กินสบายๆ ไม่มีแพ้

 
 
 
 
 
 
ผู้ที่มีอาการแพ้อาหารบางประเภทคงเคยเห็นหลากหลายธุรกิจที่ช่วยให้พวกเขาหลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ไม่ว่าจะเป็นกระดาษบอกส่วนประกอบอาหาร หรือแม้แต่แอพฯ บนมือถือ แต่ร้านอาหารหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส Mon Histoire dans l’assiette (แปลว่า เรื่องราวบนอาหาร) ช่วยให้ชีวิตเราง่ายกว่านั้นด้วยการประกาศว่าเป็นร้านปลอดอาหารก่ออาการแพ้ที่พบบ่อย 11 อย่าง เพื่อให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ลูกค้าสะดวกมากขึ้น 
 
ร้านนี้อยู่ที่เมืองลีอง เสิร์ฟอาหารที่เน้นไปยังประเภทปลอดสารและปรุงโดยปราศจากอาหารที่มักพบว่ามีผู้แพ้ 11 อย่าง ได้แก่ กลูเตน (โปรตีนที่อยู่ในแป้ง) ไข่ แล็กโทส ถั่วลิสง นัทต่างๆ ถั่วเหลือง มัสตาร์ด หอย celery งา และ Lupine (พืชดอกตระกูลถั่ว) ทางร้านจะปรับเปลี่ยนรายการอาหารไปเรื่อยๆ ทุกฤดูกาล มีรายละเอียดส่วนประกอบอาหารให้ลูกค้าดูเพื่อความโปร่งใสจริงๆ  

ส่วนพนักงานก็ได้รับการอบรมเรื่องโภชนาการและเรื่องการแพ้อาหารด้วย  ร้านฯ กล่าวว่าวัตถุประสงค์หลักที่ทำแบบนี้ก็เพื่อให้การรับประทานอาหารนอกบ้านกับเพื่อนหรือครอบครัวเป็นเรื่องสนุกมากขึ้น และเป็นความภูมิใจของทางร้านว่ามีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่มาพร้อมกับความอร่อยเพื่อให้ทุกๆ คนมีความสุขร่วมกัน นอกจากจะไม่มีอาหารแพ้ง่ายแล้ว ราคายังไม่แพงอีกด้วย เพราะอาหารต่อจานราคาประมาณ 13.50 ยูโร (ประมาณ 526 บาท) เท่านั้น
 
Mon Histoire dans l’assiette อ้างว่าเป็นร้านแรกที่นำเสนอเมนูปราศจากอาหารก่ออาการแพ้แบบนี้  บางทีอาจจะเป็นร้านต้นแบบให้บ้านเราเอาอย่างบ้างก็เป็นได้นะ 
 
Website: www.monhistoiredanslassiette.fr

RECCOMMEND: MARKETING

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง