​เทียบชั้นสตาร์บัคส์ “ดังกิ้น” เปลี่ยนโฉมร้านเพิ่มเมนูกาแฟหวังชิงลูกค้า





Cr : CNBC
               
               
     หลังจากที่มีความเคลื่อนไหวเรื่องการปรับชื่อแบรนด์ของ “ดังกิ้น โดนัท” ร้านโดนัทที่ใหญ่สุดในอเมริกาโดยการตัดคำว่าโดนัทออกให้เหลือเพียง ”ดังกิ้น” ความคืบหน้าล่าสุดคือการปรับโฉมร้านใหม่ไฉไลกว่าเดิม ทั้งเพิ่มไลน์เครื่องดื่มเย็นแบบกดจากเครื่อง จัดมุมที่มีโต๊ะเก้าอี้ให้ลูกค้านั่งดื่มกิน ทั้งหมดทั้งปวงเป็นผลจากกลยุทธ์การ rebranding ของบริษัทที่ต้องการปรับภาพลักษณ์เพื่อฉีกภาพจำการเป็นแบรนด์โดนัทไปเน้นที่ธุรกิจเครื่องดื่มโดยเฉพาะกาแฟแทน
               

     รายงานระบุปัจจุบันผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสร้างรายได้ให้ดังกิ้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ของยอดขายทั้งหมด แม้จะหันไปเอาดีด้านธุรกิจเครื่องดื่ม แต่ในส่วนของโดนัท บริษัทก็ยังให้ความสำคัญเนื่องจากยังสามารถทำยอดขายได้ปีละมากกว่า 3,000 ล้านชิ้น หลังจากที่ทยอยเปลี่ยนป้ายชื่อร้านโดยคาดว่าทุกสาขาในอเมริกาจะเปลี่ยนแล้วเสร็จในเดือนม.ค.ปีหน้า ดังกิ้นก็ได้ดำเนินกลยุทธ์ต่อไปอันเป็นส่วนหนึ่งของ rebranding คือการปั้น “ร้านในอนาคต” โดยร้านดังกิ้นรูปแบบใหม่มีการปรับรูปลักษณ์ให้ดูทันสมัย ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีการเปิดตัวร้านรูปแบบใหม่ไปแล้ว 50 สาขา
 
 

Cr : Business insider
 
               
     ภายในร้านดังกิ้นโฉมใหม่ นอกเหนือจากการติดตั้งระบบสั่งสินค้าผ่านจอดิจิทัล และการเพิ่มโต๊ะเก้าอี้ให้ลูกค้าได้นั่งละเลียด ที่โดดเด่นสุดเห็นจะเป็นบาร์เครื่องดื่มเย็นที่กดจากเครื่อง โดยมีหลากหลายชนิดให้เลือก ได้แก่ กาแฟสกัดเย็น กาแฟสกัดเย็นอัดไนโตรเจนที่ให้ฟองนุ่มเหมือนเบียร์ กาแฟปลอดคาเฟอีน กาแฟแบบคั่วเข้ม กาแฟสายพันธุ์เดียวจากแหล่งปลูกเดียว ไปจนถึงกาแฟเย็น และชาเย็น และดูเหมือนกาแฟหลากหลายชนิดที่ดังกิ้นนำเสนอจะเป็นที่ถูกปากผู้บริโภคไม่น้อย
               

     แน่นอนว่าการปรับเปลี่ยนที่กำลังเกิดขึ้นเป็นการท้าชนสตาร์บัคส์ซึ่งเป็นเจ้าในตลาดกาแฟ แม้จะก่อตั้งหลังดังกิ้นถึง 20 ปี แต่สตาร์บัคส์กลับเติบโตอย่างก้าวกระโดดทำให้ธุรกิจของสตาร์บัคส์มีขนาดใหญ่กว่าดังกิ้น โดยในปี 2017 ที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ทำรายได้กว่า 2,200 ล้านดอลลาร์จากทั้งหมด 28,209 สาขาทั่วโลก ในขณะที่ดังกิ้นทำยอดขาย 860 กว่าล้านดอลลาร์จาก 20,500 สาขา  เมื่อเทียบจำนวนสาขาเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ สตาร์บัคส์มี 14,000 แห่ง ส่วนดังกิ้นมีเกือบ 9,200 สาขา
               

