ข้อผิดพลาดที่ทำให้โฆษณาเฟซบุ๊กไม่สำเร็จ

Text : Kritsana S.

    หลายคนที่ทำธุรกิจบนเฟซบุ๊กเห็นตรงกันว่า ตอนนี้โพสต์ต่างๆ บนเฟซบุ๊กถูกจำกัดการมองเห็น หากไม่ซื้อโฆษณา โพสต์จะไม่แสดงบนหน้าฟีดของกลุ่มเป้าหมาย หรือบางครั้งแม้ซื้อโฆษณาไปแล้ว การเข้าถึงโพสต์ยังน้อยเช่นเดิม ซึ่งนี่อาจไม่ได้เป็นเพราะเฟซบุ๊กทำงานผิดพลาด หากแต่เป็นความเข้าใจผิดพลาดของผู้ประกอบการ 

    โฆษณาบนเฟซบุ๊กเป็นแพลตฟอร์มที่ทันสมัยที่สุดในตอนนี้ และด้วยความที่เฟซบุ๊กเก็บข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับผู้ใช้งาน เช่น ความสนใจ พฤติกรรม และข้อมูลส่วนตัว เช่น สถาบันการศึกษา ภูมิลำเนา และสถานที่ทำงาน จึงเป็นผลให้เฟซบุ๊กแสดงโฆษณาได้ตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น 



    ในทางกลับกัน โฆษณาเฟซบุ๊กจะไม่แสดงบนหน้าฟีดของกลุ่มเป้าหมาย หากไม่กำหนดข้อมูลที่เกี่ยวกับพวกเขา เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง อายุ และเพศ นอกจากนี้ ข้อมูลที่ใช้กำหนดกลุ่มเป้าหมายควรชัดเจน ไม่คลุมเครือ และไม่เหมือนกับแบรนด์อื่นมากเกินไป เช่น แบรนด์ A และแบรนด์ B กำหนดช่วงอายุของกลุ่มเป้าหมายที่จะเห็นโฆษณาเหมือนกัน ซึ่งนี่จะทำให้แบรนด์ A มีคู่แข่งทางการค้าโดยไม่รู้ตัว เพราะกลุ่มเป้าหมายจะเห็นโฆษณาของสินค้าทั้งสองแบรนด์ และพวกเขามีแนวโน้มเลือกสนับสนุนแบรนด์ B หากมีความน่าสนใจมากกว่า

    ทั้งนี้ นอกจากต้องกำหนดข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนแล้ว ควรให้ความสำคัญกับภาพและข้อความที่ใช้ในการโฆษณา โดยต้องมีความคิดสร้างสรรค์ แตกต่างจากคู่แข่ง ให้ความรู้สึกเป็นมิตร กันเอง และมีความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มเป้าหมาย อีกทั้งควรใช้ภาพที่ถ่ายเองมากกว่าภาพที่ซื้อจากเว็บไซต์ขายภาพ และโฆษณาเฟซบุ๊กควรลิงก์กับหน้าเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับโฆษณานั้นๆ เพราะหากกลุ่มเป้าหมายคลิกที่โฆษณาเฟซบุ๊กแล้วไม่มีข้อมูลใดแสดง พวกเขาจะปิดโฆษณาอย่างรวดเร็วและหมดความสนใจในทันที

RECCOMMEND: MARKETING

4 เทคนิคจิตวิทยาการตลาด พิชิตใจลูกค้า

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางสินค้าถึงขายดีแบบไม่ต้องลดราคา หรือทำไมโปรโมชั่นบางอย่างทำให้รีบตัดสินใจโดยไม่ทันตั้งตัว? มาล้วงสมองผู้บริโภคกับ 4 เทคนิคจิตวิทยาการตลาด ที่แบรนด์ดังใช้สร้างความอยากได้และแรงกระตุ้นให้ซื้อ

เทรนด์ Emotional Spending โอกาสทองธุรกิจ เมื่อคนลงทุนกับความสุขใจมากขึ้น

เมื่อผู้บริโภคไทยเริ่มให้ความสำคัญกับ ความสุขใจมากกว่าสิ่งจำเป็น การใช้จ่ายเพื่อเติมเต็มชีวิต (Emotional Spending) กำลังกลายเป็น โอกาสทองของธุรกิจ ผู้ประกอบการที่เข้าใจเทรนด์นี้ มีโอกาสสร้างรายได้และความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง

Tiny Tattoo: เทรนด์ใหม่ที่สอนให้แบรนด์หรูคิดต่าง สิ่งเล็กๆ กำลังเปลี่ยนเกมตลาด Luxury

รอยสักขนาดจิ๋ว (tiny tattoo) และเส้นบาง (fine-line tattoo) ไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่เป็น “การลงทุนด้านรสนิยม” ที่อยู่กับเจ้าของตลอดชีวิต ส่งผลให้จำนวนผู้ทำงานในธุรกิจร้านสักสหรัฐฯ เพิ่มจาก 150,000 เป็น 180,000 (2020–2024)