AI Marketing เทรนด์การตลาดในยุค Big Data

 
TEXT : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์
 
 
ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบัน เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทเกี่ยวเนื่องกับการตลาด และเป็นแนวโน้วที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับนักการตลาดที่ต้องการนำหน้าคนอื่น สิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือการนำนวัตกรรมทางธุรกิจมาใช้ นวัตกรรมทางธุรกิจหมายถึงการสร้างสรรค์ การพัฒนาต่อยอดการเปลี่ยนแปลงทางความคิด การจัดการ การผลิต กระบวนการ ระบบ โครงสร้าง องค์กร รูปแบบธุรกิจ เพื่อที่จะสร้างมูลค่าใหม่ ๆ สําหรับลูกค้า และปี 2560 ในหลาย ๆ วงการรวมถึงวงการตลาดถือเป็นปีของ “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI (Artificial Intelligence)
 
 ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เป็นความฉลาด ความรู้ที่สร้างขึ้นมาจากสิ่งที่ไม่มีชีวิต ซึ่งรวบรวมหลายๆสิ่งไว้ในสิ่งนั้น เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ให้สามารถคิดและเป็นผู้ช่วยในด้านต่างๆ อาทิเช่น ระบบนำทางรถยนต์ไร้คนขับ
 
ที่ผ่านมา เราอาจจะได้ยินข่าวโปรแกรม AlphaGo ของกูเกิ้ลที่สามารถเอาชนะเซียนหมากล้อมระดับโลกซึ่งเป็นมนุษย์ในการแข่งขัน 60 เกมรวด อันนี้ถือเป็นก้าวย่างสำคัญในการพัฒนา AI  ขณะที่ เฟสบุ๊ก ไมโครซอฟต์ อเมซอนและอีกหลายบริษัทต่างลงทุนพัฒนาด้าน AI 
 
AI กำลังเข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรม บริษัทต่าง ๆ เหมือนถูกบีบให้ประยุกต์ใช้ AI กับสินค้าและบริการ มิเช่นนั้นอาจเสี่ยงที่จะถูกทิ้งไว้ปลายแถว AI ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับการตลาดอย่างไร โดยทั่วไปก็จะเป็นการใช้งานผ่านซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนาให้สามารถทำงานแทนมนุษย์ เช่น โปรแกรม Google translate หรือ ซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งในรถยนต์ไร้คนขับ ในส่วนของงานการตลาด ซอฟต์แวร์อัตโนมัติสามารถทำหน้าที่ เช่น ส่งอีเมล์จำนวนมากในคราวเดียวให้ลูกค้าทั้งหมด หรือช่วนคัดกรองเพื่อให้ได้กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง
     
ตัวอย่างบริษัทที่นำ AI มาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนางานบริการได้แก่ กูเกิ้ล ซึ่งพัฒนาระบบ machine learning algorithm ที่ทำให้ผลการค้นหาข้อมูลของผู้ใช้แต่ละรายมีความแม่นยำขึ้น เป็นการสร้างความประทับใจให้ผู้ใช้ หรือ Under Armor แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาชื่อดังที่ใช้เทคโนโลยี Watson ซึ่งเป็น AI ของไอบีเอ็มในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น Record เพื่อติดตามข้อมูลสุขภาพของลูกค้าและยังทำหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวให้คำปรึกษาเรื่องการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารแก่ลูกค้าผ่านแอพอีกด้วย ส่วน Amazon , Netflix และ Spotify ต่างก็ใช้ระบบ recommendation system แนะนำสินค้าและบริการ (ภาพยนต์/เพลง) แก่ลูกค้าจนทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 
 
มีการคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า การใช้งานแอพพลิเคชั่นจะถูกแทนที่ด้วยการสื่อสารแบบตอบโต้กับบอท (ย่อมาจาก  robot หมายถึงโปรแกรมอัตโนมัติสำหรับทำหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งบนอินเตอร์เน็ต) ก่อนหน้านั้น ช่วงประมาณทศวรรษ 1990 บริษัทต่าง ๆ เริ่มทำเว็บไซต์เพื่อให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ตลอด 24 ชม. ยุคต่อไป เว็บไซต์ยังไม่หายไปไหน แต่บอทจะเข้ามาทำหน้าที่ควบคุมเว็บแทนมนุษย์ เช่น การคีย์คำตอบผ่านเว็บซึ่งเคยเป็นงานของแอดมินหรือเว็บมาสเตอร์ก็จะถูกโอนไปเป็นหน้าที่ของบอท และการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรยังถูกพัฒนา ไม่ใช่แค่การพิมพ์ผ่านจอหากยังสื่อสารผ่านเสียงอีกด้วย
 
