​จ้าง Influencer ไปอาจไร้ผล! จากบทเรียนของแบรนด์ Magic Skin






 
     ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการตลาดที่ร้อนแรงที่สุด คงหนีไม่พ้นการดึงเอาดารา นางแบบ เหล่าเซเลบริตี้ที่มีผู้ติดตามบน Social Network เป็นหลักแสนหลักล้าน มาถือสินค้า ถ่ายรูป รีวิวลงในช่องทางของตัวเอง ซึ่งไม่ใช่แค่เมืองไทยเท่านั้น แต่มันคือเทรนด์การตลาดของทั่วโลก ในช่วงที่เทรนด์การตลาดนี้เข้ามายุคแรกๆ อาจจะสร้างความน่าตื่นเต้นให้แก่ผู้ติดตามและสร้างผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจให้แก่แบรนด์ แต่เมื่อเวลาผ่านไปที่ใครๆ ก็สามารถเป็นนักรีวิวผ่านช่องทางของตัวเองได้ ทำให้เกิด Micro-Influencer ที่มีความน่าเชื่อถือกว่า รวมทั้งผู้บริโภคยังเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าสินค้าที่ Influencer ระดับบิ๊กๆ ของวงการเอามารีวิวเนี้ย! เขาใช้เองจริงๆ หรือไม่?
 

     อย่างกรณีล่าสุดที่แบรนด์ Magic Skin ถูกจับเนื่องจากมีการปลอมแปลงอย. นั่นหมายความสินค้าของทางแบรนด์ทั้งหมดไม่มีมาตรฐานเพียงพอที่จะถูกส่งถึงมือผู้บริโภค และเมื่อเข้าไปตรวจค้นสถานที่ผลิตก็พบว่าสินค้าทุกชิ้นผลิตกันภายในครัวเรือนแบบ Handmade ไร้ซึ่งโรงงานที่สะอาดปลอดภัย สิ่งที่ตามมาหลังจากข่าวนี้แพร่สะพัดออกไปคือความตื่นกลัวของเหล่าคนที่เคยตกหลุมพรางใช้สินค้าของแบรนด์ หลายคนไม่รู้มาก่อนว่าอาหารเสริมที่กินเข้าไปนั้นไม่มีอย. ไม่มีคุณภาพ ที่สำคัญคือหลายคนเคยเห็นสินค้าดังกล่าวผ่านทางดารา นักร้อง นางแบบ ที่ถูกจ้างให้เป็น Influencer ของแบรนด์นี้เกิน 50 คนเลยทีเดียว
 




     บรรดาผู้บริโภคใน Social Network เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่า สินค้าที่ผ่านมือดารา ถูกถ่ายรูปลงใน Instagram เกือบทั้งหมดเลยที่พวกเขาไม่ได้ผ่านการใช้จริง ยิ่งเมื่อมีข่าวเมจิกสกินออกมา ดาราส่วนใหญ่ก็ออกมายอมรับอย่างตรงๆ ว่า ‘ถูกจ้างรีวิว ให้ถ่ายรูปสินค้าลงเฉยๆ ไม่รู้ว่าเป็นอย.ปลอม’  
 

     หลังจากเรื่องของเมจิกสกินในครั้งนี้ เสียงของชาวเน็ตก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การรีวิวสินค้าของเหล่าดาราว่าทุกอย่างมันคือโฆษณา ดาราได้เงิน แบรนด์ได้เงิน คนที่ต้องรับเคราะห์ คือผู้บริโภคที่ต้องใช้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพ บางคนก็บอกว่าแบรนด์ผิดจริง ส่วนเหล่าดาราก็มีความผิดกึ่งหนึ่งโทษฐานทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตทั้งจาก Pantip, Facebook ได้ออกตัวเลยว่าพวกเขาไม่เคยเชื่อสินค้าที่ดาราออกมารีวิวเลยแม้แต่นิดเดียว โดยเฉพาะสินค้าอาหารเสริม ยาลดน้ำหนัก ตัวช่วยทำให้ผิวขาวต่างๆ ทางด้าน ครูลูกกอล์ฟ คณาธิป สุนทรรักษ์ พิธีกรจาก Loukgolf's English Room ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า
 

     “ถึงเวลาที่ดารา คนดังทุกคนต้องระวังสินค้าที่ติดต่อเข้ามาให้รีวิวแล้ว เงินมันก็ต้องหา เข้าใจได้ แต่ความรับผิดชอบต่อสังคมมันก็ต้องมีมั้ย? รับงานรีวิวสินค้า แต่ตัวเองยังไม่ใช้ยังไม่กล้ากิน นั่นคือเรากำลังหลอกคนที่ตามเราที่รักเราทั้งนั้น ต่อจากนี้คิดกันนิดนึงเถิดหนา #เมจิกสกิน”





     แน่นอนว่าแบรนด์ต่างๆ คงต้องเริ่มตระหนักถึงการทุ่มเงินหลักแสน หลักหมื่นเพื่อจ้างดารารีวิวสินค้ากันมากขึ้น เพราะในตอนนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่คงตั้งกำแพงต่อสินค้าที่ผ่านมือดาราแบบฉาบฉวย ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ อาจจะต้องเริ่มมองถึงหนทางใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Micro-Influencer ที่ผ่านการทดลองใช้สินค้าจริงๆ ของแบรนด์ไปจนถึงกลยุทธ์ปากต่อปาก อย่าง Twitter เองก็มี 1 ใน Hashtag สุดฮิตอย่าง #ไว้รีวิวห้ามขายของโว้ยย เป็น Hashtag ที่เกิดจากคนใช้สินค้าหรือใช้บริการต่างๆ แล้วชอบจริงๆ มารีวิวจริงๆ เป็นการบอกกันปากต่อปากทาง Social Media ที่ส่งผลให้หลายแบรนด์แจ้งเกิดมาแล้ว
               

     แต่กว่าจะไปถึงในจุดนั้น ทางแบรนด์เองก็คงต้องหันกลับมามองตัวเองถึงเรื่องของคุณภาพสินค้า หากว่าแบรนด์ของคุณมีคุณภาพ จริงใจ ไม่หลอกลวง มีส่วนผสมอะไร เท่าไหร่ ก็บอกไปให้ชัดเจน ผู้บริโภคก็จะรักและบอกต่อให้คุณเองโดยคุณอาจจะไม่ต้องเสียตังสักบาทในการจ้างดารามารีวิว แต่หากว่าคุณพูดอย่างทำอย่างเพื่อลดต้นทุน ใส่ส่วนผสมที่เป็นอันตราย ไม่จริงใจต่อลูกค้า อาจทำให้คุณรวยเป็นกอบเป็นกำในวันนี้ แต่สุดท้ายแล้วผู้บริโภคในยุคนี้เขาก็จะสามารถจับโป๊ะแตกของคุณได้ในที่สุด...อย่ารอให้ถึงวันนั้นเลย


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: MARKETING

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง

Color Psychology: จิตวิทยาเรื่องสี ที่แบรนด์ใหญ่ใช้เพิ่มยอดขาย

สี…ก็เปลี่ยนยอดขายได้ ทำไม Facebook ใช้สีน้ำเงิน? ทำไม Chanel ถึงเลือกสีดำทอง? ทำไมฟาสต์ฟู้ดต้องสีแดง-เหลือง? คำตอบอยู่ที่ “Color Psychology” จิตวิทยาของสีที่แบรนด์ใหญ่ใช้สร้างกำไรมาแล้วทั่วโลก