​ใครว่า "มนุษย์มิลเลนเนียล" เอาแต่ใจ! เขาแค่อยากได้ความจริงใจจากแบรนด์เท่านั้น





               

     พูดถึงคนกลุ่มมิลเลนเนียล หรือคนยุคใหม่ที่ผู้ใหญ่มักจะมองว่าพวกเขาไม่ค่อยจะมีความอดทน เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ รักอิสระสุดโต่ง เอะอะลาออกจากงานเพื่อตามล่าหาฝัน และเอาแต่ใจตัวเองสุดๆ ซึ่งในการทำธุรกิจถ้าจะไม่ตั้งพวกเขาเป็น Target ก็คงจะไม่ได้ เพราะมนุษย์มิลเลนเนียลนี่แหละที่กำลังเป็น Workforce หรือแรงงานหลักสำคัญของประเทศเรา ในเมื่อพวกเขาทำงาน พวกเขาก็มีกำลังจับจ่ายใช้สอย ดังนั้นอย่าเพิ่งมองว่าพวกเขาเป็นมนุษย์เอาแต่ใจตัวเอง ให้ลองทำความรู้จักกับพวกเขา แล้วคุณจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้ว ลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียลชอบอะไรที่จริงใจเท่านั้นเอง เราเลยจะมาเผยความจริงให้คุณได้รู้ว่า คนกลุ่มนี้รักโฆษณาแบบไหน เกลียดโฆษณาแบบไหนและอยากได้อะไรจากแบรนด์ คุณจะได้ไม่หลงทางเคว้งคว้างท่ามกลางวังวนของมิลเลนเนียลอีกต่อไป
 

คนมิลเลนเนียลมองตัวเองเป็นแบบไหน


     ก่อนที่จะเข้าเรื่องว่ามนุษย์มิลเลนเนียลนั้นอยากได้อะไรจากแบรนด์ ชอบหรือไม่ชอบอะไร มาลองดูกันสักนิดว่าแท้จริงคนกลุ่มนี้เขามองตัวเองเป็นแบบไหน ข้อมูลจาก Fuse Media บอกว่า

     77% บอกว่าพวกเขาเป็นคนเคารพผู้อื่น

     75% บอกว่าตัวเองสมาร์ท ดูดี มีสไตล์

     74% บอกว่าตัวเองเป็นคนเปิดกว้างทางความคิด

     69% บอกว่าพวกเขาเป็นคนใจดี

     68% ของพวกเขาทำงานหนัก

     21% ยอมรับว่าพวกเขาเป็นคนค่อนข้างหัวโบราณ

     18% พวกเขามีงานเสริม

     14% พวกเขาเป็น Social Influencer
 

     แม้เหล่ามิลเลนเนียลจะดูเผินก็คล้ายๆ กันไปหมด ดูเหมือนมี Stereotype แบบเดียวกัน แต่แท้ที่จริงพวกเขามี Multicultural หรือ วัฒนธรรมที่หลากหลาย บางคนทำงานหนัก บางคนรักอิสระ บางคนใจดี บางคนก็เป็นหลายๆ อย่างรวมกัน แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการจากแบรนด์เหมือนๆ กันคือความจริงใจ





ความจริงใจสำคัญไฉน แล้วโฆษณาแบบไหนที่มิลเลนเนียลยี้!   


     การจะทำอะไรในยุคนี้ ความจริงใจต้องมาก่อน บางคนอาจจะคิดว่าไม่เป็นไร ลูกค้าไม่รู้หรอก สุดท้ายคุณอาจจะกลายเป็นแบรนด์ที่ถูกแฉบนโลกโซเชียลว่าหลอกลวงก็เป็นได้ ผู้บริโภคในยุคนี้มีสื่ออยู่ในมือแถมยังหาข้อมูลในเชิงลึกมากกว่าเมื่อก่อน แค่กูเกิ้ลคลิกเดียวก็รู้ข้อมูลทุกอย่างแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าไม่จริงใจก็อาจจะอยู่ยากสักหน่อย
ส่วนเรื่องของโฆษณา Ads และสิ่งที่แบรนด์สื่อสารกับเหล่ามิลเลนเนียล นั้นเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะถ้าพวกเขาไม่ประทับใจคุณตั้งแต่แรกพบ คุณก็อาจจะทำการตลาดกับพวกเขายากขึ้น แต่ถ้าคุณสะกิดความคิดอะไรบางอย่างในตัวเขาได้แล้วล่ะก็ รับรองว่าคุณจะกลายเป็นคนที่พวกเขาสนใจแน่นอน ไหนลองมาดูกันสิว่ามนุษย์มิลเลนเนียลคิดยังไงกันบ้าง


