ตั้งเป้า 5 ปียกไทยเป็นฮับอัญมณีและเครื่องประดับโลก




           สคช. ขานรับนายกรัฐมนตรี ตั้งเป้าไทยเป็นฮับด้านอัญมณีและเครื่องประดับของโลกภายใน 5 ปีข้างหน้า สร้างความเชื่อถือให้ผู้บริโภคมั่นใจคุณภาพอัญมณีไทย ด้วยการยกระดับกำลังคนในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับที่ทำรายได้การส่งออกเป็นอันดับ 3 ของประเทศ


           ดร. นพดล ปิยะตระภูมิ รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) เปิดเผยว่า ตามที่ พลเอกประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาเรื่อง "ทิศทางของไทยสู่การเป็นศูนย์กลางอัญมณีและเครื่องประดับโลก" ในการประชุมสมาพันธ์เครื่องประดับโลกครั้งที่ 13 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพว่า 


           "อาชีพช่างทอง ช่างเจียระไนอัญมณีเป็นอาชีพที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านานนับตั้งแต่สมัยสุโขทัย จนมีพัฒนาการและขยายตัวเป็นอุตสาหกรรมที่สามารถทำรายได้ส่งออกให้ประเทศในอันดับต้นๆ มาโดยตลอด ประเทศไทยจึงมีความพร้อมที่จะเป็นฮับในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของโลกภายในปี 2564 โดยรัฐบาลมีนโยบายที่จะสนับสนุนและผลักดัน ช่างฝีมือ คัดพลอย เจียระไน ที่มีจำนวนแรงงานรวมกันทั้งประเทศกว่า 1 ล้านคน โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้ยกเว้น อากรขาเข้า แสวงหาพันธมิตรด้านแหล่งวัตถุดิบ หาตลาด"

           ทั้งนี้ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้ตอบรับนโยบายดังกล่าว ด้วยการยกระดับกำลังคนที่มีฝีมือ อาทิ ช่างเพชร ช่างทอง ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ อันถือว่าเป็นมรดกที่ทรงคุณค่า สืบทอดฝีมือจากรุ่นสู่รุ่น ควรแก่การอนุรักษ์ แต่ขณะเดียวกันบุคลากรด้านนี้กำลังอยู่ในภาวะลดปริมาณลงจนขาดแคลน การออกใบรับรองมาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพให้ผู้ประกอบอาชีพในธุรกิจอัญมณีตั้งแต่การออกแบบ ไปจนถึงพนักงานขายหน้าร้าน จะเป็นแนวทางที่จะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนกำลังคนที่มีฝีมือได้ เพราะเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมนี้


           "เมื่อเร็วๆนี้ สคช. จัดงานสัมมนา Stakeholder Engagement กว่า 40 อาชีพ ก็ได้มีผู้ประกอบในอุตสาหกรรมดังกล่าวร่วมงานสัมมนาและแสดงความจำนงให้ภาครัฐรับรองมาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพให้กำลังคนที่อยู่ในสาขาวิชาชีพนี้ เพื่อตอกย้ำความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภคให้เกิดความมั่นใจในคุณภาพของบุคลากรด้านนี้ว่ามีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง ตลอดจนเป็นที่ยอมรับสู่สากลในอนาคตอย่างแพร่หลายว่า หากต้องการซื้อหาอัญมณีและเครื่องประดับ ต้องมาที่ประเทศไทย " ดร. นพดล กล่าว


           ทั้งนี้ ในปี 2559 ประเทศไทยส่งออกอัญมณี เครื่องประดับ และทองคำ กว่า 501,107 ล้านบาท หรือ 3.49 % ของจีดีพี หรือเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 3 ของประเทศ และในปีนี้ตั้งเป้าขยายตัว 5%


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: MARKETING

Tiny Tattoo: เทรนด์ใหม่ที่สอนให้แบรนด์หรูคิดต่าง สิ่งเล็กๆ กำลังเปลี่ยนเกมตลาด Luxury

รอยสักขนาดจิ๋ว (tiny tattoo) และเส้นบาง (fine-line tattoo) ไม่ใช่แค่ศิลปะ แต่เป็น “การลงทุนด้านรสนิยม” ที่อยู่กับเจ้าของตลอดชีวิต ส่งผลให้จำนวนผู้ทำงานในธุรกิจร้านสักสหรัฐฯ เพิ่มจาก 150,000 เป็น 180,000 (2020–2024)

นี่ไม่ใช่แท่งสี แต่คือไอเดีย มัทฉะบาร์ พร้อมทาน 6 เฉดสี เจ้าแรกของไทย

ที่เห็นเรียงเป็นแท่งๆ ไล่เฉดเขียวจนถึงน้ำตาลในกล่องนี้ ไม่ใช่พาเลตต์สีน้ำหรือแท่งสีแต่อย่างใด แต่คือ “มัทฉะบาร์”  

โอกาสชาไทย สู่เวทีโลก ในวิกฤต matcha ขาดตลาด

กระแสมัทฉะพุ่งแรงตั้งแต่ปี 2568 ขณะที่ปริมาณผลผลิตลดลงจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เกิดภาวะของขาดตลาดในหลายภูมิภาค สำหรับผู้ประกอบการไทย นี่คือโอกาสทอง