อัพเดต 5 เทรนด์แพ็คเกจจิ้งปี 2019 ที่ลูกค้าเห็นแล้วโดน!






               
     ใครบอก...แพ็คเกจจิ้งไม่สำคัญ!

     
     ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่ผู้บริโภคไม่ได้ซื้อของเพียงเพราะอยากได้ผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว แต่ซื้อเพราะหลายปัจจัยรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นเพราะชื่อเสียงของแบรนด์ เพราะการดีไซน์ การออกแบบ สีสันไปจนถึงซื้อเพราะแพ็คเกจจิ้งสวยน่ารักโดนใจ เห็นแล้วน่าหยิบ เป็นต้น


     แพ็คเกจจิ้งเป็นสิ่งที่ลูกค้าของคุณจะเห็นก่อนเป็นอันดับแรก เป็นสิ่งที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์และแบรนด์ของคุณโดดเด้งออกมาจากอีกหลายผลิตภัณฑ์บนชั้นวางเดียวกัน ถ้าหากว่าสินค้าดีแค่ไหนแต่แพ็คเกจจิ้งไม่ดึงดูดใจก็ยากสักหน่อยที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ เพราะฉะนั้นการที่ผู้ประกอบการ SME ได้รู้เรื่องเทรนด์ก่อน ยิ่งได้เปรียบ เพราะจะทำให้คุณได้รู้ว่าแนวโน้มของการออกแบบแพ็คเกจจิ้งในปีหน้าจะไปในทิศทางไหน มีอะไรที่น่าสนใจและจะนำไปปรับใช้กับแบรนด์คุณได้อย่างไรบ้าง
 




Trend 1 ... สวยใสสไตล์พาสเทล



     สีหวานๆ กำลังมาแรง โดนใจสาวๆ ส่วนใหญ่อย่างแน่นอนกับการใช้สีพาสเทลในการออกแบบแพ็คเกจจิ้ง โดยสีพาสเทลจะเน้นเป็นสีโทนอ่อน ดูอบอุ่น อ่อนหวาน เช่น สีชมพูนม สีเขียวมิ้นท์ สีฟ้า สีเหลืองอ่อน เป็นต้น แต่ไม่ใช่ทุกแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ที่จะเข้ากับสีพาสเทลได้ เนื่องจากสีพาสเทลจะให้ความรู้สึกอบอุ่น ถ้าหากแบรนด์คุณต้องการความสตรอง แข็งแรง หนักแน่น แมนๆ การใช้สีพาสเทลอาจจะไม่เหมาะนัก  

 


​Trend 2...เรียบง่ายแบบมินิมอลยังไม่ตกยุค


     ความ Minimalist ยังเป็นอะไรที่ยังคงคลาสสิก ไม่ตกยุคง่ายๆ กับการออกแบบที่ดูเรียบง่ายแต่ไม่ได้ง่ายกว่าที่คิด กว่าที่แพ็กเกจจิ้งชิ้นหนึ่งจะถูกดีไซน์ออกมาแล้วดูเรียบง่าย สะดุดตา ต้องผ่านกระบวนการคิดมาค่อนข้างซับซ้อน ต้องนำข้อมูลต่างๆ ที่มีมาย่อยและดีไซน์ให้ดูง่ายที่สุด แต่กลับเป็นแพ็คเกจจิ้งที่ดึงดูดใจผู้ซื้อได้มากทีเดียว ด้วยความที่คนเดี๋ยวนี้ชอบอะไรที่ดูง่ายๆ ดูคลีน สะอาดตา ทำให้แพ็คเกจจิ้งแบบมินิมอลยังได้รับความนิยมอยู่เสมอ
 



Trend 3...ลายเส้นแบบ Doodle



     คุณเคยเห็นการวาดภาพแบบลายเส้นดูสะเปะสะปะ ขยุกขยุย ไม่ได้เป็นเส้นตรงเหมือนรูปวาดทั่วไปมั้ย นี่แหละคือศิลปะแบบ Doodle ที่คล้ายกับเป็นเส้นวาดของเด็กน้อยแต่กลับดูน่ารักและมีความเก๋ไก๋ในสไตล์ของตัวเอง การใช้ศิลปะ Doodle บนแพ็คเกจจิ้งก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณมีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว โดยการใช้การวาดภาพแบบ Doodle ที่ดูเหมือนการเขียนด้วยลายมือ หลายๆ คำ หลายๆ ประโยครวมกัน แต่ละประโยคอาจจะเป็นคำโฆษณา คุณสมบัติ ไปจนถึงคติพจน์ของแบรนด์ ที่ถูกนำเสนอด้วยรูปแบบน่ารักแบบนี้ก็น่าจะทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นท่ามกลางแบรนด์อื่นๆ
 