เนื่องจากยุคนี้เป็นยุคของ digital economy ที่ขยายตัวรวดเร็ว มีการคาดการณ์ว่าราวปี 2563 จะมีอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์มากกว่า 26,000 ล้านเครื่อง และมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตกว่า 4,000 ล้านคนทั่วโลก นั่นหมายถึงการไหลเวียนของข้อมูลแบบมหาศาลและไม่จำกัด จึงเปิดโอกาสให้ AI เข้ามามีส่วนด้านการตลาดและงานขาย ซอฟต์แวร์จะถูกพัฒนาทำให้สามารถทำงานได้อัตโนมัติโดยไม่ต้องรับคำสั่งจากมนุษย์ด้วยซ้ำ สิ่งที่ตามมาคือส่งผลให้นักการตลาดทำงานง่ายและรวดเร็วขึ้น เช่น การจัดลำดับกลุ่มเป้าหมาย การแนะนำคอนเทนต์ (เนื้อหาบนเว็บไซต์) และการกำหนดวิธีการสื่อสารที่เหมาะสมกับลูกค้า เป็นต้น เหล่านี้เรียกว่า AI marketing
 
AI marketing เหนือกว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตรงที่มี machine learning เครื่องจักรที่สามารถเรียนรู้และแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเองโดยใช้อัลกอริธึมซึ่งเป็นชุดคำสั่งที่ทำให้เครื่องจักรคิดเป็นเหมือนมนุษย์แต่ทำงานเร็วกว่ามาก อย่างการวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมหาศาล หากนักการตลาดต้องลงมือรวบรวมข้อมูล ศึกษาและวิเคราะห์เอง อาจใช้เวลานานมาก แต่ AI จะเข้ามามีบทบาทในฐานะผู้ช่วยเสมือนจริง (virtual assistant) ในการประมวลข้อมูลก้อนใหญ่นั้นและสรุปออกมานักการตลาดมองเห็นภาพกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน ทำให้ทีมการตลาดสามารถวางแผนทำแคมเปญหรือการประชาสัมพันธ์ได้รวดเร็วและตรงกลุ่ม 
 
อาจจำแนกได้ว่าสิ่งที่ AI marketing จะเข้าและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ได้แก่
 
การค้นหาข้อมูล ผู้บริโภคสมัยนี้สามารถหาข้อมูลได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพกว่าเมื่อก่อน อันเป็นผลจากการผสมกันระหว่างโซเชี่ยลมีเดียกับการมีเสิร์ชเอ็นจิ้นที่เร็วปานฟ้าแลบอย่างกูเกิ้ล การได้มาซึ่งคำตอบจึงรวดเร็วและไม่เสียเวลา กูเกิ้ลเองก็พัฒนาระบบเกือบทุกวัน ดังนั้น นักการตลาดต้องรู้และตามให้ทันว่ากูเกิ้ลใช้เทคโนโลยีอะไรอยู่ เพื่อปรับคอนเทนต์ให้อยู่ในวงโคจรไม่หลุดกระแส ทั้งนี้การนำ AI มาใช้สามารถช่วยได้ในแง่ของการวิเคราะห์รูปแบบการค้นหาของลูกค้า ซึ่งหลังจากวิเคราะห์แล้วจะระบุออกมาได้ว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดของผลการค้นหาผ่านเสิร์ชเอ็นตจิ้นคือที่ใด
 
งานโฆษณา สิ่งนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ AI marketing มีความสำคัญและส่งผลต่อการตลาด นั่นคือการนำ AI ไปพัฒนางานด้านการตลาดในหลายลักษณะ อาทิ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกคำค้นหาของลูกค้า ข้อมูลส่วนตัวบนโซเชี่ยลมีเดีย และข้อมูลออนไลน์อื่น ๆ เหล่านี้จะทำให้ฝ่ายการตลาดสามารถสร้างสรรค์โฆษณาที่ทรงประสิทธิภาพและดึงความสนใจลูกค้าได้ดีขึ้น นอกจาก ถูกนำมาใช้ในการรวบรวมข้อมูล  AI ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูล ทำให้มองเห็นภาพและรู้จักกลุ่มลูกค้าละเอียดกว่าเดิม การสื่ออะไรออกไปจึงตรงกลุ่ม และตรงจุด
 