1.ฉันมักจะปิดโฆษณาที่พูดถึงเรื่องเจเนเรชั่นของพวกเราซ้ำซากอยู่นั่นแหละ

     
77% เห็นด้วยกับข้อความนี้ ส่วนอีก 24% ไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่


2.ฉันชอบโฆษณาที่ทำให้ได้คิดถึงประเด็นลึกๆ

     
73% เห็นด้วย ส่วน 28 ไม่ค่อยเห็นด้วย


3.ฉันชอบโฆษณาที่แสดงถึงประสบการณ์ของวัฒนธรรมที่หลากหลาย

     
80% เห็นด้วย ส่วนอีก 20% ไม่เห็นด้วย


4.โฆษณาควรยืดหยัดต่อประเด็นปัญหาต่างๆ

     
64% เห็นด้วย 36% ไม่เห็นด้วย


5.ฉันชอบโฆษณาที่แสดงถึงความคิดเห็นและมุมมองของคนอื่น

     
81% เห็นด้วย 19% ไม่เห็นด้วย


6.ฉันชอบโฆษณาและแบรนด์ที่สื่อสารอย่างตรงไปตรงมา เรียบง่าย

     89% เห็นด้วย 11% ไม่เห็นด้วย


7.ฉันชอบโฆษณาที่มอบมุมมองและจุดประกายอะไรบางอย่างให้ฉัน

     
83% เห็นด้วย 17% ไม่เห็นด้วย


8.ฉันชอบการสื่อสารของแบรนด์ที่ซื่อสัตย์และจริงใจ

     
92% เห็นด้วย 8% ไม่เห็นด้วย


9.ฉันชอบการสื่อสารของแบรนด์ที่ตรงกับชีวิตของฉัน

     
89% เห็นด้วย 11% ไม่เห็นด้วย


10.ฉันชอบแบรนด์ที่กลายเป็นคนสร้างสรรค์เรื่องราวดีๆ มีสตอรี่มากกว่าการขายโพรดักส์อย่างเดียว

     
78% เห็นด้วย 22% ไม่เห็นด้วย
 

     ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าคนกลุ่มมิลเลนเนียลแค่ไม่ชอบความซ้ำซากจำเจ การพูดถึงอะไรเดิมๆ หรือการพูดถึงพวกเขาโดยตรง แต่อยากให้แบรนด์หรือโฆษจุดประกายความคิดอะไรบางอย่าง พูดถึงเรื่องที่ลึกซึ้งให้พวกเขาได้ไปคิดต่อด้วยตัวเอง โยนคำถามปลายเปิดให้พวกเขาแต่ไม่ควรบอกว่าพวกเขาต้องทำอะไร ต้องเป็นอย่างไร นอกจากนี้พวกเขายังรักแบรนด์ที่จริงใจ ซื่อสัตย์และให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์เรื่องราวดีๆ ไม่ใช่แค่ทำโฆษณาขายของเพียงอย่างเดียว
 


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: MARKETING

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง

Color Psychology: จิตวิทยาเรื่องสี ที่แบรนด์ใหญ่ใช้เพิ่มยอดขาย

สี…ก็เปลี่ยนยอดขายได้ ทำไม Facebook ใช้สีน้ำเงิน? ทำไม Chanel ถึงเลือกสีดำทอง? ทำไมฟาสต์ฟู้ดต้องสีแดง-เหลือง? คำตอบอยู่ที่ “Color Psychology” จิตวิทยาของสีที่แบรนด์ใหญ่ใช้สร้างกำไรมาแล้วทั่วโลก