ไม่อยากเจาะลูกค้าผิดกลุ่มต้องแบ่งส่วนการตลาดให้เป็น

TEXT กองบรรณาธิการ
 
 
 
 
 
             ทำไมบางบริษัทมีผลิตภัณฑ์มากมายขายดีทุกตัว ทำไมบางบริษัทมีลูกค้าหลายประเภทแต่ก็ยังตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทั้งหมด เคล็ดลับที่ทำให้บริษัทเหล่านี้ประสบความสำเร็จอาจไม่ใช่เรื่องสลับซับซ้อนอะไร หากคุณสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าและมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ตลอดจนการบริการแต่ละประเภทให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้ โดยอาศัยเครื่องมือที่เรียกว่า “การแบ่งส่วนการตลาด” ซึ่งธุรกิจขนาดเล็กก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ ใช่ว่าจะต้องเป็นบริษัทใหญ่โตเท่านั้น เพียงแต่ก่อนอื่นคุณอาจจะเริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักกับเครื่องมือที่ว่านี้ก่อนเท่านั้นเอง...
 
 
             - การแบ่งส่วนตลาดก็คือการแบ่งกลุ่มตลาดในการทำธุรกิจซึ่งมีการใช้มายาวนานหลายสิบปีแล้ว โดยทั่วไปการแบ่งกลุ่มจะเริ่มจากข้อมูลพื้นฐานอย่างเพศ อายุ รายได้ การศึกษา ภูมิศาสตร์ ฯลฯ จนกระทั่งมีความซับซ้อนมากขึ้นตามสภาพสังคมจึงได้มีการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคตามมา เช่นความถี่-ห่างในการซื้อสินค้า สถานที่ที่ชอบไปซื้อสินค้า ความพึงพอใจของผู้บริโภค ฯลฯ 
 
 
             ในยุคหลังจึงได้มีการศึกษามากขึ้นมาเรื่อยๆ อาทิ ความคาดหวังที่อยากได้จากสินค้านอกจากหน้าที่หลักของสินค้าแล้วผู้บริโภคอาจต้องการความเก๋เท่จากสินค้าเพื่อช่วยให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูดี ตลอดจนความรู้สึกทางอารมณ์และจิตวิทยา เช่น ถ้าผู้บริโภคอยากมีรูปลักษณ์เหมือนดาราคนไหนก็สามารถนำมาเป็นพรีเซนเตอร์เพื่อดึงดูดใจผู้บริโภคที่เฉพาะกลุ่มลงไปอีก
 
 
             - ข้อดีของการแบ่งส่วนทางการตลาดช่วยให้เราได้รู้ถึงข้อเท็จจริงมากมายที่มีผลต่อการทำธุรกิจเช่น ลูกค้าของเรากลุ่มไหนที่มีกำลังซื้อสูงที่สุด เราจะวางแผนการตลาดอย่างไรเพื่อให้สินค้าและบริการของเราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด เราจะสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าของเราได้อย่างไรให้ตรงใจลูกค้า ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ชนิดใดควรที่จะออกสู่ตลาดแล้วได้ผลกำไรมากที่สุด ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เราไม่อาจรู้เลย ถ้าไม่ได้ทำการศึกษากลุ่มลูกค้าและแบ่งกลุ่มทางการตลาดออกมา
 
 
 
             - การแบ่งส่วนการตลาดที่จะประสบความสำเร็จและสามารถนำไปใช้ได้จริงนั้น ควรมีปัจจัยดังต่อไปนี้คือ 
 
             1.สามารถทำให้เกิดการซื้อสินค้าได้ หมายความว่ากลุ่มที่แบ่งออกมานี้มีลูกค้าที่นับจำนวนได้จริงต่อผลิตภัณฑ์หรือสินค้าในแบรนด์นั้นๆ และเป็นกลุ่มลูกค้าที่สามารถเข้าถึงได้ทั้งในด้านช่องทางการสื่อสารประชาสัมพันธ์ตลอดจนการจัดส่งสินค้า
 
 
             2.มีจำนวนลูกค้ามากพอสมควร คุ้มค่าและเหมาะสมกับการลงทุน
 
 
             3.เป็นกลุ่มลูกค้าทีมีความเฉพาะตัว เมื่อแบ่งกลุ่มออกมาแล้วมีความต้องการ ตลอดจนพฤติกรรมของผู้บริโภคที่แตกต่างกันสามารถนำไปพัฒนาเป็นสินค้าและบริการชนิดใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสื่อสารได้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย 
 
 
             4.มีช่วงเวลาในการวางขายที่ยาวนาน แม้ว่าสินค้าและการบริการหลายชนิดจะมีอายุการใช้งานที่สั้น ได้รับความนิยมในเวลาอันรวดเร็วและจางหายไปในเวลาเร็วกว่า แต่สินค้าที่จะนำมาผลิตขึ้นมาใหม่นี้ควรจะมีทั้งความหลากหลายตลอดจนอายุในการวางขายสินค้าที่ยาวนานเพื่อเป็นการใช้เงินลงทุนให้คุ้มค่าเพราะการผลิตและทำการตลาดสินค้าใหม่แต่ละชนิดนั้นใช้เงินอยู่ไม่น้อยจึงควรมีระยะเวลาในการวางขายที่คุ้มค่า
 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

วิกฤตสูงวัย เด็กเกิดใหม่น้อย กรณีศึกษาธุรกิจญี่ปุ่น ปรับตัวผลิตสินค้าผู้ใหญ่แทนสินค้าเด็ก

Oji Holdings ผู้ผลิตผ้าอ้อมในญี่ปุ่นประกาศยุติผลิตผ้าอ้อมเด็ก หันไปเพิ่มปริมาณการผลิตผ้าอ้อมผู้ใหญ่แทน สาเหตุมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและจำนวนประชากรสูงวัยของญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น

โอกาสโกอินเตอร์ของแบรนด์ไทย ทำงานกับนักธุรกิจระดับโลก งาน Gifts & Premium Fair ฮ่องกง

ฮ่องกงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนที่มีการจัดงานแสดงสินค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกแห่งหนึ่ง และหนึ่งในนั้นคืองานแสดงสินค้าของขวัญและของพรีเมียมภายใต้ชื่อ Hong Kong Gifts & Premium Fair ซึ่งกำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-30 เมษายน 2024