การรับรู้อารมณ์ของตลาด ต่อให้มีทีมการตลาดที่ใหญ่แค่ไหนก็เป็นเรื่องยากที่จะไปไล่กรองข้อมูลจากลูกค้าทุกคนที่ไปโพสต์หรือแสดงความเห็นนอินเตอร์เน็ตเพราะช่องทางที่ลูกค้าไปแสดงความเห็นนั้นมีมากมาย การนำ AI marketing มาใช้จะทำให้สามารถเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ออกมาว่ากลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้ากำลังคิดอะไรหรือรู้สึกอย่างไรต่อแบรนด์ เพื่อที่ทีมการตลาดจะได้เตรียมรับมือ 
 
งานบริการ สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันคือพฤติกรรมของลูกค้าที่ไม่ว่าใครก็ต้องการบริการที่ดีเยี่ยมเสมอ ซึ่ง AI มีส่วนตรงนี้อย่างมากในการตีความข้อมูลเพื่อทำให้ฝ่ายบริการเข้าใจลูกค้า เมื่อเกิดปัญหาใดขึ้น ก็สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที ทำให้การทำงานของฝ่ายบริการง่าย เร็วและประหยัดเวลา
 
ไม่ว่าจะพร้อมหรือไม่ก็ตาม ในเวลาอันใกล้นี้ AI จะมีบทบาทสำคัญต่อประสบการณ์ที่ผู้บริโภคจะได้รับในการซื้อสินค้าและบริการ ขณะที่เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์เกี่ยวกับด้านนี้จะถูกพัฒนาอย่างกว้างขวาง ลองสำรวจดูว่ามีทางใดที่ AI จะถูกนำมาปรับใช้ เพราะในโลกของธุรกิจ คนที่ปรับตัวตามกระแสเท่านั้นจึงอยู่รอดได้  

ที่มา : วารสาร K SME Inspried ไตรมาส 2 2017

 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

ธุรกิจเล็กก็ชนะได้ ถ้าเข้าใจ Trust Economy กลยุทธ์ใหม่ที่เร่งยอดขายได้จริง ในยุคที่ความเชื่อใจขาดแคลน

ธุรกิจเล็กอาจไม่มีงบมาก แต่ถ้ารู้จัก “Trust Economy” ก็สร้างแบรนด์ให้เติบโตเร็วกว่าได้ แม้ไม่มีงบโฆษณาหลักล้าน เพราะในยุคที่ข้อมูลปลอม รีวิวปลอม และการตลาดที่พูดเกินจริงล้นโซเชียล “ความเชื่อใจ” กลายเป็นสินค้าหายากที่สุดในตลาดวันนี้

เสื้อยืดไก่ทอดหาดใหญ่ แฟชั่นอร่อย ไอเดียขายเสื้อสุดครีเอท ใครเห็นก็อยากลองซื้อไปกิน เอ้ย! ลองใส่

ไอเดียเสื้อยืดลายไก่ทอดหาดใหญ่ ที่หยิบเอากระดาษห่อข้าวเหนียวไก่ทอด หมูทอด มาทำเป็นแพ็กเกจจิ้งสินค้า และเพิ่มความเหมือนอารมณ์ข้าวเหนียวไก่ทอดแท้ๆ ยิ่งเข้าไปอีก ด้วยการปริ้นกระดาษเป็นรูปห่อน้ำจิ้มติดเอาไว้ด้วย

ทำไมผู้ประกอบการไทยถึงสนใจลงทุน ธุรกิจร้านซักผ้าอัตโนมัติ 24 ชม. ไม่มีพนักงาน ไม่มีสต็อก แต่อยู่ได้ด้วยระบบอัตโนมัติ

ร้านซักผ้าหยอดเหรียญอัตโนมัติ เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมและถูกยกให้เป็น “อาชีพที่สอง” ที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นคือ ไม่ต้องมีสต็อกสินค้า ไม่ต้องกังวลเรื่องวันหมดอายุ ไม่ต้องบริหารพนักงาน และสามารถสร้างรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง