คุณมีโอกาสแค่ไหนกับการจับคู่ธุรกิจ






เรื่อง : ขวัญดวง แซ่เตีย


    ว่ากันว่าการทำธุรกิจในปัจจุบัน ไม่มีใครสามารถลุยเดี่ยวจนประสบความสำเร็จได้โดยขาดพันธมิตรทางธุรกิจ เหตุนี้จึงมีหลากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้องแข่งกันจัดงานนัดบอดทางธุรกิจ หรือที่คุ้นหูกันในชื่อ Business Matching ขึ้น

  แต่ใช่ว่าการเข้าร่วมกิจกรรมลักษณะนี้แล้วคุณจะได้คู่สมดังใจในทันที เพราะกิจกรรม Business Matching ผู้จัดทำได้เพียงแค่เป็นสื่อกลางในการนำผู้ประกอบการในแต่ละสาขาธุรกิจมาพบกันเท่านั้น ที่เหลือขึ้นอยู่กับทักษะของตัวผู้ประกอบการเองว่ามีมากพอหรือไม่ในการผูกสัมพันธ์ แบบทดสอบด้านล่างนี้ จะช่วยบอกให้รู้ว่าคุณมีทักษะมากแค่ไหน...

1. เมื่อต้องเปิดฉากสนทนาเพื่อผูกมิตรกับใครสักคนในงานประเภทนัดบอดผู้ประกอบการธุรกิจ หรือ Business Matching คุณจะเริ่มด้วย...

ก. เรื่องทั่วๆ ไป เช่น ดินฟ้าอากาศ กีฬา ภาพยนตร์ สัตว์เลี้ยง หรือเรื่องที่กำลังอยู่ในความสนใจทั่วไป
ข. พูดถึงงานของคุณ และบอกให้รู้ว่าคุณกำลังมองหาคู่ธุรกิจแบบไหนมาร่วมงานด้วย
ค. ถามถึงธุรกิจของเขา/เธอ หรือเหตุผลที่เขา/เธอมาเข้าร่วมกิจกรรมนัดบอดลักษณะนี้



2. ถ้าคุณรู้สึกอึดอัดใจที่จะเข้าไปพูดจาทักทายกับใครก่อน หรือรู้สึกไม่ถนัดที่จะผูกสัมพันธ์กับผู้คนในงาน คุณจะ...

ก. รอคอยใครสักคนเดินเข้ามาเอ่ยทักคุณก่อน
ข. ยอมรับกับคนที่เข้ามาคุยด้วยว่า คุณไม่ถนัดกับเรื่องอย่างนี้ แล้วขอให้เขาช่วยแนะนำเทคนิคในการทำความรู้จักกับใครสักคนให้คุณหน่อย
ค. เดินไปที่โต๊ะอาหารแล้วชวนคนแถวนั้นพูดคุยเกี่ยวกับรสชาติอาหารบนโต๊ะ


3. คนที่มีทักษะการสนทนาที่ดีในความคิดของคุณ คือ...

ก. ถามคำถามที่น่าสนใจกับคนอื่นๆ
ข. สามารถพูดคุยได้หลากหลายหัวข้อด้วยท่าทีที่เป็นธรรมชาติ
ค. เป็นผู้เริ่มบทสนทนาใหม่ทุกครั้งที่คนอื่นๆ หมดเรื่องที่จะพูดคุย


4. วิธีที่ดีที่สุดในการให้เกียรติบุคคลที่กำลังพูดอยู่ สำหรับคุณคือ...

ก. สรรเสริญเยินยอเขา/เธอ ในสิ่งที่เขา/เธอพูด
ข. เชิญชวนคู่สนทนาของคุณร่วมฟังในสิ่งที่เขา/เธอกำลังพูดถึง
ค. ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดี ออกท่าออกทางอย่างเหมาะสม และถามเป็นระยะๆ ในเรื่องที่เขา/เธอกำลังพูดถึง


5. ในการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมงาน Business Matching คุณจะ…

ก. ติดตามสถานการณ์ที่กำลังเป็นที่สนใจของผู้คนในปัจจุบัน, สถานการณ์โลก, แนวโน้มทางธุรกิจใหม่ๆ และศิลปะการบริหารงาน หรือแนวคิดใหม่ๆ ในการเป็นผู้นำ
ข. ขอรายชื่อ และข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับงานกับผู้จัดล่วงหน้า
ค. นำเอาสมุดโน้ต ปากกา หรือไอแพดติดมือไปด้วย เพื่อใช้สำหรับจดรายละเอียดการติดต่อ หรือตารางการนัดหมาย


6. ถ้ารู้สึกว่าคนที่คุณกำลังคุยอยู่ด้วย มีศักยภาพไม่ตรง หรือไม่มีศักยภาพในการร่วมธุรกิจด้วย คุณจะ...

