เป็นฤดูกาลผลัดเปลี่ยนผู้บริหารหรืออย่างไรก็ไม่รู้ เมื่อไม่นานมา นี้ CEO Startbucks แบรนด์ธุรกิจกาแฟอันดับหนึ่งของโลกเพิ่งประกาศลาออก ล่าสุดเป็นคิวของมูห์ตาร์ เคนท์ บิ๊กบอสโคคา-โคล่า ยักษ์ใหญ่วงการน้ำดำโลกก็เตรียมลงจากตำแหน่งประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(Chairman and CEO) เพื่อให้เจมส์ ควินซี่ COO ของบริษัทขึ้นนั่งเก้าอี้แทน โดยมีผลในวันที่ 1 พ.ค.ปีหน้า
แม้จะพ้นจากตำแหน่ง แต่เคนท์ก็จะยังมีชื่อในบอร์ดผู้บริหารบริษัท ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีการประชุมบอร์ดผู้บริหาร และมีการลงมติให้ควินซี่ขึ้นดูแลแทน การตัดสินใจครั้งนี้ผ่านการเห็นชอบของวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีระดับโลก เจ้าของบริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ผู้ถือหุ้นใหญ่สุดมูลค่า 400 ล้านเหรียญในโคคา-โคล่า
แม้โคคา-โคล่ายังรักษาสถานะแชมป์อันดับ 1 ในตลาดน้ำอัดลมโลกโดยครองส่วนแบ่งมากกว่า 19% (เทียบกับเป็บซี่ที่มีส่วนแบ่งประมาณ 9.5%) แต่หลายปีที่ผ่านมา ยอดขายน้ำอัดลมของโคคา-โคล่าหดตัวอันเนื่องมาจากการตระหนักถึงปัญหาโรคอ้วน และกระแสรักสุขภาพที่มาแรงทำให้ผู้บริโภคลดละน้ำอัดลมและหันหาเครื่อมดื่มน้ำตาลต่ำแทน มีข้อมูลรายได้โคคา-โคล่าในปี 2015 ลดลงกว่า 3% มาอยู่ที่ 44,300 ล้านเหรียญเมื่อเทียบกับรายได้ 46,000 ของปีก่อนหน้า
ไม่ใช่โคคา-โคล่าเจ้าเดียว บริษัทน้ำอัดลมรายอื่นต่างก็ได้รับผลกระทบจากกระแสน้ำดื่มเพื่อสุขภาพทั้งนั้น แต่ใครจะรับมือแบบไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง สำหรับโคคา-โคล่า ภายใต้การกุมบังเหียนของเคนท์ มีพยายามทุกวิถีทางที่จะกระตุ้นยอดขาย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแพคเกจให้เล็กลง เช่น ลดขนาด Big Gulp 32 ออนซ์ และ Big Team แบบแกลลอนให้เล็กลง และผลิตโค้กกระป๋องแบบ mini-can ออกมา
นอกจากนั้นยังลงทุนในกิจการน้ำดื่มประเภทอื่น ๆ เช่น น้ำผลไม้ Simply เครื่องดื่มชูกำลัง Powerade น้ำดื่ม Dasani เครื่องดื่มชา Gold Peak น้ำมะพร้าว Zico น้ำผลไม้สกัดเย็น Zuja เครื่องดื่มนมปลอดแลคโตส Fairlife และธุรกิจกาแฟภายใต้แบรนด์ Keurig Green Mountain เป็นต้น แต่นั่นแหละ แม้จะขยายไลน์สินค้า แต่เครื่องดื่มน้ำดำโค้กก็ยังเป็นสินค้าหลักที่ทำรายได้ 70% ให้บริษัท
เคนท์ซึ่งเป็นลูกหม้อเก่าแก่ของโคคา-โคล่านานถึง 38 ปี.ได้รับแต่ตั้งเป็นซีอีโอเมื่อ 8 ปีก่อนได้ฝากผลงานไว้มากมาย อาทิ การทำให้ยอดขายในตลาดสหรัฐฯ เติบโต การขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และการเป็นผู้บุกเบิกโรงงานโค้กในยุโรปและประเทศอดีตสหภาพโซเวียต ภาระกิจล่าสุดอันถือเป็นมรดกที่ทิ้งไว้ให้ซีอีโอคนใหม่เข้ามาสานต่อคือแผน 5 ปีในการลดค่าใช้จ่ายบริษัท ซึ่งรวมถึงการปลดพนักงาน การลดขนาดธุรกิจบรรจุขวด และการวางกลยุทธ์ในตลาดเครื่องดื่มที่ไม่ใช่น้ำอัดลม
นอกจากภาระการกระตุ้นผลประกอบการของบริษัท ความท้าทายอันยิ่งใหญ่อีกอย่างหนึ่งที่เจมส์ ควินซี่ ว่าที่ซีอีโอคนใหม่ของโคคา-โคล่าจะเผชิญคือ การที่รัฐบาลในหลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ อังกฤษ แอฟริกาใต้ และอินโดนีเซีย (ในไทยเราก็เคยถกกันถึงประเด็นนี้) กำลังพิจารณาจะเพิ่มภาษีน้ำตาลในอาหารซึ่งเครื่องดื่มอย่างน้ำอัดลม ย่อมได้รับผลกระทบแน่นอน คงต้องติดตามกันต่อไปว่ายักษ์ใหญ่แห่งวงการน้ำดำโลกอย่างโคคา-โคล่าจะรับมืออย่างไร
