5 ไอเดียแต่งออฟฟิศเพิ่ม Creativity ให้ที่ทำงาน

Text : Yuwadi.s 
 


     ในยุคมีหลายองค์กรที่ปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำงานจากห้อง 4 เหลี่ยมให้กลายเป็นสนามเด็กเล่นเพื่อช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ให้แก่พนักงาน อย่างองค์กรใหญ่ๆ ที่เรามักจะได้เห็นว่าเขามีพื้นที่ส่วนกลาง ห้องประชุมสุดเก๋หรือแม้แต่โต๊ะทำงานแบบไม่ Fix ที่ สามารถยกโน้ตบุ้คหนึ่งเครื่องแล้วสร้างสรรค์งานมุมไหนก็ได้ในออฟฟิศ นี่จึงกลายเป็นเทรนด์ดีไซน์ออฟฟิศยุคใหม่ที่หลายองค์กรไม่ควรมองข้าม มาเพิ่ม Creativity หรือความคิดสร้างสรรค์ในออฟฟิศด้วยการดีไซน์ไปพร้อมๆ กัน แล้วคุณอาจจะพบว่าพนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้นก็เป็นได้!

 


1.  ใช้สีเขียวช่วยสร้างความสดชื่นในออฟฟิศ
      วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นคือการใช้ต้นไม้ใบหญ้ามาตกแต่งออฟฟิศ นอกจากที่จะทำให้ออฟฟิศดูสวยงามแล้วยังช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่คนทำงาน ออฟฟิศของคุณอาจจะเริ่มจากต้นไม้ที่ดูแลง่ายๆ อย่าง Cactus นอกจากนี้ยังมีพลูด่าง ลิ้นมังกรแคละ ต้นเฟิร์น ไผ่กวนอิมที่หลายคนนิยมปลูกเอาไว้ในที่ทำงาน เนื่องจากมีความแข็งแรง สวยงาม เลี้ยงง่ายและยังมีความหมายดีๆ อีกด้วย




2.  จัดสรรพื้นที่ส่วนกลางไว้ Relax
     ความเครียดในการทำงานย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานด้านเทคโนโลยีหรือพวก Tech Startup ที่ต้องทำงานจ้องหน้าจอคอมพ์ทั้งวัน พวกเขาจะมีความเครียดมากกว่าปกติ ทำให้ออฟฟิศของคนกลุ่มเหล่านี้จะเต็มไปด้วยพื้นที่ที่มีความ Relax มีโต๊ะปิงปอง โต๊ะพูล ไปจนถึงหลายออฟฟิศที่มีสไลเดอร์ ตู้เกมรวมทั้งพื้นที่ส่วนกลางไว้นั่งจิบกาแฟเพื่อผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน ไม่แม้แต่ออฟฟิศด้าน Tech Startup เท่านั้นที่ต้องการออฟฟิศเจ๋งๆ แบบนี้ แต่พนักงานส่วนใหญ่ล้วนอยากได้ เพราะฉะนั้นลองจัดสรรห้องเล็กๆ ในออฟฟิศเอาไว้ให้พนักงานผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาผ่อนคลายความเครียด แค่วันละ 15 นาที ก็เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้แก่พนักงานของคุณได้แล้ว




3.  มีห้องออกกำลังกายหรือคลาสออกกำลังกายทุกวีค
     เพราะการออกกำลังกายช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยขจัดความเครียดเพิ่มพลังกาย พลังใจ รีเฟรชร่างกายให้พร้อมทำอะไรใหม่ๆ แถมยังช่วยหลั่งสารแห่งความสุขได้อีกด้วย เป็นเหตุผลที่ว่าทำออฟฟิศควรมีพื้นที่ออกกำลังกายให้แก่พนักงาน นอกจากนี้การออกกำลังกายยังถูกนำมาประยุกต์กับเทรนด์การทำงานในยุคใหม่อย่างการสร้างโต๊ะที่ผสมผสานกับลู่วิ่ง ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ ทำให้พนักงานได้ไอเดียใหม่ๆ เวลาสมองเริ่มตัน