     ดูเหมือนว่าในตอนนี้ สตาร์บัคส์จะมีแต้มต่อเหนือกว่าในเรื่องของภาพลักษณ์และคุณภาพกาแฟ ทั้งนี้ สตาร์บัคส์วางตำแหน่งที่การเป็นแบรนด์กาแฟพรีเมี่ยมมากกว่าเมื่อเทียบกับดังกิ้น เมนูกาแฟที่นำเสนอก็หลากหลายกว่า และลูกค้าปรับรสชาติตามความชอบได้มากกว่า ซึ่งการ customize นี้แสดงออกผ่านการเขียนชื่อลูกค้าลงบนแก้วนั่นเอง นอกจากนั้น บรรยากาศในร้านสตาร์บัคส์ยังเอื้อให้ลูกค้านั่งจิบกาแฟนาน ๆ มีไวไฟให้ใช้ฟรี ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าราคากาแฟจะสูงกว่าเจ้าอื่นก็ไม่เป็นไร  คงต้องจับตาดูต่อไปว่าดังกิ้นซึ่งมีข้อได้เปรียบเรื่องกาแฟราคาถูกกว่าและที่ผ่านมาจับตลาดชนชั้นกลาง หลังจากปรับกลยุทธ์และรีแบรนดิ้งครั้งนี้จะสามารถโค่นสตาร์บัคส์ได้หรือไม่ 
 


อ้างอิง
www.investopedia.com/articles/markets/120215/starbucks-vs-dunkin-donuts-comparing-business-models.asp
www.cnbc.com/2018/09/25/dunkin-will-drop-donuts-from-its-logo-after-successful-test.html
www.businessinsider.com/dunkin-donuts-rebranding-stores-photos-details-2018-8#one-of-the-biggest-changes-rolling-out-in-the-dunkin-test-is-the-addition-of-a-tap-system-for-cold-drinks-6



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

มิติใหม่แห่งการย้อมสีผม ใช้ “ใบตอง” แทนฟอยล์ ลดต้นทุน ลดโลกร้อนง่ายๆ แบบ 2 in 1  

ปกติเวลาที่พูดถึงใบตองสด ภาพแรกๆ ที่เด้งขึ้นมาในหัวของเรา ไม่ใช้ห่อขนมไทย ก็คงนึกถึงเทศกาลลอยกระทง แต่วันนี้น้องใบกล้วยสีเขียวคุ้นตานั้นมาในลุคที่เดิร์นกว่าคือ “ใช้ห่อผมเวลาทำสี” แทนฟอยล์กันแล้ว

เคสยาดม ชวนหิว ไอเดียทำเงิน จากไอเทมฮิต ว้าว! จนอยากหยิบมาใช้

พบไอเดียสุดเก๋ “เคสยาดม ฉบับคนหิว” ที่นำเอาเมนูสรีทฟู้ดแบบไทยๆ รวมถึงอาหารฟาสฟู้ดมาปั้นด้วยดินไทย ทำเป็นเมนูต่างๆ อาทิ ผัดไท, ส้มตำ, ก๋วยเตี๋ยว, มาม่า ต้มยำกุ้ง, แฮมเบอร์เกอร์, ถังไก่ KFC

รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ปลุกความกลัวพลาด ที่ช่วยเร่งยอดขายโต

ลูกค้าไม่ได้ซื้อเพราะอยากได้เสมอไป แต่ซื้อเพราะ ‘กลัวพลาด’ รู้จัก FOMO Marketing กลยุทธ์ต้นทุนต่ำที่ช่วยให้ SME ปิดการขายได้ไวขึ้น