​เทคนิคปิดการขายให้ประสบความสำเร็จสไตล์ Gen Y

TEXT : กองบรรณาธิการ



ผู้ประกอบการ Gen Y หลายคนไม่กล้าเร่งให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเพราะกลัวเสียลูกค้า ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องดีเพราะยิ่งการขายยืดเยื้อเท่าไหร่ รายได้ก็เข้าช้าเท่านั้น ดังนั้น Serenity Gibbons อดีตผู้ช่วยบรรณาธิการเว็บไซต์ข่าว The Wall Street Journal จึงหยิบ 3 เทคนิคปิดการขายมาให้อ่าน โดยเทคนิคเหล่านี้เป็นเทคนิคที่ผู้ประกอบการ Gen Y ที่ประสบความสำเร็จใช้กัน

เทคนิคแรกเป็นของ Erik Huberman ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Hawke Media บริษัทที่ปรึกษาด้านการตลาด เขาปิดการขายได้ด้วยการตอบรับทุกข้อตกลงที่ลูกค้าเสนอมา (แม้ข้อตกลงจะไม่น่าสนใจก็ตาม) ส่วนทริกหาลูกค้าคือ ทำให้เห็นว่าบริษัทมีความแตกต่างจากบริษัทอื่นอย่างไร

เทคนิคที่สองเป็นของ Chalmers Brown ผู้ร่วมก่อตั้ง Due บริษัทให้บริการระบบชำระเงินออนไลน์ เขาคว้าลูกค้ารายใหญ่ได้ด้วยการสาธิตวิธีการแก้ปัญหา ซึ่งนี่ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจเพราะมองว่าหากเกิดปัญหาการใช้งาน บริษัทจะแก้ปัญหาให้พวกเขาได้ 

เทคนิคสุดท้ายมาจาก Nate Robertson ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Square Ship เขาแนะนำให้ผู้ประกอบการเรียนรู้ที่จะพูดปิดการขาย แม้ตัวเขาเองจะเกลียดการพูดปิดการขายอย่างมาก แต่เพราะเป็นผู้ประกอบการจึงเลี่ยงไม่ได้ และในที่สุดเขาก็ชำนาญในเรื่องนี้เพราะผ่านการพูดปิดการขายมาหลายครั้ง ส่วนใครไม่ถนัดทางนี้ เขาแนะนำให้มีที่ปรึกษาไปด้วยซึ่งจะช่วยลดความประหม่าลงได้ และเขียนสคริปต์เพื่อใช้เป็นแนวทางการพูด

เทคนิคเล็กๆ เหล่านี้จะช่วยให้ปิดการขายของคุณกลายเป็นเรื่องง่ายในพริบตา



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

3 เทรนด์ธุรกิจมาแรงปี 2026 ที่ SME ไม่ควรมองข้าม

ปี 2026 คือปีแห่งการเปลี่ยนผ่านของโลกธุรกิจ แต่สำหรับ SME ที่ต้องการ “ลงมือไว เห็นผลเร็ว” นี่คือ 3 เทรนด์ที่จับต้องได้ง่าย และมีโอกาสสร้างรายได้

Dr.Pong VS Supermom ขายของยังไงให้ได้ร้อยล้านพันล้าน สวนกระแสยุคที่คนหันมาสร้าง Personal Branding

ในขณะที่กลยุทธ์การสร้าง Personal Branding กำลังถูกพูดถึงว่าเป็นหนึ่งในหัวใจความสำเร็ของการทำธุรกิจในยุคออนไลน์ แต่ Dr.Pong VS Supermom คือสองแบรนด์ไทยที่เดินสวนกระแส แต่กลับสร้างธุรกิจระดับร้อยล้านล้านพันล้านได้

ฉลากชื่อแบรนด์ตัวโตๆ ยังเวิร์กอยู่ไหม? ในยุคที่ลูกค้าหาฟังก์ชันก่อนซื้อ

บนชั้นวาง ลูกค้าต้องการ “คำตอบ” ไม่ได้ต้องการ “ชื่อแบรนด์” แบรนด์ที่ยังยึดมั่นกับชื่อใหญ่ๆ แบบยุคเก่า กำลังเริ่มพบว่า “ตัวโต” ไม่ได้แปลว่า “ขายดี” อีกต่อไป