ดั่งเดิม VS ยุคใหม่ …“ขนมไหว้พระจันทร์” แบบไหนโดนใจลูกค้า







     ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ของทุกปี (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10) นอกจากการปฏิบัติตามประเพณีดั้งเดิมของคนจีนแล้ว สิ่งหนึ่งที่หลายคนมักตั้งตารอคอย คือ การได้ลิ้มรสชาติของ ‘ขนมไหว้พระจันทร์’ แสนอร่อยที่มักนิยมทำกันขึ้นมาในช่วงนี้ ด้วยความพิถีพิถัน และรายละเอียดในการทำที่ค่อนข้างมากของตัวขนมเอง กว่าจะได้ออกมาในแต่ละชิ้น ขนมไหว้พระจันทร์ จึงเป็นเหมือนของขวัญเลอค่าที่ผู้คนมักนำมามอบให้แก่กันในโอกาสพิเศษต่างๆ ไม่ใช่เฉพาะในช่วงเทศกาลเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันรูปลักษณ์หน้าตาของขนมไหว้พระจันทร์ก็มีการปรับเปลี่ยนกันไปบ้าง เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยทั้งสีสันลวดลายแบบใหม่ๆ ชนิดของไส้ที่มีให้เลือกมากขึ้น ไปจนถึงการดัดแปลงเป็นขนมไหว้พระจันทร์ยุคใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในปัจจุบันเพิ่มมากขึ้น


     ‘ขนมอิ่มคำสุข’ เป็นหนึ่งในเพจขนมโฮมเมดที่มีการหยิบเอาขนมไหว้พระจันทร์มาทำ เพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่กัน ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบดั้งเดิมคลาสสิกและรูปแบบสมัยใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกเพศทุกวัย





     อรวรรณ เปลี่ยนสุนทร
อดีตสาวออฟฟิศที่ผันตัวเองออกมาทำในสิ่งที่รัก เล่าที่มาของธุรกิจให้ฟังก่อนว่า


     “เพจของเราเป็นเพจขนมโฮมเมดที่มุ่งเน้นทำขนมที่ใช้มอบเป็นของขวัญให้แก่กันเนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ ไม่ใช่ขนมที่หาทานได้ง่ายในทุกวัน ซึ่งในช่วงเวลา 12 เดือนตลอดทั้งปี เรามีการวางแผนไว้แล้วว่าช่วงไหนจะทำขนมตัวไหนออกมาเป็นพิเศษ อย่างตอนนี้ทำออกมาทั้งหมด 9 ตัวด้วยกัน อาทิ ทาร์ตสัปปะรด พายฮ่องกง ขนมไหว้พระจันทร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น”


     โดยอรวรรณอธิบายถึงรูปแบบของขนมไหว้พระจันทร์ในปัจจุบันว่าสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ 1.ขนมไหว้พระจันทร์แป้งคลาสสิกแบบดั้งเดิม ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ตัวแป้งซึ่งผสมรวมกันกับน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้ง และไส้ที่เป็นผลไม้กวนรสชาติต่างๆ 2.ขนมไหว้พระจันทร์ยุคใหม่ ที่มีการปรับเนื้อแป้งให้มีความเป็นนมและเนยเหมือนเบเกอรี่ยุคใหม่เพิ่มมากขึ้น ส่วนตัวไส้ก็เป็นไส้คัสตาร์ดรสชาติต่างๆ ที่มีความหวานมันล้อไปด้วยกัน โดยนอกจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้ากับความต้องการและเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคยุคใหม่เพิ่มขึ้นแล้ว หน้าตาและสีสันของขนมไหว้พระจันทร์ยังมีการตกแต่งให้สวยงามเพิ่มมากขึ้นด้วย สำหรับขนมไหว้พระจันทร์ของขนมอิ่มคำสุขนั้น ก็มีให้เลือกทั้งสองประเภทเช่นกัน ทั้งแบบดั้งเดิมและแบบแป้งยุคใหม่




     “ของเราจะทำทั้งสองรูปแบบ เพื่อให้เป็นทางเลือกกับลูกค้า สำหรับแบบสูตรแป้งดั้งเดิมนั้นเราจะมีการปรับความหวานให้กำลังดี ไม่มากไป มีการนำธัญพืชชนิดต่างๆ มาทำเป็นไส้ให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยเน้นวัตถุดิบพรีเมียม เช่น Macadamia, Almond, Green Cherry, Cran Berry และเน้นตกแต่งสีสันให้สวยงาม มีการนำผงสีจากผักผลไม้มาใช้ระบายเป็นรูปต่างๆ ไม่ใส่สารกันบูด หรือวัตถุกันเสียใดๆ ไส้ที่นิยมได้แก่ เม็ดบัว, โยงอิ้ง (ฟัก+ธัญพืช) ตัวที่เป็นไฮไลท์ คือ ไส้เก้าเซียน โดยใส่ธัญพืชทั้ง 9 ชนิด ราคาขายของเราหากเป็นไส้ทั่วไปเฉพาะตัวขนมจะอยู่ที่ก้อนละ 99 บาท ไส้เก้าเซียน 109 บาท  ส่วนแพ็กเกจจิ้งก็ขึ้นอยู่ที่ลูกค้าเลือก เพื่อนำไปมอบเป็นของขวัญให้แก่กัน ส่วนขนมไหว้พระจันทร์ยุคใหม่ที่เป็นไส้คัสตาร์ด เราจะเรียกว่าเป็นขนมไหว้พระจันทร์แฟนซี เพราะมีสีสันให้ลูกค้าเลือกมากมาย บางครั้งลูกค้าสั่งหลายสีในก้อนเดียวกัน เราก็ทำให้ได้ โดยขนมของเราจะใช้วิธีให้สั่งเป็นออร์เดอร์เข้ามา บางครั้งเราก็ใช้วิธีประกาศรับออร์เดอร์ ว่าช่วงไหนจะทำขนมตัวไหน หากสนใจสามารถสั่งจองได้ เราไม่ได้ทำไว้รอลูกค้า เพราะต้องการให้เขาได้ทานขนมที่สดใหม่ คุณภาพดี และเราก็ยังเป็นโฮมเมดเล็กๆ ด้วย”