ก. กล่าวขอตัวอย่างสุภาพ แล้วปลีกตัวไปพูดคุยกับคนอื่นต่อ
ข. บอกตัวเองว่า อย่าด่วนตัดสินใครเร็วจนเกินไป
ค. พูดคุยกับเขา/เธอ ต่อไป แต่พยายามดึงคนอื่นเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยเพื่อเปิดโอกาสให้ได้พูดคุยกับคนใหม่

    
7. เมื่อพบกับคนที่คุณคิดว่าน่าร่วมธุรกิจด้วยแล้ว แต่อยากมีเวลาพูดคุยกับคนที่คิดว่าใช่นานกว่านี้หน่อยเพื่อให้มั่นใจมากขึ้น คุณจะ...

ก. ชวนเขา/เธอหลบออกไปพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวที่ร้านอาหาร หรือห้องเจรจาเพื่อพูดคุยถึงโอกาสทางธุรกิจในการร่วมงานกัน
ข. นัดพบกับเขา/เธออีกทีในวันหลัง
ค. ขอนามบัตรของเขา/เธอ และขออนุญาตโทรศัทพ์ไปนัดพบอีกครั้งในเวลาที่คุณ และเขา/เธอสะดวกตรงกัน



8. มีใครคนหนึ่งคอยตามติดคุณไปในทุกๆ ที่ ขณะคุณกำลังง่วนอยู่กับการผูกสัมพันธ์กับผู้คนในงาน คุณจะ...

ก. ขวนเขา/เธอเข้าร่วมวงสนทนากับคุณในทุกๆ จุดที่คุณไปถึง
ข. บอกให้เขา/เธอไปให้พ้นๆ
ค. กล่าวขอตัวกับเขา/เธอ โดยอ้างว่าคุณนัดพบกับใครสักคน หรือจะไปห้องน้ำ

 





เช็กคำตอบของคุณที่นี่!
    
    1. ข้อ ก. การเริ่มต้นบทสนทนาด้วยการถามถึงธุรกิจที่เขาทำอยู่ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง คุณควรเริ่มต้นด้วยการชวนพูดคุยถึงเรื่องทั่วๆ ไปเสียก่อน แล้วค่อยถามถึงธุรกิจของคู่สนทนา

    2. ข้อ ข. ถ้าคุณรู้สึกอึดอัดกับการเริ่มต้นผูกสัมพันธ์ ให้ยอมรับกับคนที่คุณกำลังคุยด้วยไปเลย วิธีนี้จะช่วยผ่อนคลายความรู้สึกของคุณลง ทำให้คุณไม่เกร็งที่จะพูดคุย และสามารถวางตัวได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งโดยมากแล้ว คนส่วนใหญ่จะเข้าใจ และเป็นผู้เปิดฉากชวนคุณคุยในเรื่องต่างๆ เอง ดีไม่ดี เขา/เธอผู้นี้อาจทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการนำทางคุณไปพบกับคนอื่นๆ ในงานอีกด้วย
    
    3. ข้อ ก. นักสนทนาที่ดีที่สุด คือคนที่พูดน้อย แต่ฟังมาก ซึ่งทักษะพิเศษที่นักสนทนาที่ดีมักมีอยู่ในตัวคือความสามารถในการดึงคนอื่นๆ ให้ร่วมสนทนาด้วยได้ ในที่นี้ทั้งข้อ ก. ข. และ ค. ล้วนเป็นคุณลักษณะของนักสนทนาที่ดีทั้งสิ้น แต่ความสามารถในการตั้งคำถามที่น่าสนใจในข้อ ก. เป็นคุณลักษณะพิเศษที่สามารถชักชวนให้คู่สนทนาพูดคุยด้วยได้ดีที่สุด

    4. ข้อ ค. ส่วนใหญ่แล้วคนที่มาในงานลักษณะ Business Matching มักวางมาดนิ่งเฉยเป็นปกติโดยทั่วไป ดังนั้นเพื่อให้คู่สนทนาเห็นว่าคุณให้เกียรติเขา คุณควรสบตาพร้อมกับการตอบโต้ด้วยคำพูด และภาษากาย ไปพร้อมๆ กับการตั้งคำถามเพื่อแสดงถึงการติดตามฟังเขาเป็นระยะๆ

