อาลีบาบางานเข้าถูกขึ้นบัญชีดำแหล่งค้าของปลอม

 



เรื่อง วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์

    หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯแสดงท่าทีแข็งกร้าวประกาศสงครามการค้ากับจีนแบบไม่สน ไม่แคร์ ไม่แยแส สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯหรือ USTR ก็ดูเหมือนจะสนองนโยบายจัดให้แบบชุดใหญ่ไฟกระพริบ เพราะในการจัดทำรายชื่อประเทศคู่ค้าที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาประจำปีนี้ที่เพิ่งประกาศออกมาเมื่อ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมาปรากฎมีชื่อ อาลีบาบา เว็บการค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน และ เถาเป่า เว็บค้าปลีกออนไลน์ในเครืออาลีบาบาที่ก่อตั้งโดยแจ็ค หม่า มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีนติดอยู่ในโผกับเขาด้วย


    ความจริงอาลีบาบาและเถาเป่าถูกถอดจากบัญชีดำเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่ปีนี้กลับมาใหม่เพราะสหรัฐฯมองว่าอาลีบาบาไม่ดำเนินการใด ๆ ในการยับยั้งการจำหน่ายสินค้าลอกเลียนแบบ การถูกขึ้นบัญชีดำครั้งนี้สร้างความผิดหวังให้ผู้บริหารของอาลีบาบากรุ๊ป โดยยืนยันว่าที่ผ่านมาได้มีการกำหนดนโยบายสำหรับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจบนเว็บอาลีบาบา หรือเถาเป่าแล้ว จึงกังขาว่าการขึ้นบัญชีดำครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่  


    ข้อมูลน่าสนใจคือเฉพาะแอพพลิเคชั่นเถาเป่าอย่างเดียวมีผู้ใช้งานราว 150 ล้านคนต่อวัน มีการโพสต์รูปสินค้าวันละ 20 ล้านโพสต์ ส่วนอาลีบาบา มีผู้ค้าเข้ามาขายของ 10 ล้านราย มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 500,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา หลายคนอาจสงสัยว่าเถาเป่ากับอาลีบาบาแตกต่างกันอย่างไรในเมื่อเป็นเว็บขายของเหมือนกัน ความต่างก็คือ อาลีบาบาเน้นขายส่งปริมาณมาก แบบ business to business หรือซัพพลายเออร์กับซัพพลายเออร์ด้วยกัน ขณะที่เถาเป่าเป็นเว็บค้าปลีกแบบ Business to customer และ customer to customer เสียมากกว่า


    สหรัฐฯจัดทำรายงานมาตรา 301 ทำไม ภายใต้มาตรา 301 ซึ่งเป็นบทบัญญัติหนึ่งในกฎหมายการค้าของอเมริกาว่าด้วยเรื่องการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ในแต่ละปี USTR จะเป็นผู้จัดทำรายชื่อประเทศที่เข้าข่ายละเมิดกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาซึ่งการละเมิดที่ว่าก็มีหลายระดับเพื่อเตือนผู้บริโภคให้ระมัดระวังในการซื้อว่าอาจเจอของปลอม และอีกจุดประสงค์หนึ่งคือการกดดันรัฐบาลและบริษัทต่าง ๆ ให้ปฏิบัติตามกฎ 


    ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ นอกจากจะเกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯกำลังจะเปลี่ยนผู้นำ ยังเป็นห้วงเวลาที่อาลีบาบาอยู่ระหว่างปรับปรุงภาพลักษณ์และความพยายามที่จะดันยอดขายในต่างประเทศให้เติบโต แม้การขึ้นบัญชีดำจะไม่บทลงโทษใด ๆ แต่ก็สร้างความเสียหายและความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับบริษัท ทั้งนี้ เมื่อช่วงกลางปี อาลีบาบาและเถาเป่าเพิ่งถูกปฏิเสธการเข้าเป็นสมาชิกสหพันธ์ต่อต้านการปลอมแปลงสินค้าระหว่างประเทศ โดยมีสมาชิกโดยเฉพาะจากแวดวงทรัพย์สินทางปัญญาและอุตสาหกรรมแฟชั่นคัดค้านไม่ยอมรับ การมีรายชื่อในบัญชีดำสหรัฐฯจึงไม่ต่างจากการถูกตอกฝาโลง แต่ยักษ์ใหญ่ด้านอี-คอมเมิร์ซของจีนจะแก้เกมอย่างไร จะหลุดจากโผอัปยศหรือไม่ คงต้องจับตามองต่อไป

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024