     ในส่วนของความนิยมระหว่างขนมไหว้พระจันทร์แป้งคลาสสิกแบบดั้งเดิม และขนมไหว้พระจันทร์ยุคใหม่ไส้คัสตาร์ดนั้น อรวรรณกล่าวว่าสำหรับลูกค้าของเธอเองความนิยมไม่ได้แตกต่างกันเลย ไม่ว่าวัยผู้ใหญ่หรือวัยรุ่นก็นิยมทั้งสองชนิดเช่นกัน


     “คนส่วนใหญ่อาจเข้าใจว่าถ้าเป็นขนมไหว้พระจันทร์แป้งคลาสสิกแบบดั้งเดิม คนซื้อต้องเป็นเฉพาะวัยผู้ใหญ่เท่านั้น หรือขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ดจะต้องเป็นเฉพาะวัยรุ่นเท่านั้นที่สนใจซื้อ สำหรับลูกค้าของเราแล้วไม่ใช่แบบนั้น บางครั้งผู้ใหญ่เขาต้องการความแปลกใหม่ ถึงแม้จะชอบไส้และแป้งคลาสสิกแบบดั้งเดิม แต่ก็อยากลองของใหม่ด้วย บางครั้งก็นำไปมอบให้ลูกให้หลาน หรือเด็กวัยรุ่นด้วยความที่เขารู้ว่าถ้าพูดถึงขนมไหว้พระจันทร์ต้นตำรับแท้ๆ ต้องเป็นแป้งคลาสสิกเขาก็สนใจอยากซื้อ อยากลอง เพราะที่เราทำออกมาก็มีสีสันสวยงาม ดึงดูดใจ น่าซื้อ น่านำไปมอบเป็นของขวัญด้วย เรียกว่าขึ้นอยู่กับว่าเขานำไปมอบให้กับใคร เนื่องในวาระโอกาสอะไรมากกว่า





     เพราะทุกวันนี้ขนมไหว้พระจันทร์ ไม่ได้นิยมใช้แต่เฉพาะในช่วงเทศกาลเท่านั้น เดี๋ยวนี้โอกาสสำคัญอะไรต่างๆ แสดงความยินดี ความขอบคุณ เขาก็นิยมมอบให้แก่กัน ขนมไหว้พระจันทร์สมัยนี้อาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ดัดแปลงสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามามากขึ้น อย่างตอนนี้ที่จีนเองนิยมทำไส้แบบลาวากันมาก หรืออย่างที่เวียดนามที่ใช้ผงทองโรยเพื่อเพิ่มมูลค่า ยังไม่ค่อยเห็นในเมืองไทย แต่เราก็เองก็มีรับทำบ้างในออร์เดอร์ที่สั่งพิเศษจริงๆ แต่ขนมไหว้พระจันทร์ก็ยังคงเป็นขนมชั้นสูง มีความเลอค่า เป็นตัวเลือกที่ผู้คนนิยมมอบให้กันเนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ เหมือนกับความหมายของขนมไหว้พระจันทร์ที่สื่อถึงความรักความผูกพันของคนในครอบครัว ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ให้กลับมาเจอกัน นั่งมองดวงจันทร์ด้วยกัน แบ่งปันขนมให้กันกิน เป็นความรักใคร่สามัคคีกลมเกลียวกันในครอบครัว ความหมายดีๆ ตรงนี้ก็ยังคงอยู่”
               

     
และนี่คือ เรื่องราวของขนมไหว้พระจันทร์ในยุคนี้ ที่แม้อาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ดูแตกต่าง เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคยุคใหม่ไปบ้าง แต่คุณค่า ความคลาสสิกแบบดั้งเดิมก็ยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปกี่ยุคกี่สมัยก็ตาม


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น

รวมกับดักการตลาด ที่กำลัง “ฆ่า” SME แบบไม่รู้ตัว ดูวิธีรอดที่ทำได้ทันที

พาไปแกะทีละข้อ ว่าทำไม “สูตรยิงแอด” หรือ “สูตรทำคอนเทนต์” ที่เวิร์กกับคนอื่น ถึงไม่เวิร์กกับคุณ พร้อมชี้ทางออก ที่จะทำให้การสื่อสารแบรนด์กลับมา “เข้าเป้า” ได้จริง