​คุณภาพ Followers ตัวชี้วัด! แบรนด์เลือกใช้ Influencers






 
      เมื่อหนึ่งในกลยุทธ์การทำการตลาดออนไลน์ คือการเลือกใช้ Influencer หรือผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์ การให้ความสำคัญของการมี Followers หรือผู้ติดตามที่มีคุณภาพ จึงกลายเป็นกฎเหล็กข้อหนึ่งของหลายต่อหลายแบรนด์ในการตัดสินใจเลือก Influencers เหล่านั้นมาร่วมงาน


     ทั้งนี้ เพื่อให้เห็นถึงแนวโน้มของการใช้การตลาดแบบ Influencers ทางสมาพันธ์โฆษณาโลก หรือ World Federation of Advertisers ได้ทำการสำรวจ 34 บริษัทจากธุรกิจ 15 ประเภทที่ใช้งบประมาณด้านสื่อและการตลาดทั่วโลกประมาณ 59 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งทุกแบรนด์ใช้ Influencers ในการทำการตลาดออนไลน์ โดย 54 เปอร์เซ็นต์ใช้กลยุทธ์นี้เป็นบางครั้งหรือในบางตลาด และอีก 46 เปอร์เซ็นต์ใช้วิธีนี้บ่อยครั้ง


     โดยทางด้าน Stephan Loerke ซีอีโอของสมาพันธ์โฆษณาโลก กล่าวว่า การตลาดแบบใช้ influencers กำลังกลายเป็นช่องทางสำคัญของผู้ประกอบการจำนวนมาก แต่มันจะมีประสิทธิภาพหรือได้ผลดี ก็ต่อเมื่อผู้บริโภคสามารถเชื่อถือในตัว Influencers ในขณะที่ผู้ประกอบการ เจ้าของแบรนด์ต่างๆ สามารถเชื่อได้ว่าพวกเขาเข้าถึงคนจริงๆ ไม่ใช่บอทเท่านั้น
 

คุณภาพของ Followers ต้องมาก่อน

     จากผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่า เจ้าของแบรนด์ 96 เปอร์เซ็นต์ให้ความสำคัญกับคุณภาพของ Followers เป็นเกณฑ์อันดับหนึ่งของการเลือกร่วมงานกับ Influencers รองลงมาคือ ความน่าเชื่อถือและชื่อเสียงของตัว Influencers เอง (93 เปอร์เซ็นต์) และความโปร่งใสที่ผู้บริโภคต้องรับรู้ว่า Influencers คนนี้ได้รับการว่าจ้างมา (71 เปอร์เซ็นต์)  
 

Influencers เพิ่มการรับรู้และเป็นผู้สนับสนุนแบรนด์

     นอกจากนี้ 65 เปอร์เซ็นต์ของแบรนด์ที่ทำการสำรวจยังเล็งเห็น ความสำคัญของ Influencer Marketing โดยมีแผนที่จะเพิ่มงบประมาณเข้ามาใช้สำหรับในส่วนนี้ในอีก 1 ปีข้างหน้า โดย 86 เปอร์เซ็นต์บอกว่า เป้าหมายของการทำการตลาดแบบนี้คือการปรับปรุงการรับรู้ต่อแบรนด์ (Brand Awareness) และ 69 เปอร์เซ็นต์มองว่า Influencers เป็นตัวช่วยที่ดีของการเป็นผู้ให้การสนับสนุนแบรนด์ (Brand Advocacy)
 

ตอบโจทย์การเข้าถึงผู้บริโภค

     74 เปอร์เซ็นต์ของเจ้าของแบรนด์เลือกที่จะใช้ Influences เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและลูกค้าใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีความคุ้นเคยกับระบบดิจิตอลอย่างชาวมิลเลนเนียมและ Gen Z ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลที่ใหญ่ที่สุด เช่น อินสตาแกรม โดยเห็นว่าการตลาดแบบนี้จะสามารถเข้าถึงและได้ผลมากกว่าการโฆษณาแบบเดิมๆ


     จากผลการวิจัยของ Fullscreen and Shareablee บอกว่า ผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียมและ Gen Z จะเชื่อในสิ่งที่ Influencers พูดเกี่ยวกับแบรนด์มากกว่าแบรนด์พูดด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม แม้ชื่อเสียงของ Influencers และคุณภาพของ Followers จะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ Influencers ที่มียอด Followers ระหว่าง 250,000 – 19 ล้านคน ถือเป็นกลุ่มที่น่าไว้วางใจและน่าเชื่อถือมากกว่าพวกเซเลบริตี้และ Micro Influencers หรือผู้บริโภคทั่วไป
 

อินสตาแกรม แพลตฟอร์มฮิตสำหรับ Influencer Marketing  

     อินสตาแกรม ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการตลาดแบบใช้ Influencers เรียกได้ว่าทุกแบรนด์ที่ทำการสำรวจใช้เป็นเครื่องมือถึง 100 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือ เฟซบุ๊ก (85 เปอร์เซ็นต์) ยูทูบ (67 เปอร์เซ็นต์) สแนปแชท (44 เปอร์เซ็นต์) ทวิตเตอร์ (33 เปอร์เซ็นต์) วีแชทและพินเทอเรสต์ (19 เปอร์เซ็นต์) และไลน์ (7 เปอร์เซ็นต์) โดยสิ่งที่ใช้เป็นเกณฑ์ตัดสินว่าการตลาดแบบนี้เวิร์กหรือไม่คือ การเข้าถึงและยอดวิว (96 เปอร์เซ็นต์) การมีส่วนร่วม/ปฏิสัมพันธ์ หรือ Engagement (80 เปอร์เซ็นต์) ทราฟฟิก (44 เปอร์เซ็นต์) ความสนใจจากสื่อ (44 เปอร์เซ็นต์) และความคิดเห็นจากผู้ชม (40 เปอร์เซ็นต์)      
 
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: MARKETING

ฟังก์ชันแยกบิลจ่ายได้ เทรนด์ใหม่ที่ร้านอาหารต้องรู้ ลูกค้ายุคใหม่อยากจ่ายเท่าที่กินโดยไม่รู้สึกผิด

ไม่ใช่เรื่องต้องรู้สึกผิดอีกต่อไป หากไปกินอาหารกับเพื่อน แล้วอยากแยกรับผิดชอบจ่ายเฉพาะในส่วนที่ตัวเองสั่ง เทรนด์พฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภคชาวอเมริกาที่หันมาใช้แอปพลิเคชันแยกจ่ายบิลกันมากขึ้น

ต่อยอดธุรกิจยังไงให้อยู่นานและขายดี กรณีศึกษา ALDI ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

ALDI คือ ซูเปอร์มาร์เก็ตสัญญาติเยอรมัน มีต้นกำเนิดมาจาก 2 พี่น้องตระกูล Albrecht คือ “คาร์ล และ ธีโอ อัลเบรชต์” ที่รับช่วงต่อกิจการมาจากแม่ของเขาที่เปิดร้านขายของชำตั้งแต่ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2