Trend 4...ใช้ตัวอักษรให้โดดเด่น



     อีกหนึ่งเทรนด์การออกแบบแพ็คเกจจิ้งที่น่าสนใจคือการเน้นตัวอักษรแบบ Typography หรือการจัดวางตัวอักษรในการสื่อสารให้ดูสวยงาม มีสไตล์ ได้เอกลักษณ์ของแบรนด์ ความยากของการออกแบบลักษณะนี้คือจะทำยังไงให้ตัวอักษรสื่อถึงสิ่งที่แบรนด์ต้องการจะบอกแก่ลูกค้าได้ ทำอย่างไรให้ตัวอักษรโดดเด่นและดึงดูดให้ผู้คนอยากที่จะหยิบผลิตภัณฑ์ของเรา อาจจะต้องมีการเล่นกับสีของตัวอักษร การจัดเรียง การเล่นคำ ไม่ได้มีกฎเกณฑ์ใดๆ ตายตัว แค่ทำยังไงก็ได้ให้แพ็คเกจจิ้งของคุณดูดีภายใต้ตัวอักษรนั้น
 



​Trend 5...รักษ์โลกด้วยวัสดุรีไซเคิล


     ยุคนี้เป็นยุคที่ผู้บริโภคหลายคนให้ความสำคัญกับการรักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อม หากว่าแบรนด์ของคุณชูจุดเด่นตรงนี้ขึ้นมาได้ก็น่าจะทำให้ผู้บริโภคสนใจแบรนด์ของคุณได้ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะการออกแบบแพ็คเกจจิ้งภายใต้โจทย์นี้ด้วยการใช้วัสดุจากการรีไซเคิล เช่น ออกแบบแพ็คเกจจิ้งจากพลาสติกใช้แล้วนำมารีไซเคิลใหม่ให้กลายเป็นแพ็คเกจจิ้งเก๋ๆ ไม่เหมือนใครหรือมาจากเศษวัสดุที่เหลือใช้ในโรงงาน ทำความสะอาดและออกแบบดีไซน์ใหม่ ข้อดีคือการลดขยะ ลดโลกร้อน ใช้วัสดุให้คุ้มค่า ถ้าหากคุณทำให้ผู้บริโภคเห็นถึงคุณค่าของการออกแบบแพ็คเกจจิ้งในรูปแบบนี้ได้จะทำให้แบรนด์ของคุณได้ใจผู้บริโภคไปเต็มๆ



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: MARKETING

ธุรกิจเล็กก็ชนะได้ ถ้าเข้าใจ Trust Economy กลยุทธ์ใหม่ที่เร่งยอดขายได้จริง ในยุคที่ความเชื่อใจขาดแคลน

ธุรกิจเล็กอาจไม่มีงบมาก แต่ถ้ารู้จัก “Trust Economy” ก็สร้างแบรนด์ให้เติบโตเร็วกว่าได้ แม้ไม่มีงบโฆษณาหลักล้าน เพราะในยุคที่ข้อมูลปลอม รีวิวปลอม และการตลาดที่พูดเกินจริงล้นโซเชียล “ความเชื่อใจ” กลายเป็นสินค้าหายากที่สุดในตลาดวันนี้

เสื้อยืดไก่ทอดหาดใหญ่ แฟชั่นอร่อย ไอเดียขายเสื้อสุดครีเอท ใครเห็นก็อยากลองซื้อไปกิน เอ้ย! ลองใส่

ไอเดียเสื้อยืดลายไก่ทอดหาดใหญ่ ที่หยิบเอากระดาษห่อข้าวเหนียวไก่ทอด หมูทอด มาทำเป็นแพ็กเกจจิ้งสินค้า และเพิ่มความเหมือนอารมณ์ข้าวเหนียวไก่ทอดแท้ๆ ยิ่งเข้าไปอีก ด้วยการปริ้นกระดาษเป็นรูปห่อน้ำจิ้มติดเอาไว้ด้วย

ทำไมผู้ประกอบการไทยถึงสนใจลงทุน ธุรกิจร้านซักผ้าอัตโนมัติ 24 ชม. ไม่มีพนักงาน ไม่มีสต็อก แต่อยู่ได้ด้วยระบบอัตโนมัติ

ร้านซักผ้าหยอดเหรียญอัตโนมัติ เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมและถูกยกให้เป็น “อาชีพที่สอง” ที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง ด้วยจุดเด่นคือ ไม่ต้องมีสต็อกสินค้า ไม่ต้องกังวลเรื่องวันหมดอายุ ไม่ต้องบริหารพนักงาน และสามารถสร้างรายได้ตลอด 24 ชั่วโมง