ผ่าทางตันตลาดออนไลน์ เมื่อกำไร = 0




TEXT : กองบรรณาธิการ


     เคยไหมเจอปัญหา ร้านค้าคู่แข่งเปิดมาเป็นดอกเห็ด กระหน่ำดัมพ์ราคา แถมสินค้าก็ยังโคลนนิ่งกันมาอีก กูรูการตลาดออนไลน์ก็เต็มไปหมด ค่าหลักสูตรแพงเวอร์ ต้นทุนค่าโฆษณาแพงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนต่างราคาขายออนไลน์กับออฟไลน์ค่อยๆ แคบลง แถมร้านออฟไลน์ยังหากลยุทธ์มาดึงลูกค้าคืนได้อีก นั่นคือ สัญญาณบอกว่า ตลาดออนไลน์กำลังมาถึงทางตัน  
     

    ผรินทร์ สงฆ์ประชา ผู้เชี่ยวชาญการตลาดดิจิทัล แนะทางออกให้กับผู้ประกอบการออนไลน์ว่า สิ่งแรกที่ต้องนึกถึงคือ ต้องเดินให้ถูกทาง และตัด mindset เดิมๆ ทิ้งไปก่อน ยกตัวอย่างเรื่องของการทำแอพพลิเคชั่นสำหรับร้านค้าออนไลน์ เพราะในยุคที่ อะไรๆ ก็มือถือ มีคนใช้มือถือกันมากมายแอพพลิเคชั่นเกิดใหม่เพียบ แต่รู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้มือถือไม่ได้ใช้เพื่อการซื้อขายสินค้า แต่ใช้เพื่อความบันเทิงหรือติดต่องานเมื่อจำเป็นเท่านั้น เมื่อหันมาดูที่ตลาด จะเห็นว่าตลาดออนไลน์ขณะนี้ อยู่ในสภาพที่อิ่มตัวมีการแข่งขันสมบูรณ์แล้ว เมื่อเข้าสู่สภาพนี้ก็จะเป็นไปตามทฤษฎีการตลาด
ที่ว่า การแข่งขันสมบูรณ์ กำไรจะเท่ากับ 0 เพราะผู้ค้าจะแข่งกันจนไม่สามารถตัดราคาได้อีก 


    แล้วจะหาทางออกอย่างไรดี? ผรินทร์ ได้แนะนำถึง 3 ไม้ตายผ่าทางตันตลาดออนไลน์ ได้แก่

1. สินค้าต้องเป็นที่ต้องการและที่สำคัญคือมีเราขายคนเดียว เพื่อทิ้งห่างจากคู่แข่งที่จะเกิดตามมา 

2. ต้องนั่งมอนิเตอร์ ROI  (Return on investment) จากการลงทุนโฆษณาออนไลน์ให้เป็น 

3. ต้องมีต้นทุน Logistic ที่ไม่กินกำไรจนหมด 
    

    แต่ไม้ตายเหล่านี้ จำเป็นต้องอาศัยช่องทางต่างๆ ที่ผู้ประกอบการต้องมีด้วย ประกอบไปด้วย

1. เว็บไซต์ ต้องเป็นหน้าหลักเลย เป็นแกนกลางของกลยุทธ์ออนไลน์ทั้งหมด ถ้าไม่มีเว็บกลาง กลยุทธ์ออนไลน์จะทำได้ไม่เต็มที่ เป็นช่องทางที่สามารถดึงข้อมูลลูกค้ากลับมาได้

2. โซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางรองที่ต้องมี แต่จุดด้อยคือควบคุมผลลัพธ์ไม่ค่อยได้

3. พนักงาน ต้องมี เพราะลูกค้าชอบบริการแบบพิเศษจากพนักงาน หากพนักงานทำให้ลูกค้าประทับใจลูกค้าจะมีโอกาสสูงในการเปลี่ยนมาเป็นขาประจำ ที่สำคัญพนักงานคือสื่อการตลาดประเภทหนึ่งที่มีความสำคัญมาก

4. สมาร์ทโฟน ต้องเล่นแคมเปญกับอุปกรณ์เหล่านี้ เพราะลูกค้าจะพกพาติดตัวตลอดเวลา แต่ลูกค้าจะไม่ค่อยกดซื้อสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่น เพราะเขาจะเน้นใช้โซเชียลมีเดีย ใช้เมื่อติดต่องาน แต่ไม่เน้นใช้ซื้อของ

5. คอลเซ็นเตอร์ เป็นจุดระบายความอัดอั้นให้กับลูกค้าที่กำลังโกรธ

6. หน้าร้าน เป็นสิ่งที่สร้างความน่าเชื่อถือได้มากที่สุด เพราะลูกค้าจะลดความไว้วางใจลงหากสินค้าที่เขาซื้อไม่มีหน้าร้านที่น่าเชื่อถือ ไม่มีบริการหลังการขาย


    หากผู้ประกอบการสามารถทำได้ครบองค์ประกอบ ก็จะขับเคลื่อนธุรกิจให้อยู่รอดและมีกำไรได้ในยุคที่ออนไลน์มาถึงทางตัน


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024