    5. ข้อ ก. ถ้าต้องการให้บทสนทนาดำเนินไปอย่างราบรื่นไม่มีสะดุด หัวข้อของการพูดคุยจะต้องหลากหลาย ซึ่งวิธีที่จะทำให้คุณมีเรื่องราวมากมายหลากหลายมาพูดคุยกับผู้คนในงาน คือการอ่าน อ่าน แล้วก็อ่านเรื่องราวทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน แนวโน้มธุรกิจ ประเด็นทางสังคม กีฬา หรือแม้แต่งานศิลปะ เคยมีคำกล่าวที่ว่าถ้าคุณอ่านหนังสือ 3 เล่มในเรื่องๆ หนึ่ง คุณจะรู้เรื่องในเรื่องนั้นมากกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ของหนังสือทั้งหมดในโลกที่นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องนั้น ดังนั้น การอ่านหนังสือหลากหลายหัวข้อจะทำให้คุณเป็นนักสนทนาที่ดีได้

    6. ข้อ ข. ส่วนใหญ่คนที่เข้าร่วมกิจกรรม Business Matching มักคิดว่าจะได้อะไรจากคนที่พูดคุยด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ทีเดียว เพราะเป้าหมายของการนัดบอดทางธุรกิจควรเป็นการตามหาพันธมิตรที่จะเติบโตไปพร้อมกับคุณ การตั้งเป้าที่จะควานหาผลประโยชน์จากการคบค้าเสียตั้งแต่เริ่มต้นผูกสัมพันธ์คงไม่ทำให้คุณได้พบกับมิตรแท้อย่างแน่นอน มีแต่จะทำให้คุณเสียเวลา และค่าใช้จ่ายฟรี ที่สำคัญคือเสียโอกาสดีๆ ไปอย่างน่าเสียดาย

    7. ข้อ ค. อย่ารุกจนเกินไปในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนในงาน เพราะงานนัดบอดธุรกิจ หรือ Business Matching ค่อนมาทางงานสังคม ไม่ใช่ธุรกิจจ๋า พยายามใช้เวลาทำความรู้จักกับสมาชิกในงานให้มากที่สุด อาจใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีพูดคุยกับแต่ละคน พร้อมกับขอนามบัตรกลับมา หลังจากนั้น 2-3 วัน โทรศัพท์ไปสานสัมพันธ์ต่อกับคนที่คุณคิดว่าน่าจะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจได้จะทำให้คุณได้ประโยชน์สูงสุดจากการเข้าร่วมกิจกรรมลักษณะนี้

    8. ข้อ ค. อย่าปล่อยให้ใครมาขโมยเวลาอันมีค่าในงาน Business Matching โดยเด็ดขาด วิธีง่ายๆ ที่จะสลัดคนลักษณะนี้ไป คือการหาเหตุผลดีๆ สักข้อที่จะขอปลีกตัวอย่างสุภาพ หรืออาจแนะนำเขา/เธอคนนี้ให้รู้จักกับสมาชิกคนอื่นก่อนจะขอปลีกตัวออกมา

มารู้จักตัวคุณกัน…

    ถูกมากกว่า 7 ข้อขึ้นไป : คุณคือดาวเด่นในงานนัดบอดธุรกิจ รับประกันได้เลยว่าคุณมีโอกาสสูงที่จะได้เจอกับบุคคลที่จะมาเป็นมิตรแท้ทางธุรกิจของคุณ เพราะสมาชิกส่วนใหญ่ในงานอยากจะเข้ามารู้จักคุณ

    ถูก 6 ข้อ : พยายามขึ้นอีกนิด คุณก็จะเลื่อนขั้นไปเป็นดาวเด่นในงานได้แล้ว การฝึกฝนบ่อยๆ จะทำให้คุณไปถึงจุดนั้นได้เร็วขึ้น ฉะนั้นเปิดโอกาสให้ตัวคุณได้ออกไปฝึกฝนในงาน Business Matching ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

    ถูก 1-5 ข้อ : คุณจำเป็นต้องมีโค้ชส่วนตัว หรือเข้าอบรมทักษะการสร้างสัมพันธ์ การแต่งกาย การสื่อสาร และมารยาททางสังคม


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อความสำเร็จของธุรกิจเอสเอ็มอี (SME)




RECCOMMEND: MARKETING

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง