังคม

     การขยายตัวของ “Emotional Spending” ในประเทศไทย ปี 2568 สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างสังคมและพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การอ่านหนังสือ ที่กลายเป็นพื้นที่พักใจและการพัฒนาตนเอง การดูแลสัตว์เลี้ยง ที่สะท้อนบทบาทของครอบครัวเดี่ยวและการเลี้ยงสัตว์เสมือนสมาชิกในบ้าน หรือ การออกกำลังกายและเวลเนส ที่ตอบโจทย์การลงทุนด้านสุขภาวะกายใจ ทั้งหมดนี้แม้จะเป็นตลาดที่มีสัดส่วนไม่ใหญ่เมื่อเทียบกับหมวดสินค้าจำเป็น แต่กลับมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องและมีคุณค่าเชิงสังคมที่ชัดเจน

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

Tiny Tattoo: เทรนด์ใหม่ที่สอนให้แบรนด์หรูคิดต่าง สิ่งเล็กๆ กำลังเปลี่ยนเกมตลาด Luxury

รอยสักขนาดจิ๋ว (tiny tattoo) และเส้นบาง (fine-line tattoo) ไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่เป็น “การลงทุนด้านรสนิยม” ที่อยู่กับเจ้าของตลอดชีวิต ส่งผลให้จำนวนผู้ทำงานในธุรกิจร้านสักสหรัฐฯ เพิ่มจาก 150,000 เป็น 180,000 (2020–2024)

นี่ไม่ใช่แท่งสี แต่คือไอเดีย มัทฉะบาร์ พร้อมทาน 6 เฉดสี เจ้าแรกของไทย

ที่เห็นเรียงเป็นแท่งๆ ไล่เฉดเขียวจนถึงน้ำตาลในกล่องนี้ ไม่ใช่พาเลตต์สีน้ำหรือแท่งสีแต่อย่างใด แต่คือ “มัทฉะบาร์”  

โอกาสชาไทย สู่เวทีโลก ในวิกฤต matcha ขาดตลาด

กระแสมัทฉะพุ่งแรงตั้งแต่ปี 2568 ขณะที่ปริมาณผลผลิตลดลงจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เกิดภาวะของขาดตลาดในหลายภูมิภาค สำหรับผู้ประกอบการไทย นี่คือโอกาสทอง