4.  เปลี่ยนห้องประชุมเดิมๆ ให้กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์
     เชื่อว่าหลายคนคงเบื่อการประชุมเดิมๆ ที่ไม่มีวาระ แถมห้องประชุมยังอยู่น่าเบื่อด้วยการจัดโต๊ะแบบเดิมๆ ในห้องทึบๆ ลองมาเปลี่ยนห้องประชุมธรรมดาให้กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ที่จะทำให้การประชุมของคุณไม่น่าเบื่ออีกต่อไป มีห้องประชุมในยุคนี้หลายที่ที่มีไอเดียน่าสนใจ เช่น การจัดห้องประชุมสุดชิลล์ด้วยการนำหญ้าเทียมมาปูไว้ในห้องประชุมและให้พนักงานนั่งประชุมกับพื้น ที่เบาะนิ่มๆ เอาไว้เอนหลัง นอกจากนี้ยังใช้การดีไซน์เข้ามาช่วยปรับให้ออฟฟิศของคุณดูเก๋เหมือนนั่งคุยกันอยู่ในคาเฟ่ฮิป เช่น การตกแต่งผนังด้วยอิฐหรือปูนเปลือยแบบสไตล์
Loft ก็ช่วยให้ออฟฟิศของคุณดูดีไปอีกแบบ




5.  มีมุมทำงานนอกโต๊ะ
     ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วที่ออฟฟิศจะต้องมี  Fix Desk หรือโต๊ะนั่งทำงานประจำ เพราะพนักงานยุคใหม่ชอบความอิสระ อยากที่จะลุกเดินไปไหนมาไหนได้ในออฟฟิศ บางคนอยากนั่งทำงานแบบ Outdoor จิบกาแฟ นั่งทำงาน ดูวิว หรือบางคนอยากที่จะนั่งทำงานในมุมเงียบๆ คนเดียว บางคนอยากนั่งทำงานกับทีมของตัวเองเพื่อแลกเปลี่ยนไอเดียกัน เพราะฉะนั้นองค์กรของคุณอาจจะไม่ต้องมี Fix Desk อีกต่อไปแต่เน้นไปที่การสร้างบรรยากาศออฟฟิศให้ดูอบอุ่น สบายๆ เหมือนได้นั่งทำงานอยู่ที่บ้านหรือร้านกาแฟก็จะช่วยให้พนักงานของคุณมี Creativity เพิ่มได้  

 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

“Grandfluencer” อินฟลูวัยเก๋า เพราะเรายังมีไฟ วัยไหนก็พร้อมมันส์ ฮาสนั่นไปกับ “คุณยายวัลย์ & น้องบูรพา”

เมื่อ Grandfluencer ลูกผสมระหว่างคำว่า “Grandparent” กับ “Influencer” จนออกมาเป็น “อินฟลูวัยเก๋า” กำลังเป็นเทรนด์ล่ามาแรง เราจึงมี Trick สำหรับผู้ประกอบการสูงวัยที่ยังมีไฟและอยากขยับมาเป็น Grandfluencer มาฝากกัน

ขายวันละล้าน แต่กำไรศูนย์ บทเรียนธุรกิจแสนแพง จาก PABLO Cheesetart ในไทย

ในโลกของธุรกิจอาหารและขนมหวาน ยอดขายวันละล้านบาทคือความฝันของผู้ประกอบการ แต่ใครจะเชื่อว่าเบื้องหลังตัวเลขมหาศาลนั้นอาจซ่อนความจริงที่ขมขื่น และนี่คือบทเรียนราคาแพงจาก PABLO Cheesetart ที่ เบียร์ ใบหยกไม่มีวันลืม

ทำคอนเทนต์ท่องเที่ยวให้เป็นธุรกิจเงินล้าน ถอดบทเรียนจาก Go Went Go และ อาสาพาไปหลง

พาคุณเจาะลึกเส้นทางธุรกิจของ Go Went Go และ อาสาพาไปหลง พร้อมถอดบทเรียนที่นำไปใช้ได้จริง และชี้ทางให้คุณเปลี่ยนคอนเทนต์ท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่ยั่งยืน โดยออกแบบให้เหมาะกับกลุ่มคนทำธุรกิจบนเฟซบุ๊ก